3.2.1. Drying curves and effects of

3.2.1. Drying curves and effects of acoustic field
Figs. 6 and 7 showed the variations of moisture ratios with
drying time at a sound frequency varying from 1 kHz to 4 kHz and
sound pressure level in the range of 90–140 dB, respectively.
These Figures demonstrated that acoustic energy has the ability
to remove moisture, and consequently mass transfer processes
can be accelerated. In addition, high-intensity acoustic waves produce
cavitations of water molecules inside the lignite, which may
be beneficial for the removal of strongly attached moisture [16].
As seen fromFig. 6, the influence of acoustic waveswas negligible at
a lowsound frequency. Thatmeans that acoustic energy inside particles
and the drag force and collision force by sound waves were weakened
remarkably during the drying process at lower sound frequency. In
the present case, the threshold above which acoustic wave effect was
found significant is in the range of 1.25 – 2 kHz. These results agreed
with those obtained at the minimum fluidization velocity of lignite

ผลลัพธ์ (ไทย) 1:

3.2.1. การอบแห้งเส้นโค้งและลักษณะของฟิลด์ระดับFigs. 6 และ 7 แสดงรูปแบบของอัตราส่วนความชื้นด้วยแห้งความถี่เสียงที่แตกต่างกันจาก 1 kHz ถึง 4 kHz และเสียงระดับความดันในช่วง 90 – 140 dB ตามลำดับตัวเลขเหล่านี้แสดงว่า ระดับพลังงานมีความสามารถในเพื่อเอาความชื้น และดังนั้น โดยรวมกระบวนการโอนย้ายสามารถจะเร่ง นอกจากนี้ อคูสติกความเข้มสูงคลื่นผลิตcavitations ของโมเลกุลของน้ำภายในรถ ที่อาจเป็นประโยชน์ต่อการกำจัดความชื้นขอแนบ [16]เป็น fromFig เห็น 6 อิทธิพลของระยะที่ระดับ waveswasความถี่ lowsound Thatmeans พลังงานที่ระดับภายในอนุภาคและแรงลากและแรงชน โดยคลื่นเสียงถูกลดลงอย่างยิ่งในระหว่างกระบวนการอบแห้งที่ความถี่เสียงต่ำ ในกรณีปัจจุบัน ขีดจำกัดบนคลื่นอะคูสติกคือพบสำคัญอยู่ในช่วง 1.25-2 kHz ตกลงผลลัพธ์เหล่านี้ผู้รับที่ความเร็วต่ำสุดฟลูลิกไนต์

ผลลัพธ์ (ไทย) 2:

3.2.1 เส้นโค้งการอบแห้งและผลกระทบของสนามอะคูสติก
มะเดื่อ 6 และ 7 แสดงให้เห็นรูปแบบของอัตราส่วนความชื้นกับ
เวลาการอบแห้งที่ความถี่ของเสียงที่แตกต่างกันตั้งแต่วันที่ 1 kHz ถึง 4 เฮิร์ทซ์และ
ระดับความดังของเสียงในช่วง 90-140 เดซิเบลตามลำดับ.
ตัวเลขเหล่านี้แสดงให้เห็นว่าพลังงานอะคูสติกมีความสามารถใน
การลบความชุ่มชื้น และทำให้กระบวนการถ่ายโอนมวล
สามารถเร่ง นอกจากนี้คลื่นเสียงความเข้มสูงผลิต
cavitations โมเลกุลของน้ำภายในลิกไนต์ซึ่งอาจจะ
เป็นประโยชน์สำหรับการกำจัดของความชื้นที่แนบมาอย่างมาก [16].
เท่าที่เห็น fromFig 6, อิทธิพลของอะคูสติก waveswas เล็กน้อยที่
ความถี่ lowsound Thatmeans ว่าพลังงานอะคูสติกภายในอนุภาค
และแรงลากและแรงปะทะกันโดยคลื่นเสียงถูกลดลง
อย่างน่าทึ่งในระหว่างขั้นตอนการอบแห้งที่ความถี่ของเสียงที่ต่ำกว่า ใน
กรณีปัจจุบันเกณฑ์ข้างต้นซึ่งผลคลื่นอะคูสติกได้รับการ
ค้นพบที่สำคัญอยู่ในช่วง 1.25-2 เฮิร์ทซ์ ผลลัพธ์เหล่านี้ตกลงกัน
กับผู้ที่ได้รับที่ความเร็วไหลต่ำสุดของลิกไนต์