The `hygiene-motivation' or `two fa

The `hygiene-motivation' or `two factor' theory resulted from research with two hundred Pittsburgh
engineers and accountants. These people were asked what pleased and displeased them about their
jobs. From their responses, Herzberg concluded that man has two sets of needs:
lower level needs as an animal to avoid pain and deprivation
higher level needs as a human being to grow psychologically.
Some factors in the workplace meet the first set of needs but not the second and vice versa. The first
group of factors he called `hygiene factors' and the second, `motivators'.
Herzberg also coined the term `job enrichment', a technique which grew out of the hygiene-motivation
theory. Job enrichment involved including motivators in the design of jobs. In his famous Harvard
Business Review article (One more time: how do you motivate employees? published in 1968)
Herzberg also invented the acronym KITA (Kick In The Ass) to explain personnel practices such as
wage increases, fringe benefits and job participation which were developed as attempts to instil
motivation but are only short-term solutions

ผลลัพธ์ (ไทย) 1:

'อนามัยแรงจูงใจ"หรือ"คูณสอง"ทฤษฎีผลจากงานวิจัยมีสองร้อยพิตส์เบิร์กวิศวกรและผู้จัดทำบัญชี คนเหล่านี้ถูกถามอะไรยินดี และ displeased พวกเขาเกี่ยวกับการงาน จากการตอบรับ Herzberg สรุปว่า มนุษย์มีสองชุดของความต้องการ:ระดับล่างต้องเป็นสัตว์เพื่อหลีกเลี่ยงความเจ็บปวดและภาวะขาดระดับสูงที่ต้องการเป็นมนุษย์เติบโต psychologicallyปัจจัยบางอย่างในทำงานตรงกับความต้องการ แต่ไม่ที่สอง และในทางกลับกันการ ครั้งแรกกลุ่มปัจจัยที่เขาเรียกว่า 'ปัจจัยอนามัย' และสอง 'motivators'Herzberg ยังเป็นคำว่า 'งานโดดเด่น' เทคนิคที่เกิดขึ้นจากอนามัยแรงจูงใจทฤษฎีการ เติมเต็มงานเกี่ยวข้องกับรวม motivators ในการออกแบบของงาน ในฮาร์วาร์ดที่มีชื่อเสียงของเขาบทความทบทวนธุรกิจ (อีกครั้ง: วิธีทำคุณจูงใจพนักงานหรือไม่เผยแพร่ในปี 2511)Herzberg ยังคิดค้นอักษรย่อคิตะ (เตะในตูด) อธิบายแนวทางปฏิบัติของบุคลากรเช่นค่าจ้างเพิ่มขึ้น สวัสดิการ และเข้าร่วมงานซึ่งได้รับการพัฒนาเป็นความพยายามที่จะ instilแรงจูงใจแต่มีเฉพาะการแก้ไขปัญหาระยะสั้น

ผลลัพธ์ (ไทย) 2:

ทฤษฎี `สุขอนามัยแรงจูงใจ 'หรือ` สองปัจจัย'
เป็นผลมาจากการวิจัยที่มีสองร้อยพิตส์เบิร์กวิศวกรและนักบัญชี
คนเหล่านี้ถูกถามสิ่งที่ยินดีและไม่พอใจของพวกเขาพวกเขาเกี่ยวกับงาน จากการตอบสนองของพวกเขา Herzberg ได้ข้อสรุปว่าคนที่มีสองชุดของความต้องการ: ความต้องการระดับที่ต่ำกว่าเป็นสัตว์ที่จะหลีกเลี่ยงความเจ็บปวดและการกีดกันความต้องการระดับที่สูงขึ้นในฐานะมนุษย์ที่จะเติบโตทางจิตใจ. ปัจจัยบางประการในการทำงานตอบสนองชุดแรกของความต้องการ แต่ไม่ ที่สองและในทางกลับกัน เป็นครั้งแรกที่กลุ่มของปัจจัยที่เขาเรียกว่า `ปัจจัยสุขอนามัยและสอง` แรงจูงใจ '. Herzberg ยังบัญญัติศัพท์ `งานเพิ่มคุณค่า' เทคนิคที่งอกออกมาจากแรงจูงใจด้านสุขอนามัยที่ทฤษฎี เพิ่มคุณค่าในงานที่เกี่ยวข้องกับการรวมถึงแรงจูงใจในการออกแบบงาน ในที่มีชื่อเสียงฮาร์วาร์ของเขาบทความรีวิวธุรกิจ (อีกครั้งหนึ่ง: คุณจะทำอย่างไรกระตุ้นให้พนักงานที่ตีพิมพ์ในปี 1968) Herzberg ยังเป็นผู้คิดค้นตัวย่อ KITA (เตะในลา) ที่จะอธิบายการปฏิบัติของบุคลากรเช่นการเพิ่มขึ้นของค่าจ้างสวัสดิการและการเข้าร่วมงานซึ่งเป็นการพัฒนาเป็นความพยายามที่จะปลูกฝังแรงจูงใจ แต่เป็นเพียงการแก้ปัญหาระยะสั้น

ผลลัพธ์ (ไทย) 3:

" อนามัยแรงจูงใจ ' หรือ ' ทฤษฎีปัจจัยสอง เป็นผลจากการวิจัยกับสองร้อยพิตส์เบิร์ก
วิศวกรและนักบัญชี คนเหล่านี้ถูกถามว่า พอใจ ไม่พอใจ เกี่ยวกับงาน

จากการตอบสนองของพวกเขา ) สรุปได้ว่า มนุษย์มีสองชุดของความต้องการ :
ลดระดับความต้องการเป็นสัตว์เพื่อหลีกเลี่ยงความเจ็บปวดและการสูญเสียระดับ
สูงกว่าความต้องการเป็นคนเติบโตทางจิตใจ .
ปัจจัยบางอย่างในที่ทำงานตอบสนองความต้องการของชุดแรก แต่ไม่ใช่ครั้งที่สอง และในทางกลับกัน กลุ่มแรก
ปัจจัยที่เขาเรียกว่า ' ปัจจัย ' สุขอนามัยและสอง ' แรงจูงใจ '
) ยังใช้คำว่า ` งานเสริม ' เทคนิคซึ่งเพิ่มขึ้นจากอนามัยแรงจูงใจ
ทฤษฎี การเพิ่มคุณค่าในงานที่เกี่ยวข้อง ได้แก่ แรงจูงใจในการออกแบบงาน ในที่มีชื่อเสียงของเขาฮาร์วาร์ด
บทความทบทวนธุรกิจ ( อีกครั้ง : คุณจูงพนักงาน ? ตีพิมพ์ในปี 1968 )
) ยังคิดค้นตัวย่อคิตะ ( เตะในก้น ) เพื่ออธิบายการปฏิบัติงานของเจ้าหน้าที่ เช่น
เพิ่มค่าจ้างสวัสดิการ และการมีส่วนร่วม , งานที่พัฒนาขึ้น เป็นความพยายามที่จะปลูกฝัง
แรงจูงใจ แต่เป็นเพียงการแก้ปัญหาระยะสั้น