Another challenge for businesses op

Another challenge for businesses operating in the region is anticipating and responding to the needs of a rapidly rising middle class. In 2012, there were an estimated 190 million people in Southeast Asia who could be defined as middle class -- people with disposable income of between US$16 and $100 a day. But according to the global market research firm Nielsen, that number will more than double by 2020, to 400 million.
One would expect retail store operators to be ecstatic at the prospect of that many new shoppers with higher disposable income, but that is not necessarily the case.
"The middle class is growing, but they are not purchasing in ways we thought they would," said Hiroshi Ohnishi, the president and CEO of the Japanese department store group Isetan Mitsukoshi Holdings.
A "bipolar economy" could be the term that best describes what is emerging, he said. At the top is an even faster-growing group of affluent consumers who choose to shop at luxury boutiques. At the lower end of the middle class are consumers who choose to spend money in fast-fashion stores rather than department stores, with chains such as Uniqlo and H&M the big beneficiaries.
Another factor that is squeezing department stores is the rise of online retailing. "E-commerce accounts for 10% of consumption in Japan, but it is likely to rise to the levels of the US, which is 20% to 30%," said Mr Ohnishi. "As the overall (retail) market size has remained almost unchanged at $1.3 trillion, e-commerce is stealing share from bricks-and-mortar stores."
That has compelled major department store chains across the region to make big investments in building up their e-commerce capacity. "Department stores have to change or we will not be able to operate," he said.
Still, there is no denying the macroeconomic impact that a more affluent population will have, given the knock-on effects in areas such as energy demand. That is cause for optimism for Garibaldi Thohir, the president and CEO of PT Adaro Energy, an Indonesian mining and energy conglomerate.
"Between 2013 and 2040, average per capita income in Southeast Asia will almost triple in size, from $10,000 to $27,000," he said. "This economic growth will also be followed by a rapid increase in population. Asean's population will grow from 616 million to 760 million."
For someone who has an income of $30,000, doubling that income might not be easy. "But for someone with only $3,000 to $5,000, it could double and triple in the next 10 to 20 years," he said.

ผลลัพธ์ (ไทย) 1:

ความท้าทายสำหรับธุรกิจในภูมิภาคเป็นที่คาดการณ์ไว้ และตอบสนองต่อความต้องการของชนชั้นกลางเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็ว ใน 2012 มีประมาณ 190 ล้านคนในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ที่สามารถกำหนดเป็นชั้นกลาง - คนที่ มีรายได้ระหว่างสหรัฐอเมริกา $16-$100 ต่อวัน แต่ตามการวิจัยการตลาดระดับโลกของบริษัทนีลสัน ว่า เลขจะมากกว่าคู่ 2563, 400 ล้านคนจะคาดหวังผู้ประกอบการร้านค้าปลีกจะปลาบปลื้มยินดีที่โอกาสของผู้ซื้อใหม่ ๆ มากมายที่มีรายได้สูง แต่นั่นคือไม่จำเป็นต้องเป็นกรณี"ชนชั้นกลางกำลังเติบโต แต่พวกเขาไม่ได้ซื้อในรูปแบบที่เราคิดว่า พวกเขาจะ กล่าวว่า ฮิ Ohnishi ประธานและ CEO ของกลุ่มญี่ปุ่นห้างอิเซตันมิตสึโกชิโฮลดิ้งส์เขากล่าวว่า "สองขั้วเศรษฐกิจ" อาจเป็นคำที่อธิบายสิ่งเกิดขึ้นดีที่สุด ด้านบนเป็นกลุ่มแม้จะโตเร็วกว่าของผู้บริโภคที่ร่ำรวยที่เลือกซื้อสินค้าที่ร้านบูติกหรู ที่ต่ำสุดมีชั้นกลาง ผู้บริโภคที่เลือกที่จะใช้จ่ายเงินในแฟชั่นอย่างรวดเร็วเก็บสรรพ โซ่เช่น Uniqlo และ H & M แทนที่จะได้รับผลประโยชน์ใหญ่ปัจจัยที่เป็นบีบห้างคือ การเพิ่มขึ้นของการค้าปลีกออนไลน์ ""อีคอมเมิร์ซบัญชีสำหรับ 10% ของปริมาณการใช้ในประเทศญี่ปุ่น แต่มันมีแนวโน้มเพิ่มขึ้นถึงระดับของสหรัฐอเมริกา ซึ่งเป็น 20% ถึง 30% นาย Ohnishi กล่าวว่า "เป็นโดยรวม (ขายปลีก) ขนาดตลาดยังคงไม่เปลี่ยนแปลงเกือบที่ 1.3 ล้านล้าน อีคอมเมิร์ซเป็นขโมยหุ้นจากอิฐ และปูน-ร้าน"ที่มีบังคับโซ่ห้างสำคัญทั่วภูมิภาคเพื่อให้ลงทุนในการสร้างกำลังการผลิตอี-คอมเมิร์ซ "ห้างสรรพสินค้ามีการเปลี่ยนแปลง หรือเราจะไม่สามารถทำงาน เขากล่าวว่ายังคง มีปฏิเสธไม่ผลกระทบต่อเศรษฐกิจมหภาคที่ประชากรร่ำรวยมากมี ได้รับผลกระทบมั่งคั่งในพื้นที่เช่นความต้องการพลังงาน ที่จะทำให้มองในแง่ดีสำหรับ Thohir การิบัลดี ประธาน และซีอีโอของ PT Adaro พลังงาน เหมืองอินโดนีเซีย และธุรกิจพลังงาน"ระหว่าง 2013 และ 2040 รายได้ต่อหัวโดยเฉลี่ยในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้จะเกือบสามขนาด $10,000 ถึง $27,000 เขากล่าวว่า "เติบโตทางเศรษฐกิจนี้จะยังตามการเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็วในประชากร จำนวนประชากรในอาเซียนจะขยายจาก 616 760 ล้าน"สำหรับคนที่มีรายได้ของ $30,000 รายได้ที่เพิ่มขึ้นอาจไม่ได้ง่าย " แต่สำหรับคนมีเพียง $3,000 ถึง $5,000 มันได้สองครั้ง และสามในอีก 10-20 ปี, " เขากล่าวว่า

