This dimension deals with the fact

This dimension deals with the fact that all individuals in societies are not equal – it expresses the attitude of the culture towards these inequalities amongst us. Power Distance is defined as the extent to which the less powerful members of institutions and organisations within a country expect and accept that power is distributed unequally.

The fundamental issue addressed by this dimension is the degree of interdependence a society maintains among its members. It has to do with whether people´s self-image is defined in terms of “I” or “We”. In Individualist societies people are supposed to look after themselves and their direct family only. In Collectivist societies people belong to ‘in groups’ that take care of them in exchange for loyalty.

A high score (Masculine) on this dimension indicates that the society will be driven by competition, achievement and success, with success being defined by the winner / best in field – a value system that starts in school and continues throughout organisational life.

A low score (Feminine) on the dimension means that the dominant values in society are caring for others and quality of life. A Feminine society is one where quality of life is the sign of success and standing out from the crowd is not admirable. The fundamental issue here is what motivates people, wanting to be the best (Masculine) or liking what you do (Feminine).

At 95, Japan is one of the most Masculine societies in the world. However, in combination with their mild collectivism, you do not see assertive and competitive individual behaviors which we often associate with Masculine culture. What you see is a severe competition between groups. From very young age at kindergartens, children learn to compete on sports day for their groups (traditionally red team against white team).
The dimension Uncertainty Avoidance has to do with the way that a society deals with the fact that the future can never be known: should we try to control the future or just let it happen? This ambiguity brings with it anxiety and different cultures have learnt to deal with this anxiety in different ways. The extent to which the members of a culture feel threatened by ambiguous or unknown situations and have created beliefs and institutions that try to avoid these is reflected in the score on Uncertainty Avoidance.

At 92 Japan is one of the most uncertainty avoiding countries on earth. This is often attributed to the fact that Japan is constantly threatened by natural disasters from earthquakes, tsunamis (this is a Japanese word used internationally), typhoons to volcano eruptions. Under these circumstances Japanese learned to prepare themselves for any uncertain situation. This goes not only for the emergency plan and precautions for sudden natural disasters but also for every other aspects of society. You could say that in Japan anything you do is prescribed for maximum predictability. From cradle to grave, life is highly ritualized and you have a lot of ceremonies. For example, there is opening and closing ceremonies of every school year which are conducted almost exactly the same way everywhere in Japan. At weddings, funerals and other important social events, what people wear and how people should behave are prescribed in great detail in etiquette books. School teachers and public servants are reluctant to do things without precedence. In corporate Japan, a lot of time and effort is put into feasibility studies and all the risk factors must be worked out before any project can start. Managers ask for all the detailed facts and figures before taking any decision. This high need for Uncertainty Avoidance is one of the reasons why changes are so difficult to realize in Japan.

ผลลัพธ์ (ไทย) 1:

มิตินี้เกี่ยวข้องกับความจริงที่ว่า บุคคลทั้งหมดในสังคมไม่เท่ากัน – มันแสดงทัศนคติวัฒนธรรมต่อความเหลื่อมล้ำทางเหล่านี้อยู่ท่ามกลางเรา ระยะทางพลังงานถูกกำหนดเป็นขอบเขตที่คาดหวัง และยอมรับว่า มีกระจายอำนาจ unequally สมาชิกมีน้อยประสิทธิภาพของสถาบันและองค์กรภายในประเทศพื้นฐานเรื่องนี้ขนาดนี้จะรักษาระดับของอิสระเสรีสังคมในหมู่สมาชิก มันได้ทำกับว่ากำหนดภาพตัวเอง people´s "ฉัน" หรือ "เรา" ในสังคม Individualist คนควรหันมาดูแลตัวเองและครอบครัวของพวกเขาโดยตรงเท่านั้น ใน Collectivist สังคมคนอยู่ 'ในกลุ่ม' ที่ดูแลของพวกเขาเพื่อแลกกับความจงรักภักดีมากคะแนน (ชาย) นี้ขนาดบ่งชี้ว่า สังคมจะถูกผลักดัน โดยการแข่งขัน ความสำเร็จ และประสบความ สำเร็จ มีความสำเร็จถูกกำหนดผู้ชนะ / สุดในฟิลด์ – ระบบค่า ที่เริ่มต้นในโรงเรียนอย่างต่อเนื่องตลอดชีวิต organisationalเป็นคะแนน (ผู้หญิง) บนหมายถึงมิติที่ค่าโดดเด่นในสังคมมีคุณภาพชีวิต และมุ่งผู้อื่น สังคมที่ผู้หญิงเป็นที่คุณภาพของชีวิตเป็นเครื่องหมายของความสำเร็จ และยืนออกจากฝูงชนไม่คุ้ม ปัญหาพื้นฐานที่นี่คือ อะไรแรงบันดาลใจคน อยากได้ดีสุด (ชาย) หรือสิ่งที่คุณทำใจ (ผู้หญิง)ที่ 95 ญี่ปุ่นเป็นหนึ่งในสังคมผู้ชายมากที่สุดในโลก อย่างไรก็ตาม ร่วมกับ collectivism อ่อนของพวกเขา คุณไม่เห็น และทำการแข่งขันแต่ละลักษณะการทำงานซึ่งเรามักจะเชื่อมโยงกับวัฒนธรรมผู้ชาย สิ่งที่คุณเห็นเป็นการแข่งขันที่รุนแรงระหว่างกลุ่ม จากเด็กที่ kindergartens เด็กเรียนรู้การแข่งขันในกีฬาวันของกลุ่ม (ทีมงานประเพณีสีแดงกับทีมสีขาว)ขนาดหลีกเลี่ยงความไม่แน่นอนได้ทำ ด้วยวิธีการที่สังคมกับความเป็นจริงที่สามารถทราบอนาคตไม่: เราควรพยายามควบคุมในอนาคต หรือเพียงแค่ปล่อยให้มันเกิดขึ้นหรือไม่ ความคลุมเครือนี้จะมีความวิตกกังวลและวัฒนธรรมที่แตกต่างได้เรียนรู้การจัดการกับความวิตกกังวลนี้ด้วยวิธีการต่าง ๆ ขอบเขตซึ่งสมาชิกของวัฒนธรรมรู้สึกคาม โดยชัดเจน หรือไม่ทราบสถานการณ์ และสร้างความเชื่อและสถาบันที่พยายามที่จะหลีกเลี่ยงเหล่านี้อยู่เป็นประจำในการให้คะแนนในการหลีกเลี่ยงความไม่แน่นอนที่ญี่ปุ่น 92 เป็นหนึ่งของความไม่แน่นอนส่วนใหญ่หลีกเลี่ยงประเทศบนโลก นี้มักจะเกิดจากในความเป็นจริงที่ว่า ญี่ปุ่นถูกคุกคามอย่างต่อเนื่อง โดยภัยธรรมชาติจากแผ่นดินไหว สึนามิ (เป็นคำภาษาญี่ปุ่นที่ใช้ในระดับนานาชาติ) บางครั้งการปะทุของภูเขาไฟ ภายใต้สถานการณ์เหล่านี้ ญี่ปุ่นเรียนรู้เพื่อเตรียมความพร้อมสำหรับทุกสถานการณ์ที่ไม่แน่นอน นี้จะไม่เพียงแต่ สำหรับแผนฉุกเฉินและมาตรการป้องกันภัยพิบัติฉับพลัน แต่ ในทุกแง่มุมอื่น ๆ ของสังคม คุณสามารถพูดได้ว่า ในประเทศญี่ปุ่น ดำเนินการใด ๆ ที่มีกำหนดสำหรับแอพพลิเคชันได้สูงสุด จากอู่ไปป่าช้า ชีวิตมีสูง ritualized และคุณมีจำนวนมากของพิธี ตัวอย่าง มีการเปิด และปิดพิธีทุกปีโรงเรียนที่ดำเนินการเกือบตรงเหมือนกันทุกวิธีในญี่ปุ่น ที่งานแต่งงาน ศพหรือสังคมสำคัญอื่น ๆ เครื่องแต่งกายคนใดและวิธีที่ต้องการให้คนทำจะกำหนดในรายละเอียดมากในหนังสือมารยาท โรงเรียนครูและข้าราชการประชาชนจะไม่ทำสิ่งที่ไม่สำคัญ ในญี่ปุ่นบริษัท จำนวนมากเวลาและความพยายามที่จะใส่ลงในการศึกษาความเป็นไปได้ และต้องทำงานปัจจัยเสี่ยงทั้งหมดออกก่อนสามารถเริ่มโครงการใด ๆ ผู้จัดการขอความทั้งหมดในรายละเอียดข้อเท็จจริงและตัวเลขก่อนตัดสิน สูงนี้ต้องหลีกเลี่ยงความไม่แน่นอนเป็นหนึ่งในเหตุผลที่ทำไมเปลี่ยนแปลงยากดังนั้นจะรับรู้ในญี่ปุ่น

