ai nurses' beliefs about breastfeed

ai nurses' beliefs about breastfeeding and postpartum practices.Cultural beliefs are important determinants of health care behaviours. Nurses have an important influence on infant feeding decisions and maternal postpartum care, but little is known about the extent to which their practice is influenced by traditional beliefs and/or recent innovations driven by evidence-based research. The aim of this study was to investigate Thai nurses' traditional beliefs about breastfeeding and related postpartum care, and their impact on nursing practice. A survey of 372 nurses working in hospitals and health services in Ubon Ratchathani, Thailand was undertaken. Questionnaire items were developed from a review of the literature and exploratory interviews with Thai women. Descriptive statistics were used to represent the incidence of particular beliefs and behaviours. Chi-square analyses were conducted to determine relationships between demographic characteristics and traditional beliefs and practices. There were discrepancies between nurses' beliefs and contemporary evidence-based practices. Many nurses supported traditional Thai postpartum practices such as food restrictions and encouraging hot baths. Some traditional beliefs supported by nurses may be detrimental to women and babies such as "lying by fire", discarding of colostrum, and giving boiled water to neonates. Only half the nurses reported that they encouraged mothers to breastfeed immediately following birth. The study was undertaken in the North-East of Thailand, where the population is known to have strong belief systems. Reliability and content validity of the tool would be enhanced through replication studies and qualitative investigations of other breastfeeding issues. There is a need for professional development strategies such as peer review and mentoring to address inadequate knowledge and outdated practices of some health professionals, as well as continuity of care models to assess quality care outcomes that are culturally appropriate.

ผลลัพธ์ (ไทย) 1:

ความเชื่ออายพยาบาลเกี่ยวกับนมแม่และการปฏิบัติหลังคลอด ความเชื่อวัฒนธรรมดีเทอร์มิแนนต์สำคัญของพฤติกรรมสุขภาพได้ พยาบาลมีผลสำคัญต่อการตัดสินใจให้อาหารทารกและการดูแลแม่หลังคลอด แต่น้อยเป็นที่รู้จักเกี่ยวกับขอบเขตที่ปฏิบัติการได้รับอิทธิพลจากความเชื่อดั้งเดิมและ/หรือนวัตกรรมล่าสุดจากงานวิจัยตามหลักฐาน จุดมุ่งหมายของการศึกษานี้ได้สืบประเพณีไทยพยาบาลเกี่ยวกับนมแม่ และการดูแลหลังคลอดที่เกี่ยวข้อง และผลกระทบต่อการปฏิบัติการพยาบาล ดำเนินการสำรวจพยาบาล 372 ที่ทำงานในโรงพยาบาลและบริการสุขภาพในอุบลราชธานี ประเทศไทย สอบถามสินค้าได้รับการพัฒนาจากการทบทวนวรรณกรรมและการสัมภาษณ์เชิงบุกเบิกกับผู้หญิงไทย ใช้สถิติพรรณนาถึงอุบัติการณ์ของความเชื่อเฉพาะและพฤติกรรม วิเคราะห์ chi-square ได้ดำเนินการกำหนดความสัมพันธ์ระหว่างลักษณะทางประชากร และประเพณีปฏิบัติ มีความขัดแย้งระหว่างความเชื่อและปฏิบัติตามหลักฐานร่วมสมัยของพยาบาล พยาบาลหลายทิศไทยหลังคลอดเช่นการจำกัดอาหารและอาบน้ำร้อนให้กำลังใจ บางประเพณีที่ได้รับการสนับสนุน โดยพยาบาลได้ผลดีกับผู้หญิงและเด็กเช่น "นอน ด้วยไฟ" ละทิ้งของ colostrum และให้น้ำต้ม neonates พยาบาลเพียงครึ่งรายงานว่า พวกเขาสนับสนุนให้แม่ให้นมลูกหลังคลอดทันที ดำเนินการศึกษาในแบบตะวันออกเฉียงเหนือของประเทศไทย ที่เรียกว่าประชากรจะมีระบบความ จะเพิ่มความน่าเชื่อถือและมีผลบังคับใช้เนื้อหาของเครื่องมือ โดยศึกษาการจำลองแบบและตรวจสอบคุณภาพของปัญหาการเลี้ยงลูกด้วยนมอื่น ๆ มีกลยุทธ์การพัฒนาอาชีพเช่นเพียร์ต้องตรวจสอบและปรึกษาเพื่อความรู้ไม่เพียงพอและปฏิบัติที่ล้าสมัยของบางผู้เชี่ยวชาญด้านสุขภาพ และความต่อเนื่องของดูแลรูปแบบการประเมินผลการดูแลคุณภาพที่เหมาะสมทางวัฒนธรรม