ผลลัพธ์ (ไทย) 2:

ความท้าทายสำหรับธุรกิจการดำเนินงานในภูมิภาคนี้ก็คือการคาดการณ์และตอบสนองต่อความต้องการของชนชั้นกลางที่เพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็ว ในปี 2012 มีประมาณ 190 ล้านคนในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ที่อาจจะกำหนดให้เป็นคนชั้นกลาง - คนที่มีรายได้ทิ้งระหว่าง US $ 16 $ 100 วัน แต่ตามที่ บริษัท วิจัยตลาดทั่วโลกของนีลเส็นจำนวนที่จะเพิ่มขึ้นกว่าเท่าตัวในปี 2020 ไป 400 ล้าน.
หนึ่งจะคาดหวังผู้ประกอบการร้านค้าปลีกที่จะมีความสุขที่คาดหมายของผู้ซื้อใหม่หลายคนที่มีรายได้ทิ้งที่สูงขึ้น แต่ที่ไม่จำเป็นต้องเป็น กรณี.
"ชนชั้นกลางที่มีการเติบโต แต่พวกเขาจะไม่ซื้อในรูปแบบที่เราคิดว่าพวกเขาจะ" ฮิโรชิ Ohnishi ประธานและซีอีโอของญี่ปุ่นกลุ่มห้างสรรพสินค้าอิเซตัน Mitsukoshi โฮลดิ้งกล่าวว่า.
A "เศรษฐกิจสองขั้ว" อาจจะเป็นคำว่า ที่อธิบายสิ่งที่เกิดขึ้นเขากล่าวว่า ที่ด้านบนเป็นกลุ่มได้เร็วยิ่งขึ้นเพิ่มขึ้นของผู้บริโภคที่ร่ำรวยที่เลือกที่จะซื้อสินค้าที่ร้านบูติกหรู ที่ปลายล่างของชนชั้นกลางเป็นผู้บริโภคที่เลือกที่จะใช้จ่ายเงินในร้านค้าอย่างรวดเร็วแฟชั่นมากกว่าห้างสรรพสินค้า, ด้วยโซ่เช่น Uniqlo และ H & M ได้รับผลประโยชน์ที่ยิ่งใหญ่.
ปัจจัยอีกประการหนึ่งที่มีการบีบห้างสรรพสินค้าคือการเพิ่มขึ้นของการค้าปลีกออนไลน์ "บัญชี E-commerce สำหรับ 10% ของการบริโภคในประเทศญี่ปุ่น แต่ก็มีแนวโน้มที่จะเพิ่มขึ้นถึงระดับของสหรัฐซึ่งอยู่ที่ 20% ถึง 30%" นาย Ohnishi กล่าวว่า "ในขณะที่โดยรวม (ขายปลีก) ขนาดของตลาดยังคงเกือบไม่เปลี่ยนแปลงที่ 1300000000000 $ e-commerce เป็นขโมยส่วนแบ่งจากร้านค้าอิฐและปูน."
ที่มีการบังคับโซ่ห้างสรรพสินค้าที่สำคัญทั่วทั้งภูมิภาคจะทำให้การลงทุนขนาดใหญ่ในการสร้างของพวกเขา E-commerce ความจุ "ห้างสรรพสินค้ามีการเปลี่ยนแปลงหรือเราจะไม่สามารถที่จะดำเนินการ" เขากล่าว.
ยังไม่มีการปฏิเสธผลกระทบทางเศรษฐกิจมหภาคที่มีประชากรที่ร่ำรวยมากขึ้นจะต้องได้รับการเคาะเกี่ยวกับผลกระทบในด้านต่างๆเช่นความต้องการพลังงาน ที่เป็นต้นเหตุของการมองในแง่ดีสำหรับ Garibaldi Thohir ประธานและซีอีโอของ บริษัท PT Adaro พลังงาน, อินโดนีเซียทำเหมืองแร่และพลังงานกลุ่ม บริษัท ในเครือ.
"ระหว่างปี 2013 และ 2040 เฉลี่ยรายได้ต่อหัวในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้เกือบจะสามในขนาดจาก $ 10,000 ถึง $ 27,000" เขาพูดว่า. "การเติบโตทางเศรษฐกิจนี้จะตามมาด้วยการเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็วในประชากร. ประชากรอาเซียนจะเติบโต 616.000.000-760,000,000."
สำหรับคนที่มีรายได้ $ 30,000 เป็นสองเท่าของรายได้ที่อาจจะไม่ง่าย " แต่สำหรับคนที่มีเพียง $ 3,000 $ 5,000 ก็อาจสองและสามในอีก 10 ถึง 20 ปีที่ผ่านมา" เขากล่าว