ผลลัพธ์ (ไทย) 2:

มิตินี้เกี่ยวข้องกับความจริงที่ว่าทุกคนในสังคมจะไม่เท่ากัน - มันเป็นการแสดงออกถึงทัศนคติของวัฒนธรรมที่มีต่อความไม่เท่าเทียมกันในหมู่พวกเราเหล่านั้น ระยะห่างอำนาจมีการกำหนดเป็นขอบเขตที่สมาชิกมีประสิทธิภาพน้อยของสถาบันและองค์กรภายในประเทศที่คาดหวังและยอมรับอำนาจที่ไม่เท่าเทียมกัน. ปัญหาพื้นฐานการแก้ไขโดยมิตินี้เป็นระดับของการพึ่งพาซึ่งกันและกันสังคมรักษาในหมู่สมาชิก มันจะทำอย่างไรกับว่า people's ภาพตัวเองถูกกำหนดไว้ในแง่ของ "ฉัน" หรือ "เรา" ในสังคมปัจเจกคนควรจะดูแลตัวเองและครอบครัวโดยตรงของพวกเขาเท่านั้น ในสังคมฝ่ายซ้ายคนเป็นในกลุ่มที่จะดูแลพวกเขาในการแลกเปลี่ยนสำหรับความจงรักภักดี. คะแนนสูง (ชาย) ในมิตินี้แสดงให้เห็นว่าสังคมจะถูกผลักดันจากการแข่งขันความสำเร็จและประสบความสำเร็จกับความสำเร็จที่ถูกกำหนดโดยผู้ชนะ / ดีที่สุดในสนาม -. ระบบค่าที่เริ่มต้นในโรงเรียนและต่อเนื่องตลอดชีวิตขององค์กรคะแนนต่ำ(หญิง) ในมิติหมายความว่าค่าที่โดดเด่นในสังคมจะดูแลคนอื่น ๆ และคุณภาพชีวิต สังคมเป็นหนึ่งในผู้หญิงที่มีคุณภาพชีวิตที่เป็นสัญลักษณ์ของความสำเร็จและยืนออกจากฝูงชนที่ไม่ได้เป็นที่น่าชื่นชม ปัญหาพื้นฐานนี่คือสิ่งที่กระตุ้นให้คนที่ต้องการที่จะเป็นที่ดีที่สุด (ผู้ชาย) หรือชอบสิ่งที่คุณทำ (หญิง). ที่ 95 ญี่ปุ่นเป็นหนึ่งในสังคมที่ผู้ชายมากที่สุดในโลก อย่างไรก็ตามในการรวมกันกับส่วนรวมอ่อนของพวกเขาที่คุณไม่เห็นพฤติกรรมการแสดงออกที่เหมาะสมของแต่ละบุคคลและการแข่งขันที่เรามักจะเชื่อมโยงกับวัฒนธรรมผู้ชาย สิ่งที่คุณเห็นคือการแข่งขันที่รุนแรงระหว่างกลุ่ม จากวัยหนุ่มสาวมากที่โรงเรียนอนุบาลเด็กเรียนรู้ที่จะแข่งขันในกีฬาวันสำหรับกลุ่มของพวกเขา (ตามธรรมเนียมของทีมสีแดงกับทีมสีขาว). มิติหลีกเลี่ยงความไม่แน่นอนจะทำอย่างไรกับวิธีการที่สังคมที่เกี่ยวข้องกับความจริงที่ว่าในอนาคตจะไม่เป็นที่รู้จัก : เราควรจะพยายามที่จะควบคุมในอนาคตหรือเพียงแค่ปล่อยให้มันเกิดขึ้นได้อย่างไร ความคลุมเครือนี้ทำให้มีความวิตกกังวลและวัฒนธรรมที่แตกต่างได้เรียนรู้ที่จะจัดการกับความวิตกกังวลในรูปแบบที่แตกต่างกัน ขอบเขตที่สมาชิกของวัฒนธรรมที่รู้สึกว่าถูกคุกคามโดยสถานการณ์ที่ไม่ชัดเจนหรือไม่รู้จักและได้สร้างความเชื่อและสถาบันการศึกษาที่มีความพยายามที่จะหลีกเลี่ยงเหล่านี้จะสะท้อนให้เห็นในการให้คะแนนในการหลีกเลี่ยงความไม่แน่นอน. ที่ 92 ญี่ปุ่นเป็นหนึ่งในความไม่แน่นอนมากที่สุดหลีกเลี่ยงประเทศบนโลก นี่คือโทษมักจะความจริงที่ว่าญี่ปุ่นจะถูกคุกคามอย่างต่อเนื่องโดยภัยพิบัติทางธรรมชาติจากแผ่นดินไหวสึนามิ (นี้เป็นคำภาษาญี่ปุ่นที่ใช้ในต่างประเทศ) พายุไต้ฝุ่นการปะทุของภูเขาไฟจะ ภายใต้สถานการณ์เหล่าญี่ปุ่นเรียนรู้ที่จะเตรียมความพร้อมสำหรับสถานการณ์ที่ไม่แน่นอนใด ๆ นี้จะไม่เพียง แต่สำหรับแผนฉุกเฉินและข้อควรระวังสำหรับภัยพิบัติทางธรรมชาติอย่างฉับพลัน แต่ยังสำหรับทุกแง่มุมอื่น ๆ ของสังคม อาจกล่าวได้ว่าในสิ่งที่ญี่ปุ่นคุณจะถูกกำหนดไว้สำหรับการคาดการณ์สูงสุด จากอู่ที่หลุมฝังศพของชีวิตเป็นอย่างมาก ritualized และคุณมีจำนวนมากของพิธี ตัวอย่างเช่นมีการเปิดและปิดพิธีกรของโรงเรียนทุกปีซึ่งจะดำเนินการเกือบตรงเช่นเดียวกับทุกที่ในประเทศญี่ปุ่น ในงานแต่งงานงานศพและกิจกรรมทางสังคมอื่น ๆ ที่สำคัญสิ่งที่คนสวมใส่และวิธีการที่คนควรประพฤติที่กำหนดในรายละเอียดในหนังสือมารยาท ครูในโรงเรียนและคนรับใช้ประชาชนไม่เต็มใจที่จะทำสิ่งที่ไม่สำคัญ องค์กรในประเทศญี่ปุ่นจำนวนมากของเวลาและความพยายามจะใส่ลงในศึกษาความเป็นไปและปัจจัยเสี่ยงจะต้องทำงานออกก่อนที่โครงการใด ๆ ที่สามารถเริ่มต้น ผู้จัดการขอทุกรายละเอียดข้อเท็จจริงและตัวเลขก่อนที่จะตัดสินใจใด ๆ นี้ความต้องการสูงสำหรับการหลีกเลี่ยงความไม่แน่นอนเป็นหนึ่งในเหตุผลที่ว่าทำไมการเปลี่ยนแปลงจึงเป็นเรื่องยากที่จะตระหนักในญี่ปุ่น

