The extreme groupings technique was

The extreme groupings technique was used in this research which “involves selecting the extremes of a score distribution on one variable” (Gall et al., 2007, p. 312). That is, the 20 highest and 20 lowest levels of SBI were used in this study, while those found to be in the middle range were eliminated from the data analysis. Placing the teachers into a high SBI group of 20 and a low SBI group of 20 while eliminating the middle teachers ensured that the highest level of ranked teachers were in the top half of each ranking and the lowest level of ranked teachers were in the bottom half of each ranking taken from the CReaTE expert evaluation, the student evaluation, and the teacher self-report of SBI. Splitting the participants into 30 high and 30 low SBI groups, for example, would have created a situation in which some teachers would have been ranked in the high group under one evaluation or evaluator and the same teachers could have been ranked in the low group under one of the other evaluations or evaluators. Creating two groups of 20 ensured those teachers in the high group were actually ranked as high SBI teacher and those teachers in the low group were actually ranked as a low SBI teacher in each of the evaluations and by each of the evaluators. This creates a scenario in which “the two extremes are more likely to reveal differences on the other variable of interest” or a high level of SBI practices (Gall et al., 2007, p. 312). The top 20 teachers considered to be using a high level of SBI practices comprised one group and the bottom 20 teachers considered to be practicing SBI at a low level comprised the other group. Teachers measured in the low level category of SBI practices were used as the control group for this research.This study also utilizes a correlational design to determine a relationship between the level of SBI as perceived by students and the level of SBI as self-reported by their teachers. A Spearman’ Rank Correlation Coefficient (rho) statistic was used to determine the relationship. Spearman’s rho shows the degree of monotonic relationship between two variables set in ordinal fashion and measures the association between the two ranked variables (Chen & Popovich, 2002). The Spearman rho indicates if the students and teachers agree to each other’s view as to the level of SBI taking place in the classroom.

ผลลัพธ์ (ไทย) 1:

เทคนิคการจัดกลุ่มที่รุนแรงมาใช้ในงานวิจัยนี้ที่ "เกี่ยวข้องกับการเลือกสุดขั้วของการกระจายของคะแนนตัวแปรหนึ่ง" (ถุงน้ำดี et al. 2007, p. 312) นั่นคือ 20 สูงสุดและระดับต่ำสุด 20 SBI ถูกนำมาใช้ในการศึกษานี้ ในขณะที่พบในช่วงกลางจะถูกตัดจากการวิเคราะห์ข้อมูล ใส่ครูในกลุ่ม SBI สูง 20 และ 20 กลุ่ม SBI ต่ำขณะกำจัดครูกลางมั่นใจว่า ระดับสูงสุดของครูอันดับในครึ่งบนของอันดับ และระดับต่ำสุดของอันดับครูได้ด้านล่างครึ่งหนึ่งของการจัดอันดับแต่ละที่มาจากการสร้างผู้เชี่ยวชาญประเมินผล การประเมินผลนักเรียน และอาจารย์รายงานตนเองของ SBI แบ่งผู้เข้าร่วมสูง 30 และ 30 ต่ำ SBI กลุ่ม เช่น จะสร้างสถานการณ์ในการที่ ครูบางคนจะได้รับการจัดอันดับในระดับสูงกลุ่มหนึ่งภายใต้การประเมินผล หรือประเมินและครูเดียวกันอาจได้รับการจัดอันดับในกลุ่มต่ำภายใต้หนึ่งประเมินอื่น ๆ หรือต่อผู้ประเมิน สร้างกลุ่มที่สอง 20 มั่น เหล่าอาจารย์ในกลุ่มสูงได้จริงเป็นอันดับครู SBI สูง และเหล่าอาจารย์ในกลุ่มต่ำได้จริงอันดับเป็นครู SBI ต่ำในแต่ละ ของการประเมินผล และการต่อผู้ประเมินแต่ละ นี้สร้างสถานการณ์ที่ "สุดขั้วสองมีแนวโน้มที่จะเปิดเผยความแตกต่างในตัวแปรอื่น ๆ ที่น่าสนใจ" หรือระดับสูงของ SBI ปฏิบัติ (ถุงน้ำดี et al. 2007, p. 312) ครู 20 ด้านบนถือว่า จะต้องใช้ในระดับสูงของ SBI ปฏิบัติประกอบด้วยกลุ่มหนึ่ง และ 20 อาจารย์ถือว่าได้ฝึก SBI ในระดับต่ำประกอบด้วยกลุ่ม ครูวัดในประเภทระดับต่ำของ SBI ปฏิบัติถูกใช้เป็นกลุ่มควบคุมสำหรับงานวิจัยนี้ การศึกษาครั้งนี้ใช้แบบ correlational เพื่อกำหนดความสัมพันธ์ระหว่างระดับของ SBI เป็นที่รับรู้โดยนักเรียนและระดับของ SBI เป็นตนเองรายงานโดยครูผู้สอน แบบ Spearman' สถิติสัมประสิทธิ์สหสัมพันธ์อันดับ (rho) ถูกใช้เพื่อกำหนดความสัมพันธ์ ของ spearman rho แสดงให้เห็นระดับของกแกนความสัมพันธ์ระหว่างตัวแปรสองชุดในลำดับ และวัดความสัมพันธ์ระหว่างตัวแปรอันดับสอง (Chen & Popovich, 2002) Spearman rho บ่งชี้ว่า หาก ครูและนักเรียนตกลงไปที่มุมมองแต่ละอื่น ๆ เป็นระดับของ SBI ในห้องเรียน

