TimelineOn January 5, 1172, Donna B

Timeline
On January 5, 1172, Donna Berta di Bernardo, a widow and resident of the house of dell'Opera di Santa Maria, bequeathed sixty soldi to the Opera Campanilis petrarum Sancte Marie. The sum was then used toward the purchase of a few stones which still form the base of the bell tower.[13]
On August 9, 1173, the foundations of the Tower were laid.
Nearly four centuries later Giorgio Vasari wrote: "Guglielmo, according to what is being said, in [this] year 1174 with Bonanno as sculptor, laid the foundations of the bell tower of the cathedral in Pisa."
On December 27, 1233, the worker Benenato, son of Gerardo Bottici, oversaw the continuation of the construction of the bell tower.[14]
On February 23, 1260, Guido Speziale, son of Giovanni, a worker on the cathedral Santa Maria Maggiore, was elected to oversee the building of the Tower.[15]
On April 12, 1264, the master builder Giovanni di Simone and 23 workers went to the mountains close to Pisa to cut marble. The cut stones were given to Rainaldo Speziale, worker of St. Francesco.[16]
Giorgio Vasari indicates that Tommaso di Andrea Pisano was the designer of the belfry[17] between 1360 and 1370.

ผลลัพธ์ (ไทย) 1:

ไทม์ไลน์บน 5 มกราคม 1172, Donna แบร์ทต้า di เบอร์นาร์โด แม่ม่ายและถิ่นที่อยู่ของบ้านของเปรา di Santa Maria ยกสิบ soldi ไป petrarum Campanilis โอเปร่า Sancte Marie ผลรวมถูกใช้แล้วไปซื้อหินกี่ซึ่งยังคง เป็นฐานของหอระฆัง [13]บน 9 สิงหาคม 1173 ถูกวางรากฐานของตึกเกือบสี่ร้อยปีภายหลังจิออร์จิโอก็เขียน: "กุลิเอลโม ตามสิ่งที่คนพูด ในปี 1174 [นี้] ด้วยโบนานเป็นประติมากร วางรากฐานของหอระฆังของโบสถ์ในปิซา"บน 27 ธันวาคม 1233, Benenato บุตรของอลอนโซ่ Bottici ผู้ปฏิบัติงานดูแลความต่อเนื่องของการก่อสร้างหอระฆัง [14]บน 23 กุมภาพันธ์ 1260 ของ Guido Speziale บุตรของ Giovanni ผู้ปฏิบัติงานในมหาวิหารซานตามาเรียมัจจอเร ได้รับเลือกให้ดูแลอาคารของหอ [15]บน 12 เมษายน 1264 ตัว Giovanni di Simone สร้างหลักและแรงงาน 23 ไปภูเขาใกล้กับปิซาตัดหินอ่อน ตัดหินได้รับการ Rainaldo Speziale ผู้ปฏิบัติงานของเซนต์ฟรานเชส [16]จีออร์จีโอก็บ่งชี้ว่า เหมือน di Andrea Pisano เป็นผู้ออกแบบหอระฆัง [17] ระหว่าง 1360 1370

ผลลัพธ์ (ไทย) 2:

Timeline
เมื่อวันที่ 5 มกราคม 1172 เอก Berta di Bernardo ม่ายและถิ่นที่อยู่ในบ้านของ dell'Opera di Santa Maria ที่พินัยกรรมหกสิบ Soldi กับโอเปร่า Campanilis petrarum Sancte มารี . ผลรวมจากนั้นก็ใช้ไปซื้อของไม่กี่ก้อนหินซึ่งยังคงเป็นฐานของหอระฆังที่ [13]
. เมื่อวันที่ 9 สิงหาคม 1173 ฐานรากของอาคารที่ถูกวางไว้
เกือบสี่ศตวรรษต่อมา Giorgio Vasari เขียน: "Guglielmo, ตามสิ่งที่ถูกกล่าวใน [นี้] ในปี 1174 กับโบนันโนเป็นประติมากรวางรากฐานของหอระฆังของโบสถ์ในปิซา. "
เมื่อวันที่ 27 ธันวาคม 1233, คนงาน Benenato ผู้เป็นบุตรชาย Gerardo Bottici คุมต่อเนื่อง ของการก่อสร้างหอระฆังได้. [14]
เมื่อวันที่ 23 กุมภาพันธ์ 1260 กุย Speziale ลูกชายของจิโอวานนี่คนงานในวิหาร Santa Maria Maggiore ได้รับเลือกให้เป็นผู้ดูแลอาคารของหอ. [15]
เมื่อวันที่ 12 เมษายน 1264 การสร้างต้นแบบ Giovanni di Simone และ 23 คนงานไปภูเขาใกล้กับปิซาในการตัดหินอ่อน หินตัดถูกมอบให้กับ Rainaldo Speziale คนงานของนักบุญฟรานเชส. [16]
Giorgio Vasari แสดงให้เห็นว่าทอมมาโซดิเอนเดรีย Pisano เป็นดีไซเนอร์ของหอระฆังที่ [17] ระหว่าง 1360 และ 1370

ผลลัพธ์ (ไทย) 3:

เส้นเวลาเมื่อวันที่ 5 , 1172 , Donna เบอร์ di Bernardo , แม่หม้ายและถิ่นที่อยู่ของบ้าน dell"opera di Santa Maria , ยกมรดกให้หกสิบ soldi ไปโอเปร่า campanilis คริสตจักร petrarum Marie รวมแล้วใช้ไปซื้อหินไม่กี่ซึ่งยังคงรูปแบบฐานของหอระฆัง [ 13 ]สิงหาคม 9 , 818 , ฐานรากของอาคารมีการวางเกือบสี่ศตวรรษต่อมา จอร์โจ วาซารีเขียน : " กูกลีเอลโม ตามสิ่งที่ถูกกล่าวใน [ ] ในปี 1174 กับโบนาเป็นประติมากร วางรากฐานของหอระฆังของมหาวิหารปิซา”เมื่อวันที่ 27 ธันวาคม benenato 1233 , คนงาน , ดูแล bottici ลูกชายของเคราร์โด , ความต่อเนื่องของการสร้างหอระฆัง [ 14 ]บนกุมภาพันธ์ 23 , 940 , Guido speziale ลูกชายของ โจวานนี คนงานในมหาวิหารซานตามาเรียมายอเร ก็เลือกที่จะดูแลอาคารของหอ [ 15 ]เมื่อวันที่ 12 เมษายน 1 , สร้างต้นแบบ Giovanni di Simone 23 คนงานไปภูเขาใกล้กับปิซา ตัดหินอ่อน การตัดหิน ให้ rainaldo speziale คนงานของ เซนต์ ฟรานซิสโก้ [ 16 ]จอร์โจ วาซารี แสดงว่าทอมมาโซ ดิ อันเดรอาปิซาโนเป็นนักออกแบบของหอระฆัง [ 17 ] และระหว่าง 1360 1370 .