ผลลัพธ์ (ไทย) 3:

มิตินี้เกี่ยวข้องกับข้อเท็จจริงที่ว่า บุคคลทุกคนในสังคมไม่เท่าเทียมกันซึ่งแสดงถึงทัศนคติของวัฒนธรรมไปสู่อสมการเหล่านี้ในหมู่เรา พลังงานระยะทาง หมายถึง ขอบเขตซึ่งมีประสิทธิภาพน้อยกว่า สมาชิกของสถาบันและองค์กรในประเทศ คาดหวัง และยอมรับอำนาจนั้นมีการกระจายไม่เท่ากัน

ปัญหาพื้นฐานที่ระบุ โดยมิตินี้เป็นระดับของการพึ่งพาอาศัยกันสังคมรักษาในหมู่สมาชิกของ มันต้องทำเอง คือว่าคนใหม่ที่กำหนดไว้ในข้อตกลงของ " ฉัน " หรือ " เรา " ใน individualist สังคมคนควรจะดูแลตัวเองและครอบครัวของพวกเขาโดยตรงเท่านั้นในสังคม collectivist คนเป็นของ ' ' ในกลุ่มที่ดูแลของพวกเขาในการแลกเปลี่ยนสำหรับความจงรักภักดี

คะแนนสูง ( ผู้ชาย ) ในมิตินี้บ่งชี้ว่าสังคมจะถูกขับเคลื่อนโดยการแข่งขัน ความสำเร็จ กับความสำเร็จที่ถูกกำหนดโดยผู้ชนะ / ดีที่สุดในเขตข้อมูลและระบบคุณค่าที่เริ่มต้นในโรงเรียน และต่อเนื่องตลอดชีวิตองค์กร .