ผลลัพธ์ (ไทย) 2:

เทคนิคการจัดกลุ่มที่มากที่สุดที่ใช้ในการวิจัยครั้งนี้ซึ่ง "เกี่ยวข้องกับการเลือกขั้วของการกระจายคะแนนในตัวแปรหนึ่ง" (Gall et al., 2007, น. 312) นั่นคือ 20 20 สูงสุดและระดับต่ำสุดของเอสบีไอถูกนำมาใช้ในการศึกษาครั้งนี้ในขณะที่พบจะอยู่ในช่วงกลางถูกตัดออกจากการวิเคราะห์ข้อมูล วางครูเป็นกลุ่ม SBI สูง 20 และกลุ่ม SBI ต่ำ 20 ขณะที่การขจัดครูกลางทำให้มั่นใจได้ว่าในระดับสูงสุดของครูผู้สอนการจัดอันดับอยู่ในครึ่งบนของแต่ละจัดอันดับและระดับต่ำสุดของครูผู้สอนการจัดอันดับอยู่ในครึ่งล่าง การจัดอันดับของแต่ละนำมาจากการสร้างการประเมินโดยผู้เชี่ยวชาญการประเมินผลนักเรียนและครูรายงานตนเองของเอสบีไอ แยกเข้าร่วมลงสูง 30 และ 30 กลุ่ม SBI ต่ำเช่นจะมีการสร้างสถานการณ์ที่ครูบางคนจะได้รับการจัดอันดับอยู่ในกลุ่มสูงภายใต้การประเมินผลหรือประเมินและครูเดียวกันจะได้รับการจัดอันดับอยู่ในกลุ่มต่ำภายใต้ หนึ่งในการประเมินผลอื่น ๆ หรือการประเมินผล การสร้างกลุ่มที่สองของ 20 มั่นใจครูผู้ที่อยู่ในกลุ่มสูงเป็นอันดับที่จริงเป็นครู SBI สูงและครูผู้ที่อยู่ในกลุ่มที่ถูกจัดอันดับต่ำจริงเป็นครู SBI ต่ำในแต่ละการประเมินผลและโดยแต่ละประเมินผล นี้จะสร้างในสถานการณ์ที่ "สองขั้วมีแนวโน้มที่จะเผยให้เห็นความแตกต่างบนตัวแปรอื่น ๆ ที่น่าสนใจ" หรือระดับสูงของการปฏิบัติ SBI A (Gall et al., 2007, น. 312) ด้านบนครู 20 พิจารณาที่จะใช้ในระดับสูงของการปฏิบัติ SBI ประกอบด้วยกลุ่มหนึ่งและล่าง 20 ครูถือว่าเป็นการฝึก SBI ในระดับต่ำประกอบด้วยกลุ่มอื่น ๆ ครูวัดในหมวดหมู่ระดับต่ำของการปฏิบัติ SBI ถูกนำมาใช้เป็นกลุ่มควบคุมสำหรับการศึกษา research.This นี้ยังใช้การออกแบบเชิงการกำหนดความสัมพันธ์ระหว่างระดับของเอสบีไอตามการรับรู้ของนักเรียนและระดับของเอสบีไอในฐานะที่ตนเองรายงานโดย ครูของพวกเขา สเปียร์แมน 'อันดับค่าสัมประสิทธิ์สหสัมพันธ์ (โร) สถิติที่ถูกใช้ในการกำหนดความสัมพันธ์ สเปียร์แมน Rho แสดงให้เห็นถึงระดับของความสัมพันธ์ต่อเนื่องระหว่างสองตัวแปรตั้งอยู่ในลำดับแฟชั่นและการวัดความสัมพันธ์ระหว่างตัวแปรทั้งสองอันดับ (เฉินและ Popovich 2002) เดอะ หอกโรระบุว่านักเรียนและครูผู้สอนเห็นด้วยกับมุมมองของแต่ละคนเป็นถึงระดับของเอสบีไอที่เกิดขึ้นในห้องเรียน

