ปัญหาสิ่งแวดล้อม
ในอดีตปัญหาสิ่งแวดล้อมไม่รุนแรงนัก เพราะประชากรโลกมีน้อย และมนุษย์มีความเป็นอยู่อย่างง่าย ๆ การทำลายระบบนิเวศ การทำลายระบบสมดุลของธรรมชาติ จึงมีน้อย แต่เมื่อ ประชากรโลกมากขึ้น ความเจริญทางด้านวิทยาศาสตร์มีมากขึ้น มนุษย์ได้คิดค้นสิ่งประดิษฐ์ใหม่ ๆ เช่น เครื่องจักร เครื่องยนต์ เพื่อความสะดวกสบาย รวมทั้งการผลิตสารบางชนิดเพื่อการเกษตรอุตสาหกรรม การกระทำของมนุษย์ได้ไปทำลายระบบนิเวศ ทำลายความสมดุลของธรรมชาติ โดยเฉพาะในเมืองใหญ่ปัญหาสิ่งแวดล้อมเป็นพิษได้เพิ่มมากขึ้นทุกที จนเป็นอันตรายต่อมนุษย์ ปัจจุบันปัญหาสิ่งแวดล้อม ได้กลายเป็นปัญหาร่วมกันของมนุษยชาติ ลมฟ้าอากาศที่กำลังเปลี่ยนแปลง ย่อมชี้ให้เห็นผลกระทบจากระบบนิเวศ ดิน ป่าไม้ ทุ่งหญ้า แหล่งน้ำ ฯลฯ สิ่งเหล่านี้ ล้วนพึ่งพาอาศัยซึ่งกันและกัน ทำให้เกิดวงจรต่าง ๆ เช่น วงจรโซ่แห่งอาหาร (Food Chains) มีความสมดุลได้สัดส่วน และมีผลต่อความเป็นอยู่ของมนุษย์ หากระบบต่าง ๆ ถูกทำลายความสมดุลก็จะเสียไป นั่นหมายถึงวิถีชีวิตของมนุษย์ก็จะต้องเปลี่ยนไปในทางเลวร้ายยิ่งขึ้น
สาเหตุสำคัญที่ทำให้เกิดปัญหาสิ่งแวดล้อม
การทำลายสภาพแวดล้อมตามธรรมชาติ ที่สำคัญ คือ การตัดไม้ทำลายป่า อันเป็นผลมาจากความต้องการขยายที่ทำกิน ขยายที่อยู่อาศัยและเพื่อการนำไม้ไปใช้ประโยชน์ในการดำรงชีวิต และใช้ประโยชน์เชิงพาณิชย์ ทำให้เกิดการตัดไม้ทำลายป่ามากขึ้นทุกที ทั้งที่ถูกต้องตามหลักวิชาการ ซึ่งไม่น่าเป็นห่วงมากนัก แต่ที่อันตรายมาก คือ การตัดไม้ทำลายป่าไม่ถูกต้องตามหลักวิชาการ โดยไม่สามารถควบคุมได้ ซึ่งมีมากในประเทศด้อยพัฒนา ดังเช่น ในทวีปเอเชีย แอฟริกา และละตินอเมริกา ตัวอย่างที่เห็นได้ชัดเจนคือ ประเทศไทย ในอดีตเป็นประเทศที่มีป่าอุดมสมบูรณ์ เป็นแหล่งต้นน้ำลำธาร เป็นแหล่งอาหารที่ไม่เพียงเพื่อการบริโภคภายในประเทศเท่านั้น ยังเป็นอู่ข้าวอู่น้ำส่งออกเลี้ยงประชากรโลกในภูมิภาคอื่นด้วย ปัจจุบันป่าที่อุดมสมบูรณ์ เช่น ป่าสาละวิน ป่าทุ่งใหญ่นเรศวร ป่าเขาใหญ่ ป่าดงลาน ได้ถูกทำลายด้วยความรู้เท่าไม่ถึงการณ์ของมนุษย์และทั้งด้วยความเห็นแก่ได้ของขบวนการตัดไม้ทำลายป่า ทำให้แหล่งต้นน้ำถูกทำลาย