ผลลัพธ์ (ไทย) 2:

ความเชื่อพยาบาลไอเกี่ยวกับการเลี้ยงลูกด้วยนมและหลังคลอดเชื่อ practices.Cultural เป็นปัจจัยที่สำคัญของพฤติกรรมการดูแลสุขภาพ พยาบาลมีอิทธิพลสำคัญในการตัดสินใจให้นมทารกและการดูแลหลังคลอดของมารดา แต่ไม่ค่อยมีใครรู้จักขอบเขตที่ปฏิบัติของพวกเขาได้รับอิทธิพลจากความเชื่อดั้งเดิมและ / หรือนวัตกรรมล่าสุดได้แรงหนุนจากการวิจัยตามหลักฐาน จุดมุ่งหมายของการศึกษาครั้งนี้คือการตรวจสอบความเชื่อดั้งเดิมพยาบาลไทยเกี่ยวกับการเลี้ยงลูกด้วยนมและการดูแลหลังคลอดที่เกี่ยวข้องและผลกระทบต่อการปฏิบัติการพยาบาล จากการสำรวจ 372 พยาบาลที่ทำงานในโรงพยาบาลและบริการสุขภาพในอุบลราชธานี, ไทยกำลังดำเนินการ รายการแบบสอบถามได้รับการพัฒนาจากการทบทวนวรรณกรรมและการสัมภาษณ์การสำรวจกับผู้หญิงไทย สถิติเชิงพรรณนาถูกนำมาใช้เพื่อเป็นตัวแทนของอุบัติการณ์ของความเชื่อโดยเฉพาะและพฤติกรรม การวิเคราะห์ไคสแควร์ได้ดำเนินการเพื่อตรวจสอบความสัมพันธ์ระหว่างลักษณะทางประชากรและความเชื่อแบบดั้งเดิมและการปฏิบัติ มีความแตกต่างระหว่างความเชื่อพยาบาลและการปฏิบัติตามหลักฐานร่วมสมัยอยู่ พยาบาลหลายคนได้รับการสนับสนุนการปฏิบัติหลังคลอดไทยแบบดั้งเดิมเช่นข้อ จำกัด อาหารและการให้กำลังใจอาบน้ำร้อน บางความเชื่อดั้งเดิมได้รับการสนับสนุนโดยพยาบาลอาจจะเป็นอันตรายต่อผู้หญิงและทารกเช่น "โกหกด้วยไฟ" ทิ้งของนมน้ำเหลืองและให้น้ำต้มทารกแรกเกิด เพียงครึ่งหนึ่งของพยาบาลรายงานว่าพวกเขาได้รับการสนับสนุนคุณแม่ให้นมลูกเกิดทันทีต่อไป การศึกษาได้ดำเนินการในภาคตะวันออกเฉียงเหนือของประเทศไทยซึ่งมีประชากรที่เป็นที่รู้จักกันที่จะมีระบบความเชื่อที่แข็งแกร่ง ความน่าเชื่อถือและความถูกต้องของเนื้อหาเครื่องมือที่จะเพิ่มขึ้นผ่านการศึกษาการจำลองแบบและการตรวจสอบคุณภาพของการเลี้ยงลูกด้วยนมอื่น ๆ ประเด็น มีความจำเป็นสำหรับกลยุทธ์การพัฒนามืออาชีพเช่นการทบทวนและให้คำปรึกษาเพื่อแก้ไขความรู้ไม่เพียงพอและการปฏิบัติที่ล้าสมัยของผู้เชี่ยวชาญด้านสุขภาพบางอย่างเช่นเดียวกับความต่อเนื่องของรูปแบบการดูแลในการประเมินผลการดูแลที่มีคุณภาพที่เหมาะสมกับวัฒนธรรม