ผลลัพธ์ (ไทย) 3:

อีกหนึ่งความท้าทายสำหรับธุรกิจการดำเนินงานในภูมิภาคคาดการณ์และตอบสนองความต้องการที่เพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็วของชนชั้นกลาง ใน 2012 , มีประมาณ 190 ล้านคน ในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ที่สามารถถูกกำหนดเป็นชนชั้นกลาง -- ผู้ที่มีรายได้ทิ้งของระหว่าง US $ 16 $ 100 วัน แต่ตามตลาด บริษัท วิจัยโดย Nielsen , ตัวเลขนี้จะเพิ่มขึ้นกว่าเท่าตัวโดย 2020 , 400 ล้านหนึ่งจะคิดว่าผู้ประกอบการร้านค้าปลีกจะปลาบปลื้มยินดีที่โน้มของผู้ซื้อที่มีรายได้ทิ้งหลายใหม่ที่สูงขึ้น แต่ที่ไม่ได้กรณี" ชนชั้นกลางที่เติบโต แต่พวกเขาจะไม่ซื้อในวิธีที่เราคิดว่าพวกเขาจะกล่าวว่า " ฮิโรชิ ohnishi , ประธานและซีอีโอของกลุ่มห้างสรรพสินค้าญี่ปุ่น เซตัน มิตสึโคชิ โฮลดิ้งส์" อารมณ์สองขั้วเศรษฐกิจ " อาจเป็นคำที่ดีที่สุดอธิบายอะไรที่เกิดขึ้น , เขากล่าวว่า . ที่ด้านบนเป็นเร็วเติบโตร่ำรวยกลุ่มผู้บริโภคที่เลือกซื้อที่ร้านหรู ที่ปลายล่างของชนชั้นกลางเป็นผู้บริโภคที่เลือกที่จะใช้จ่ายเงินในแฟชั่นอย่างรวดเร็วร้านค้ามากกว่าห้างสรรพสินค้า กับ โซ่ เช่น Uniqlo และ H & M ประโยชน์ใหญ่ปัจจัยอื่นที่บีบห้างสรรพสินค้าคือการเพิ่มขึ้นของการค้าปลีกออนไลน์ " . บัญชีอีคอมเมิร์ซสำหรับ 10% ของการบริโภคในญี่ปุ่น แต่ก็มีแนวโน้มที่จะเพิ่มขึ้นในระดับของเราซึ่งเป็นร้อยละ 20 ถึง 30 , " นาย ohnishi ” เป็นขนาดของตลาดโดยรวม ( ขายปลีก ) ได้ยังคงไม่เปลี่ยนแปลงเกือบ $ 1.3 ล้านล้าน อี - คอมเมิร์ซ ขโมยส่วนแบ่งจากอิฐและปูนร้านค้า”ที่ได้บังคับโซ่ห้างสรรพสินค้ารายใหญ่ในภูมิภาคเพื่อให้การลงทุนขนาดใหญ่ในการสร้างความสามารถของอี - คอมเมิร์ซ” ห้างสรรพสินค้ามีการเปลี่ยนแปลง หรือเราจะไม่สามารถใช้งาน " เขากล่าวยังไม่มีการปฏิเสธเศรษฐกิจผลกระทบที่ประชากรที่ร่ำรวยจะได้รับเคาะบนผลกระทบในด้านต่างๆ เช่น ความต้องการพลังงาน นั่นคือสาเหตุที่มองในแง่ดีสำหรับ Garibaldi thohir , ประธานและซีอีโอของ PT ADARO ENERGY , กลุ่มเหมืองแร่และพลังงานของอินโดนีเซีย" ระหว่าง 2013 และ 2040 , รายได้เฉลี่ยต่อคนในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้จะเกือบสามเท่าในขนาดจาก $ 10 , 000 ถึง $ 27 , 000 , " เขากล่าว . " การเจริญเติบโตทางเศรษฐกิจนี้จะตามมาด้วยการเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็วของจำนวนประชากร ประชากรของอาเซียนจะเติบโตจาก 616 ล้าน 760 ล้านบาท "สำหรับผู้ที่มีรายได้ 30 , 000 $ สองเท่าของรายได้อาจไม่ง่าย " . แต่สำหรับบางคนที่มีเพียง $ 3 , 000 ถึง $ 5000 , มันอาจจะสองและสามในอีก 10 ถึง 20 ปี " เขากล่าว