ชื่อเรื่อง The Blind Side นั้นหมายถึง ด้านที่คู่ต่อสู้จะเข้ามาจู่โจม Quarterback ผู้เล่นที่สำคัญที่สุดในกีฬาในอเมริกันฟุตบอล ซึ่งเขาจะไม่เห็นคนที่มาข้าง ๆ หรือข้างหลัง มันจึงเป็น Blind Side ของเขา โดยหลังจากสแน๊บลูก พวกตัวยักษ์ ๆ จะเข้าตะลุมบอน ทำให้บางครั้งกระดูกหัก แขนหัก ดังนั้นโค้ชจะต้องจัดคนช่วยปกป้องหรือ Offensive Tackle เพื่อคุ้มกันสิ่งที่เขามองไม่เห็น ในพื้นที่ด้านซ้ายเพื่อช่วยปิดมุมมืด และนี่คือที่มาของภาพยนตร์
เรื่องเริ่มจาก Michael เด็กโข่งตัวใหญ่ยักษ์ ที่คนเรียกว่า Big Mike (เขาไม่ชอบที่จะให้ใครมาเรียกเขาแบบนี้) เขาได้รับน้ำใจครั้งแรกจาก Tony ช่างฟิตผิวดำ ที่อยากเห็นเด็ก ๆ ได้มีโอกาสเรียนจึงได้นำจึงพาเขาไปพร้อมกับ Stephen s เด็ก ๆ ในถิ่นคนดำเพื่อฝากเข้าเรียนที่ Briarcrest Christian School โรงเรียนคริสเตียนชื่อดังของคนผิวขาว ฝากในฐานะที่จะมาเป็นนักกีฬา เพื่อให้เขาได้มีโอกาสดี ๆ ในชีวิต เขาเกลี้ยกล่อมให้ครูพละไปขอให้ผู้บริหารของโรงเรียนรับเด็กผิวดำทั้ง 2 คน ซึ่งผู้บริหารไม่เห็นประโยชน์ที่จะรับ Michael เข้าโรงเรียน Michael ยืนมองคำขวัญของโรงเรียน “มีมนุษย์ สิ่งนี้จึงเป็นไปได้ มีพระเจ้า ทุกสิ่งจึงเป็นไปได้” และสุดท้ายเขาก็ได้เข้าโรงเรียน
เด็กผิวขาวในห้องมองเขาด้วยสายตาแปลก ๆ เหมือนตัวประหลาด เขาไม่มีพื้นฐานในการเรียน ผลการเรียนต่ำจนครูวิชาต่าง ๆ ส่ายหน้า ผมชอบที่ครูบางคนพยายามจะหาทางช่วยเขา พยายามจะเข้าใจเขา “จ้องจับถูก” ค้นหาศักยภาพในตัวเขา หาทางเข้าถึงความเป็นตัวตนหรืออัตตลักษณ์ของเขา ถึงตรงนี้ผมเชื่อว่าเด็กนักเรียนในบ้านเราก็มีปัญหาคล้าย ๆ นี้อยู่จำนวนมาก ผู้ปกครองส่วนใหญ่ก็หวังพึ่งโรงเรียน ไม่มีความรู้ที่จะแก้ปัญหานั้น ๆ ครูจำนวนมากก็มีภารกิจมากเกิน นักเรียนแต่ละห้องมีมาก และบางทีครูเองก็มีปัญหา จนไม่สามารถช่วยได้ ปัญหาไม่ได้รับการคลี่คลาย เมื่อไม่มีใครช่วยแก้ปัญหา เด็กจำนวนมากต้องออกจากโรงเรียน สูญเสียอนาคต ติดยาเสพติด ตั้งครรภ์ก่อนวัย แล้วก็เป็นปัญหาของสังคมต่อไป นี่คือ Blind Side ของสังคมไทย