results are included in the patient

results are included in the patient’s medical record and are used in the development of the features of the discharge plan.
(7) 482.43(c) Standard: Discharge Plan - A registered nurse, social worker, or other appropriately qualified personnel must develop, or supervise the development of, a discharge plan if the discharge planning evaluation indicates a need for a discharge plan.
Interpretive Guidelines:
§482.43(c)(1)
The discharge plan that is based on the findings of the discharge planning evaluation must be developed by a registered nurse, social worker, or other appropriate qualified personnel, or by a person who is supervised by such personnel. State law governs the qualifications required to be considered a registered nurse or a social worker. The hospital’s written discharge planning policies and procedures must specify the qualifications for personnel other than registered nurses or social workers who develop or supervise the development of the plan.
The qualifications should include such factors as previous experience in discharge planning, knowledge of clinical and social factors that affect the patient’s functional status at discharge, knowledge of community resources to meet post-discharge clinical and social needs, and assessment skills. All personnel performing or supervising development of discharge plans, including registered nurses and social workers, must have knowledge of clinical, social, insurance/financial and physical factors that must be considered when evaluating how a patient’s expected post-discharge care needs can be met.
The hospital CoP governing patients’ rights at §482.13(b) provides that “The patient has the right to participate in the development and implementation of his or her plan of care.” (CMS views discharge planning as part of the patient’s plan of care). “The patient or his/her representative (as allowed under State law) has the right to make informed decisions regarding his/her care” and “The patient’s rights include being involved in care planning and treatment.” Accordingly, hospitals are expected to engage the patient, or the patient’s representative, actively in the development of the discharge plan, not only to provide them the necessary education and training to provide self-care/care, but also to incorporate the patient’s goals and preferences as much as possible into the plan. A patient will be more likely to cooperate in the implementation of a discharge plan that reflects his/her preferences, increasing the likelihood of a successful care transition and better health outcomes.
A patient’s goals and preferences may be, in the hospital’s view, unrealistic. A hospital is not obligated to develop a discharge plan that cannot be implemented. However, the fact that a plan incorporating the patient’s goals and preferences might be more time-consuming for the hospital to develop and implement than another alternative does not make the patient’s preferred plan unrealistic

ผลลัพธ์ (ไทย) 1:

ผลรวมอยู่ในเวชระเบียนของผู้ป่วย และใช้ในการพัฒนาคุณลักษณะของแผนการปล่อย(7) 482.43(c) มาตรฐาน: ปล่อยแผน - พยาบาลวิชาชีพ สังคมสงเคราะห์ หรือบุคลากรอื่น ๆ ที่มีคุณภาพเหมาะสมต้องพัฒนา หรือกำกับดูแลการพัฒนา แผนปล่อยถ้าปล่อยวางแผนการประเมินบ่งชี้ว่า จำเป็นต้องมีการวางแผนจำหน่ายแนวทางที่สื่อความหมาย:§482.43(c)(1)แผนการปล่อยตามผลของการปล่อยการวางแผนการประเมิน ต้องได้รับการพัฒนา โดยพยาบาลวิชาชีพ สังคมสงเคราะห์ หรือบุคลากรอื่น ๆ ที่มีคุณสมบัติเหมาะสม หรือบุคคลที่ดูแลโดยบุคลากรดังกล่าว กฎหมายของรัฐควบคุมคุณสมบัติต้องเป็นพยาบาลวิชาชีพหรือนักสังคมสงเคราะห์ ของโรงพยาบาลเป็นลายลักษณ์อักษรปล่อยวางแผนนโยบายและขั้นตอนต้องระบุคุณสมบัติสำหรับบุคลากรไม่ใช่กุ๊กหรือสังคมนักพัฒนา หรือดูแลการพัฒนาของแผนคุณสมบัติที่ควรมีปัจจัยต่าง ๆ เช่นประสบการณ์ก่อนหน้าในปล่อยวางแผน ความรู้ทางคลินิก และปัจจัยทางสังคมที่ส่งผลต่อสถานะการทำงานของผู้ป่วยที่ ปล่อย ความรู้ทรัพยากรของชุมชนเพื่อตอบสนองความต้องการทางการแพทย์ และสังคมหลังปล่อย และการประเมินทักษะ บุคลากรทั้งหมดดำเนินการ หรือดูแลปล่อยแผน รวมทั้งกุ๊กและสังคมสงเคราะห์ การพัฒนาต้องมีความรู้ทางคลินิก สังคม การประกันภัย/การเงินและปัจจัยทางกายภาพที่ต้องพิจารณาเมื่อประเมินว่าผู้ป่วยที่คาดดูแลหลังปล่อยต้องสามารถตอบสนองโรงพยาบาลตำรวจว่าด้วยสิทธิของผู้ป่วยที่ §482.13(b) แสดงว่า "ผู้ป่วยมีสิทธิที่จะเข้าร่วมในการพัฒนาและการใช้งานของเขา หรือเธอวางแผนการดูแล" (มุมมอง CMS ปลดปล่อยวางแผนเป็นส่วนหนึ่งของการวางแผนของผู้ป่วยการดูแล) "ตัวแทนของตน (ตามที่ได้รับอนุญาตภายใต้กฎหมายของรัฐ) หรือผู้ป่วยมีสิทธิที่จะตัดสินใจเกี่ยวกับการดูแลตน" และ "สิทธิของผู้ป่วยได้แก่การมีส่วนร่วมในการวางแผนดูแลและการรักษา" ดังนั้น โรงพยาบาลจะต้องมีส่วนร่วมของผู้ป่วย หรือตัวแทนของผู้ป่วย อย่างแข็งขันในการพัฒนาแผนจำหน่าย ไม่เพียงแต่เพื่อให้การศึกษาที่จำเป็นและการฝึกอบรม เพื่อให้ตั้ง care/ดูแล แต่ยังรวมการตั้งค่าที่มากที่สุดและเป้าหมายของผู้ป่วยลงในแผน ผู้ป่วยจะมีโอกาสมากขึ้นที่จะร่วมมือในการดำเนินงานของแผนการปล่อยที่สะท้อนถึงการตั้งค่าของตน เพิ่มโอกาสของการเปลี่ยนแปลงการดูแลประสบความสำเร็จและสุขภาพที่ดีเป้าหมายและการกำหนดลักษณะของผู้ป่วยอาจได้ ในมุมมองของโรงพยาบาล ไม่สมจริง โรงพยาบาลไม่จำเป็นในการพัฒนาแผนการจ่ายที่ไม่สามารถดำเนินการ อย่างไรก็ตาม ความจริงที่ว่าการวางแผนเป้าหมายและการกำหนดลักษณะของผู้ป่วยอาจใช้เวลามากขึ้นในโรงพยาบาลเพื่อพัฒนา และกว่าอีกทางเลือก ไม่ทำให้แผนของผู้ป่วยไม่สมจริง

ผลลัพธ์ (ไทย) 2:

ผลจะรวมอยู่ในเวชระเบียนของผู้ป่วยและถูกนำมาใช้ในการพัฒนาคุณลักษณะของแผนการปล่อย
(7) 482.43 (c) มาตรฐาน: แผนปลดประจำการ - พยาบาลที่ลงทะเบียนนักสังคมสงเคราะห์หรือบุคลากรที่มีคุณภาพเหมาะสมอื่น ๆ ที่จะต้องพัฒนาหรือกำกับดูแลการพัฒนาของแผนปล่อยถ้าการประเมินผลการวางแผนจำหน่ายบ่งบอกถึงความจำเป็นในการวางแผนการปล่อยให้
แนวทางการสื่อความหมาย:
§482.43 (c) (1)
แผนปล่อยที่จะขึ้นอยู่กับผลการวิจัยของการประเมินผลการวางแผนจำหน่ายจะต้องได้รับการพัฒนาโดยพยาบาลที่ลงทะเบียนนักสังคมสงเคราะห์หรือบุคลากรที่มีคุณภาพอื่น ๆ ที่เหมาะสมหรือโดยบุคคลที่เป็นผู้ดูแลโดย บุคลากรดังกล่าว กฎหมายของรัฐควบคุมคุณสมบัติที่จำเป็นในการได้รับการพิจารณาพยาบาลที่ลงทะเบียนหรือนักสังคมสงเคราะห์ เขียนนโยบายการวางแผนจำหน่ายของโรงพยาบาลและวิธีการต้องระบุคุณสมบัติสำหรับบุคลากรอื่น ๆ นอกเหนือจากพยาบาลที่ลงทะเบียนหรือนักสังคมสงเคราะห์ที่พัฒนาหรือกำกับดูแลการพัฒนาของแผน
คุณสมบัติควรจะรวมถึงปัจจัยต่างๆเช่นประสบการณ์ก่อนหน้านี้ในการวางแผนจำหน่าย, ความรู้เกี่ยวกับปัจจัยทางคลินิกและทางสังคมที่ส่งผลกระทบต่อภาวะการทำหน้าที่ของผู้ป่วยที่ปล่อยความรู้เกี่ยวกับทรัพยากรของชุมชนเพื่อตอบสนองการโพสต์ปล่อยความต้องการทางคลินิกและสังคมและทักษะในการประเมิน พนักงานทุกคนปฏิบัติหรือการกำกับดูแลการพัฒนาแผนการปล่อยรวมทั้งพยาบาลที่ลงทะเบียนและสังคมจะต้องมีความรู้ทางคลินิกประกัน / ปัจจัยทางการเงินและทางกายภาพทางสังคมที่จะต้องพิจารณาเมื่อมีการประเมินว่าผู้ป่วยที่คาดว่าความต้องการการดูแลหลังการปล่อยสามารถพบ
ตำรวจโรงพยาบาลปกครองสิทธิผู้ป่วยที่§482.13 (ข) แสดงให้เห็นว่า "ผู้ป่วยมีสิทธิที่จะมีส่วนร่วมในการพัฒนาและดำเนินการตามแผนของเขาหรือเธอในการดูแล." (CMS วางแผนมุมมองที่ปลดประจำการเป็นส่วนหนึ่งของแผนของผู้ป่วยในการดูแล ) "ผู้ป่วยและ / หรือตัวแทนของเขาและเธอ (ตามที่ได้รับอนุญาตตามกฎหมายของรัฐ) มีสิทธิที่จะให้ข้อมูลในการตัดสินใจเกี่ยวกับการ / การดูแลของเขาและเธอ" และ "สิทธิของผู้ป่วยรวมถึงการมีส่วนร่วมในการวางแผนการดูแลและการรักษา." ดังนั้นโรงพยาบาลที่คาดว่าจะมีส่วนร่วม ผู้ป่วยหรือผู้แทนของผู้ป่วยอย่างแข็งขันในการพัฒนาของแผนปล่อยที่ไม่เพียง แต่จะให้พวกเขาการศึกษาที่จำเป็นและการฝึกอบรมเพื่อให้การดูแลตนเอง / การดูแล แต่ยังรวมเป้าหมายของผู้ป่วยและการตั้งค่าให้มากที่สุดเท่าที่เป็นไปได้เข้าสู่ วางแผน. ผู้ป่วยจะมีแนวโน้มที่จะให้ความร่วมมือในการดำเนินการตามแผนปล่อยที่สะท้อนให้เห็นถึง / ความพึงพอใจของเขาและเธอเพิ่มโอกาสของการเปลี่ยนแปลงการดูแลประสบความสำเร็จและผลลัพธ์ทางสุขภาพที่ดีขึ้น
เป้าหมายของผู้ป่วยและการตั้งค่าอาจจะเป็นในมุมมองของโรงพยาบาลที่ไม่สมจริง โรงพยาบาลไม่จำเป็นในการพัฒนาแผนปล่อยที่ไม่สามารถดำเนินการได้ แต่ความจริงที่ว่าแผนผสมผสานเป้าหมายของผู้ป่วยและการตั้งค่าอาจจะใช้เวลานานมากสำหรับโรงพยาบาลที่จะพัฒนาและดำเนินการกว่าอีกทางเลือกหนึ่งไม่ได้ทำให้แผนการที่ต้องการของผู้ป่วยที่ไม่สมจริง

ผลลัพธ์ (ไทย) 3:

ผลลัพธ์ที่ได้จะรวมอยู่ในประวัติทางการแพทย์ของผู้ป่วย และใช้ในการพัฒนาคุณลักษณะของแผนปล่อย( 7 ) 482.43 ( C ) มาตรฐาน : แผน - นักสังคมสงเคราะห์พยาบาลลงทะเบียน จำหน่าย หรืออื่น ๆอย่างเหมาะสม บุคลากรต้องพัฒนาหรือดูแลการพัฒนา , การวางแผนจำหน่ายหากการวางแผนจำหน่ายผู้ป่วย การประเมินว่าต้องวางแผนจำหน่าย .แปล : แนวทาง§ 482.43 ( C ) ( 1 )การคิดที่อยู่บนพื้นฐานของผลของการวางแผนจำหน่ายผู้ป่วยประเมินจะต้องพัฒนาโดยการลงทะเบียนพยาบาล นักสังคมสงเคราะห์ หรืออื่น ๆที่เหมาะสม บุคลากร หรือผู้ดูแล โดยบุคลากรดังกล่าว กฎหมายของรัฐควบคุมคุณสมบัติการเป็นพยาบาลวิชาชีพ หรือ นักสังคมสงเคราะห์ การวางแผนจำหน่ายผู้ป่วยของโรงพยาบาลที่เขียนนโยบายและขั้นตอนจะต้องกำหนดคุณสมบัติบุคลากรมากกว่าพยาบาลหรือนักสังคมสงเคราะห์ที่พัฒนาหรือดูแลการพัฒนาของแผนคุณสมบัติที่ควรมีปัจจัยต่างๆ เช่น ประสบการณ์ในการวางแผนจำหน่ายผู้ป่วย ความรู้เกี่ยวกับปัจจัยทางคลีนิกและสังคมที่มีผลต่อการใช้สถานะของผู้ป่วย ความรู้ของทรัพยากรชุมชนเพื่อตอบสนองการโพสต์คลินิกและความต้องการทางสังคมและทักษะการประเมิน บุคลากรทั้งหมดการปฏิบัติหรือการพัฒนาแผนการจำหน่าย ได้แก่ พยาบาลวิชาชีพ และสังคม ต้องมีความรู้ทางคลินิก , สังคม , ประกันชีวิต / ทางการเงินและทางกายภาพปัจจัยที่ต้องพิจารณาเมื่อประเมินว่าผู้ป่วยคาดว่าจะโพสต์การดูแลความต้องการสามารถพบที่โรงพยาบาลตำรวจ ว่าด้วยสิทธิผู้ป่วยที่§ 482.13 ( B ) ให้ว่า " ผู้ป่วยมีสิทธิที่จะมีส่วนร่วมในการพัฒนาและการดำเนินการตามแผนของเขาหรือเธอในการดูแล " ( CMS มุมมองการวางแผนจำหน่ายผู้ป่วยเป็นส่วนหนึ่งของแผนของผู้ป่วยการดูแล ) " คนไข้ของเขา / เธอแทน ( ตามที่ได้รับอนุญาตภายใต้กฎหมายของรัฐ ) มีสิทธิในการตัดสินใจเกี่ยวกับการดูแลของเขา / เธอ " และ " สิทธิของผู้ป่วย รวมถึงการมีส่วนร่วมในการวางแผนและการรักษาดูแล " ตาม โรงพยาบาล ที่คาดว่าจะดึงดูดผู้ป่วยหรือคนไข้อย่างแข็งขันในการพัฒนาตัวแทน ของแผนปลด ไม่เพียง แต่จะให้การศึกษาและฝึกอบรมการดูแลตนเองที่จำเป็นเพื่อให้การดูแล แต่ยังรวมเป้าหมายของผู้ป่วยและการตั้งค่ามากที่สุดเท่าที่เป็นไปได้ในแผน ผู้ป่วยจะมีแนวโน้มที่จะร่วมมือในการพัฒนาการวางแผนจำหน่ายที่สะท้อนให้เห็นถึงความต้องการของเขา / เธอ การเพิ่มโอกาสของการประสบความสำเร็จ และผลจากการดูแลสุขภาพที่ดีกว่าเป้าหมายของผู้ป่วยและการตั้งค่าอาจจะในของโรงพยาบาลดูสมจริง โรงพยาบาลนี้ไม่มีภาระผูกพันกับการพัฒนาการวางแผนจำหน่ายที่ไม่สามารถใช้ อย่างไรก็ตาม เนื่องจากแผนผสมผสานเป้าหมายของผู้ป่วยและการตั้งค่าอาจจะใช้เวลานานสำหรับโรงพยาบาล เพื่อพัฒนาและใช้กว่าทางเลือกอื่นไม่ทำให้คนไข้ที่ต้องการวางแผน สมจริง