คะแนนต่ำ ( ผู้หญิง ) ในมิติหมายความว่าคุณค่าเด่นในสังคมจะดูแลผู้อื่น และคุณภาพของชีวิต สังคมของผู้หญิงที่เป็นหนึ่งที่คุณภาพของชีวิต เป็นเครื่องหมายของความสำเร็จและยืนออกจากฝูงชนไม่น่าชื่นชม พื้นฐานปัญหาที่นี่คือสิ่งที่กระตุ้นให้ผู้คนที่ต้องการจะดีที่สุด ( ผู้ชาย ) หรือชอบสิ่งที่คุณทำ ( ผู้หญิง )

ที่ 95ญี่ปุ่นเป็นหนึ่งในสังคมที่มีผู้ชายมากที่สุดในโลก อย่างไรก็ตาม ในการรวมกันกับ collectivism อ่อนของพวกเขา คุณไม่ได้ดูอวดดี และพฤติกรรมการแข่งขัน ซึ่งเรามักจะเชื่อมโยงกับวัฒนธรรมผู้ชายแต่ละคน สิ่งที่คุณเห็นคือการแข่งขันที่รุนแรงระหว่างกลุ่ม จากอายุยังน้อยมากที่โรงเรียนอนุบาลเด็กเรียนรู้ที่จะแข่งขันในวันกีฬาสำหรับกลุ่มของพวกเขา ( แดงผ้าทีมกับทีมสีขาว ) .
มิติการหลีกเลี่ยงความไม่แน่นอนได้จะทำอย่างไรกับวิธีการที่สังคมที่เกี่ยวข้องกับความจริงที่ว่าอนาคตจะไม่รู้จักเราควรจะพยายามควบคุมอนาคตหรือเพียงแค่ปล่อยให้มันเกิดขึ้นความคลุมเครือนี้มาด้วยความวิตกกังวลและวัฒนธรรมที่แตกต่างกันได้เรียนรู้ที่จะจัดการกับความวิตกกังวลนี้ในวิธีที่แตกต่างกัน ขอบเขตที่สมาชิกของวัฒนธรรมรู้สึกถูกคุกคามโดยคลุมเครือหรือที่ไม่รู้จักสถานการณ์ และได้สร้างความเชื่อและสถาบันที่พยายามที่จะหลีกเลี่ยงเหล่านี้สะท้อนให้เห็นถึงคะแนนในการหลีกเลี่ยงความไม่แน่นอน .

ที่ 92 ญี่ปุ่นเป็นหนึ่งในประเทศส่วนใหญ่หลีกเลี่ยงความไม่แน่นอนของโลก นี้มักจะเกิดจากเรื่องที่ญี่ปุ่นอยู่ตลอดเวลาถูกคุกคามจากภัยธรรมชาติจากแผ่นดินไหว สึนามิ ( นี่เป็นคำภาษาญี่ปุ่นที่ใช้ในระดับสากล ) , ไต้ฝุ่นการปะทุของภูเขาไฟ ภายใต้สถานการณ์เหล่านี้ญี่ปุ่นเรียนเตรียมความพร้อมสำหรับสถานการณ์ที่ไม่แน่นอนใด ๆนี้จะไม่เพียง แต่สำหรับแผนและมาตรการป้องกันฉุกเฉินสำหรับภัยพิบัติทางธรรมชาติอย่างฉับพลัน แต่ยังด้านอื่น ๆของทุกสังคม คุณอาจพูดได้ว่า ในญี่ปุ่น สิ่งที่คุณทำคือกำหนดให้สามารถคาดการณ์ได้สูงสุด ตั้งแต่เกิดจนตาย ชีวิต ritualized สูงและคุณมีพิธี . ตัวอย่างเช่น