ผลลัพธ์ (ไทย) 3:

ไอ ความเชื่อเกี่ยวกับการเลี้ยงลูกด้วยนมแม่ พยาบาลและการปฏิบัติหลังคลอด วัฒนธรรมความเชื่อเป็นตัวกำหนดที่สำคัญของพฤติกรรมการดูแลสุขภาพ พยาบาลได้มีอิทธิพลสำคัญในการตัดสินใจของมารดาหลังคลอดและการดูแลทารกให้อาหารแต่น้อยเป็นที่รู้จักกันเกี่ยวกับขอบเขตการฝึกของเขาได้รับอิทธิพลจากความเชื่อดั้งเดิม และ / หรือ นวัตกรรมใหม่ล่าสุด ขับเคลื่อนโดยการวิจัยเชิงประจักษ์ .จุดมุ่งหมายของการศึกษานี้คือ เพื่อศึกษาพยาบาลไทยความเชื่อเกี่ยวกับนมแม่หลังคลอดและการดูแลที่เกี่ยวข้อง และผลกระทบต่อการปฏิบัติการพยาบาล การสำรวจและพยาบาลที่ทำงานในโรงพยาบาล และบริการสุขภาพในจังหวัดอุบลราชธานี ประเทศไทย ได้ดำเนิน รายการแบบสอบถามที่พัฒนาขึ้นจากการทบทวนวรรณกรรมและการสัมภาษณ์เด็กกับผู้หญิงไทยแบบสอบถามเพื่อแสดงอุบัติการณ์ของความเชื่อที่เฉพาะเจาะจงและพฤติกรรม . การวิเคราะห์ไคสแควร์ มีวัตถุประสงค์เพื่อศึกษาความสัมพันธ์ระหว่างลักษณะทางประชากร และประเพณีความเชื่อและการปฏิบัติ มีความแตกต่างระหว่างความเชื่อและการปฏิบัติพยาบาลตามหลักฐานร่วมสมัย .พยาบาลหลายคนสนับสนุนการปฏิบัติไทยหลังคลอดแบบดั้งเดิมเช่นข้อ จำกัด อาหาร และส่งเสริมให้อาบน้ำร้อน บางความเชื่อดั้งเดิมที่ได้รับการสนับสนุน โดยพยาบาลอาจเป็นอันตรายกับผู้หญิงและเด็กเช่น " โกหกด้วยไฟ " ทิ้งของน้ำเหลือง และต้มน้ำให้ทารก เพียงครึ่ง พยาบาลรายงานว่าพวกเขาสนับสนุนให้มารดาให้นมลูกทันทีหลังคลอดการวิจัยครั้งนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อ ในภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ซึ่งประชากรจักมีระบบความเชื่อที่แข็งแกร่ง ความเที่ยงและความตรงตามเนื้อหาของเครื่องมือจะถูกเพิ่มผ่านการศึกษาและตรวจสอบคุณภาพของเลี้ยงลูกด้วยนมอื่น ๆปัญหาต้องมียุทธศาสตร์การพัฒนาอาชีพ เช่น ตรวจสอบและให้คำปรึกษาให้ความรู้ไม่เพียงพอและล้าสมัยที่อยู่ปฏิบัติบางผู้เชี่ยวชาญด้านสุขภาพ ตลอดจนความต่อเนื่องของการดูแลแบบเพื่อประเมินคุณภาพการดูแล ผลที่เป็นวัฒนธรรมที่เหมาะสม