แม่น้ำ ลำธารหลายสายเริ่มตื้นเขิน ส่งผลให้แหล่งอาหารลดน้อยลง เกิดภาวะแห้งแล้ง ฝนฟ้าเริ่มปรวนแปร การเกษตรเริ่มมีปัญหาทำให้การส่งออกผลิตผลทางการเกษตรไม่ขยายตัว นอกจากนั้นสภาพการซึมซับมลพิษทางอากาศก็ลดศักยภาพลงด้วย สภาพปัญหาดังกล่าวได้เกิดขึ้นในหลายประเทศ นอกจากการตัดไม้ทำลายป่าแล้ว ปัญหาการทำลายระบบนิเวศก็เกิดขึ้นทั่วไป เช่น การทำลายสภาพป่าชายเลน การทำลายระบบนิเวศในทะเลและมหาสมุทร ตลอดจนการบุกรุกแหล่งน้ำธรรมชาติ
ปัญหาสิ่งแวดล้อม ที่สำคัญที่เกิดขึ้นทั่วโลก
1.ปัญหามลพิษทางอากาศ
อากาศบริสุทธิ์เป็นสิ่งจำเป็นของมนุษย์แต่ในปัจจุบันนี้ ประชากรหนาแน่น เกิดโรงงานอุตสาหกรรมมากขึ้นมียานยนต์มากขึ้น ควันหมอก เขม่า จึงมากขึ้นด้วย กลายเป็นพิษที่ทำลายสุขภาพอนามัยของประชากรโลก สารพิษที่สำคัญ มีซัลเฟอร์ไดออกไซด์ คาร์บอนมอนอกไซด์ คาร์บอนไดออกไซด์ ออกไซด์ ของไนโตรเจน สารไฮโดรคาร์บอนต่าง ๆ รวมทั้งอนุภาคบางชนิด และไอของตะกั่วซึ่ง เป็นสารที่ทำอันตรายต่อมนุษย์
2.ปัญหามลพิษทางน้ำ
น้ำในแม่น้ำลำคลองในปัจจุบันมีแนวโน้มจะเน่าเสียมากขึ้น เพราะได้รับเอาขยะ สารเคมี ปุ๋ย ซากเปื่อยเน่า และน้ำเสียจากโรงงานอุตสาหกรรม ปัญหานี้เกิดขึ้นเกือบทุกภูมิภาคของโลก ยิ่งอยู่ใกล้เมืองใหญ่ยิ่งมีปัญหารุนแรงขึ้น เช่น น้ำท่วม มลพิษทางน้ำ เป็นต้น
ทำอันตรายต่อมนุษย์โดยตรงทำให้เกิดโรคผิวหนัง สารพิษบางชนิดทำให้เกิดแผลเน่าเปื่อย นอกจากนี้ยังมีสภาพมลพิษในสิ่งแวดล้อมอีกมาก
แนวทางแก้ปัญหาสภาพแวดล้อม
1. การพัฒนาคนเป็นการให้ความรู้ความเข้าใจ และสร้างจิตสำนึกร่วมกันของมนุษย์ในสังคมโลก รวมทั้งเผยแพร่ความรู้ทางสื่อมวลชน ทั้งหนังสือพิมพ์ วิทยุ โทรทัศน์ หรือเอกสาร โดยเฉพาะการสร้างจิตสำนึกร่วมกันว่าสภาพแวดล้อมนั้น ไม่ใช่เป็นเรื่องของคนใดคนหนึ่ง แต่เป็นความรับผิดชอบร่วมกันของมนุษยชาติ ทุกประเทศจะต้องร่วมมือกันป้องกันไม่ให้เกิดปัญหาและช่วยกันแก้ไขปัญหา
2.การประสานความร่วมมือระหว่างประเทศ เพื่อระดมความร่วมมือในการแก้ปัญหาหลายครั้งโดยการจัดตั้งองค์กรความร่วมมือระหว่างชาติขึ้นดูแลในเรื่องสภาพแวดล้อม
3.การใช้มาตรการทางกฎหมายบังคับ
4.การฟื้นฟูสภาพแวดล้อม