ผลลัพธ์ (ไทย) 3:

สุดโต่ง คือใช้เทคนิคในการวิจัย ซึ่ง " เกี่ยวข้องกับการเลือกขั้วของคะแนนกระจายบนตัวแปร " ( ถุงน้ำดี et al . , 2550 , หน้า 312 ) นั่นคือ 20 สูงสุดและ 20 ระดับต่ำสุดของ SBI ถูกใช้ในการศึกษานี้ ในขณะที่ผู้ที่พบจะอยู่ในช่วงกลางที่ถูกตัดออก จากการวิเคราะห์ข้อมูล วางครูใน SBI สูง 20 กลุ่ม และกลุ่ม SBI ต่ำ 20 ในขณะที่การขจัดครูกลางมั่นใจว่าระดับสูงสุดของครู อันดับอยู่ในครึ่งบนของแต่ละตำแหน่ง และระดับต่ำสุดของครู อันดับอยู่ในครึ่งล่างของแต่ละอันดับที่ได้มาจากการสร้างการประเมินผู้เชี่ยวชาญการประเมินนักเรียน และอาจารย์ของเยาวชนครั้งนี้ แบ่งผู้เข้าร่วมเป็น 30 สูง 30 กลุ่ม , SBI ต่ำ ตัวอย่างเช่น จะทำให้เกิดสถานการณ์ที่ครูบางคนจะได้รับการจัดอันดับในระดับสูงภายใต้หนึ่งประเมินหรือวัดผล และครูเดียวกันจะได้รับการจัดอันดับอยู่ในกลุ่มต่ำภายใต้หนึ่งของการประเมินอื่น ๆ หรือประเมินผล การสร้างกลุ่มของ 20 มั่นใจครูกลุ่มสูงเป็นอันดับครู SBI สูง และบรรดาครูในกลุ่มต่ำจริง ๆอันดับเป็นต่ำ SBI ครูในแต่ละของการประเมิน และแต่ละของผู้ประเมิน . นี้จะสร้างฉากที่ " สองขั้วมีแนวโน้มที่จะพบความแตกต่างในตัวแปรอื่น ๆที่น่าสนใจ หรือ ระดับการปฏิบัติของ SBI ( ถุงน้ำดี et al . , 2550 , หน้า 312 ) ด้านบน 20 คน ถือว่าต้องใช้ระดับสูงของ SBI การปฏิบัติประกอบด้วยกลุ่มหนึ่งและด้านล่าง 20 ครูถือเป็นการฝึกครั้งนี้อยู่ในระดับต่ำ ประกอบด้วย กลุ่มอื่น ๆ ครูวัดในระดับต่ำของ SBI ประเภทการใช้กลุ่มควบคุมการวิจัย การศึกษา รวมถึงการออกแบบเชิงสหสัมพันธ์เพื่อตรวจสอบความสัมพันธ์ระหว่างระดับของ SBI ตามการรับรู้ของนักเรียน และระดับ self-reported SBI เป็นครูของพวกเขา เป็น Spearman Rank Correlation Coefficient " ( โร ) สถิติที่ใช้คือ ใช้กำหนดความสัมพันธ์ ใช้โรแสดงระดับของความสัมพันธ์ระหว่างสองตัวแปรอย่างเดียวในชุดแฟชั่นกฎหมายและมาตรการความสัมพันธ์ระหว่างสองตัวแปรอันดับ ( Chen & โพโพวิช , 2002 ) โดย Spearman Rho บ่งชี้ว่า ถ้าครูและนักเรียนเห็นด้วยกับแต่ละอื่น ๆของมุมมอง เป็นถึงระดับของ SBI ที่เกิดขึ้นในห้องเรียน