Numerous studies have suggested tha

Numerous studies have suggested that caffeine has many health benefits. Now, new research suggests that a dose of caffeine after a learning session may help to boost long-term memory. This is according to a study published in the journal Nature Neuroscience.

The research team, led by Daniel Borota of the Johns Hopkins University in Baltimore, notes that although previous research has analyzed the effects of caffeine as a cognitive enhancer, whether caffeine can impact long-term memory has not been studied in detail.

To find out, the investigators analyzed 160 participants aged between 18 and 30 years.

On the first day of the study, the participants were shown pictures of different objects and were asked to identify them as "indoor" or "outdoor" items.

Soon after this task, they were randomized to receive either 200 mg of caffeine in the form of a pill, or a placebo tablet.

The next day, the participants were shown the same pictures as well as some new ones. The researchers asked them to identify whether the pictures were "new," "old" or "similar to the original pictures."

200 mg of caffeine 'enhanced memory'
From this, the researchers found that subjects who took the caffeine were better at identifying pictures that were similar, compared with participants who took the placebo.

However, the researchers note that both groups were able to accurately distinguish whether pictures were old or new.

Coffee being poured into a cup which is sitting on a bed of coffee beans
New research suggests that consuming 200 mg of caffeine a day may boost long-term memory.
The team conducted further experiments using 100 mg and 300 mg doses of caffeine. They found that performance was better after the 200 mg dose, compared with the 100 mg dose, but there was no improvement after the 300 mg of caffeine, compared with 200 mg.

ผลลัพธ์ (ไทย) 1:

การศึกษาหลายแห่งได้แนะนำว่า คาเฟอีนมีประโยชน์ต่อสุขภาพมาก ตอนนี้ วิจัยใหม่แนะนำว่า ปริมาณของคาเฟอีนหลังจากช่วงการเรียนรู้อาจช่วยเพิ่มหน่วยความจำระยะยาว นี้เป็นตามการศึกษาเผยแพร่ในสมุดธรรมชาติประสาทวิทยาศาสตร์

ทีมงานวิจัย นำ โดย Daniel Borota มหาวิทยาลัยฮ็อปกินส์จอห์นในบัลติมอร์ ศึกษาบันทึกว่า แม้ว่างานวิจัยก่อนหน้านี้ได้วิเคราะห์ผลของคาเฟอีนเป็นตัวเพิ่มการรับรู้ ว่าคาเฟอีนอาจส่งผลต่อหน่วยความจำระยะยาวในรายละเอียดไม่

หา นักสืบที่วิเคราะห์ร่วม 160 อายุระหว่าง 18 และ 30 ปี

ในวันแรกของการศึกษา ผู้เข้าร่วมได้แสดงภาพของวัตถุที่แตกต่างกัน และถูกขอให้ระบุให้เป็น "ร่ม" หรือ "กลาง" สินค้า

นี้หลังจากงานนี้ พวกเขาถูก randomized รับทั้ง 200 มก.คาเฟอีนในรูปแบบของตัวยา เม็ดยาหลอก

วัน ผู้เข้าร่วมได้แสดงรูปภาพเดียวกันรวมทั้งบางคนใหม่ นักวิจัยขอให้ระบุว่าภาพถูก "ใหม่ "เก่า" หรือ"คล้าย คลึงกับภาพเดิม "

200 มิลลิกรัมของคาเฟอีน 'เพิ่มหน่วยความจำ'
จากนี้ นักวิจัยพบว่า เรื่องที่คาเฟอีนได้ดีที่ระบุรูปภาพที่คล้ายกัน เปรียบเทียบกับคนที่ใช้ยาหลอก

อย่างไรก็ตาม นักวิจัยทราบว่า ทั้งสองกลุ่มมีความสามารถอย่างแยกแยะว่าภาพมีเก่า หรือใหม่

กำลัง poured ในถ้วยซึ่งนั่งอยู่บนเตียงของเมล็ดกาแฟกาแฟ
วิจัยใหม่แนะนำให้ บริโภคคาเฟอีนวัน 200 มก.อาจเพิ่มหน่วยความจำระยะยาว
ทีมดำเนินเพิ่มเติมทดลองใช้ 100 มก.และ 300 มก.ปริมาณของคาเฟอีน พวกเขาพบว่า ประสิทธิภาพดีกว่าหลังจาก 200 มิลลิกรัม เปรียบเทียบกับยา 100 mg แต่มีไม่ปรับปรุงหลังจาก 300 มิลลิกรัมของคาเฟอีน เมื่อเทียบกับ 200 มิลลิกรัม

ผลลัพธ์ (ไทย) 2:

การศึกษาหลายชิ้นได้ชี้ให้เห็นว่าคาเฟอีนมีประโยชน์ต่อสุขภาพมาก ตอนนี้งานวิจัยใหม่แสดงให้เห็นว่าปริมาณของคาเฟอีนหลังจากที่เซสชั่นการเรียนรู้ที่อาจจะช่วยในการเพิ่มหน่วยความจำระยะยาว นี้เป็นไปตามการศึกษาที่ตีพิมพ์ในวารสารธรรมชาติประสาททีมวิจัยที่นำโดยแดเนียล Borota ของ Johns Hopkins University ในบัลติมอร์ตั้งข้อสังเกตว่าแม้วิจัยก่อนหน้านี้ได้มีการวิเคราะห์ผลกระทบของคาเฟอีนเป็นองค์ความรู้เพิ่มว่าคาเฟอีนสามารถส่งผลกระทบระยะยาว หน่วยความจำระยะไม่ได้รับการศึกษาในรายละเอียดเพื่อหานักวิเคราะห์ 160 ผู้เข้าร่วมที่มีอายุระหว่าง 18 และ 30 ปีในวันแรกของการศึกษาที่ผู้เข้าร่วมได้แสดงให้เห็นภาพของวัตถุที่แตกต่างและได้รับการขอให้ระบุว่า " ร่ม "หรือ" กลางแจ้ง "รายการที่ไม่นานหลังจากที่งานนี้พวกเขาถูกสุ่มให้ได้รับ 200 มิลลิกรัมของคาเฟอีนในรูปแบบของยาเม็ด, ยาหลอกหรือแท็บเล็วันรุ่งขึ้นผู้เข้าร่วมที่มีการแสดงภาพที่เหมือนกันเช่นเดียวกับ คนใหม่ นักวิจัยขอให้พวกเขาระบุว่าภาพที่เป็น "ใหม่" "เก่า" หรือ "คล้ายกับภาพเดิม". 200 มิลลิกรัมของคาเฟอีน 'เพิ่มหน่วยความจำ' จากนี้นักวิจัยพบว่าอาสาสมัครที่เข้ามามีคาเฟอีนได้ดีในการระบุ ภาพที่มีลักษณะคล้ายกันเมื่อเทียบกับผู้เข้าร่วมที่เอายาหลอกอย่างไรก็ตามนักวิจัยทราบว่าทั้งสองกลุ่มมีความสามารถที่จะต้องแยกความแตกต่างไม่ว่าจะเป็นภาพเก่าหรือใหม่กาแฟถูกเทลงในถ้วยที่กำลังนั่งอยู่บนเตียงของเมล็ดกาแฟงานวิจัยใหม่ แสดงให้เห็นว่าการบริโภค 200 มิลลิกรัมของคาเฟอีนวันอาจช่วยเพิ่มหน่วยความจำระยะยาวของทีมงานทำการทดลองต่อไปโดยใช้ 100 และ 300 มิลลิกรัมมิลลิกรัมปริมาณของคาเฟอีน พวกเขาพบว่าผลการดำเนินงานที่ดีขึ้นหลังจากที่ปริมาณ 200 มิลลิกรัมเมื่อเทียบกับปริมาณ 100 มิลลิกรัม แต่มีการปรับปรุงหลังจากที่ 300 มิลลิกรัมของคาเฟอีนไม่เมื่อเทียบกับ 200 มิลลิกรัม

ผลลัพธ์ (ไทย) 3:

การศึกษามากมายชี้ให้เห็นว่ามีคาเฟอีนมีประโยชน์ต่อสุขภาพมาก ตอนนี้งานวิจัยใหม่ชี้ให้เห็นว่าปริมาณของคาเฟอีนหลังจากวิชาเรียนอาจช่วยเพิ่มความจำระยะยาว นี้คือตามการศึกษาที่เผยแพร่ในวารสารธรรมชาติประสาทวิทยาศาสตร์ .

ทีมวิจัยที่นำโดย แดเนียล borota ของมหาวิทยาลัยจอนส์ฮอปกินส์ในบัลติมอร์บันทึกว่า แม้งานวิจัยก่อนหน้านี้ได้ศึกษาผลของคาเฟอีนเป็นสารเสริมปัญญา ว่าคาเฟอีนสามารถส่งผลกระทบต่อหน่วยความจำระยะยาวไม่ได้รับการศึกษาในรายละเอียด

หาผู้ตรวจสอบวิเคราะห์ 160 คน อายุระหว่าง 18 - 30 ปี

ในวันแรกของการศึกษาผู้เข้าร่วมแสดงภาพของวัตถุที่แตกต่างกันและถูกถามว่าพวกเขาเป็น " ร่ม " หรือ " สระ " รายการ

หลังจากงานนี้ พวกเขาถูกสุ่มให้รับทั้ง 200 มิลลิกรัมของคาเฟอีนในรูปแบบของยาเม็ดหรือยาเม็ดยาหลอก

วันถัดไป ผู้เข้าร่วมแสดงภาพเดียวกันเช่นเดียวกับใหม่บางนักวิจัยได้ถามพวกเขาเพื่อระบุว่าภาพที่ " ใหม่ " " เก่า " หรือ " คล้ายกับรูปเดิม "

200 มิลลิกรัมของคาเฟอีน ' ปรับปรุง '
จากหน่วยความจำนี้ นักวิจัยพบว่า เรื่องที่เอาคาเฟอีนดีกว่าที่ระบุภาพที่คล้ายคลึงกัน เมื่อเปรียบเทียบกับผู้เอา 3 .

อย่างไรก็ตามนักวิจัยทราบว่าทั้งสองกลุ่มจะถูกต้องสามารถแยกแยะว่ารูปเก่าหรือใหม่

กาแฟถูกรินใส่ถ้วยซึ่งนั่งอยู่บนเตียงของเมล็ดกาแฟ
งานวิจัยใหม่ชี้ให้เห็นว่า การบริโภค 200 มิลลิกรัมของคาเฟอีนวันอาจเพิ่มความจำระยะยาว .
ทีมทำการทดลองเพิ่มเติมใช้ 100 mg และ 300 มก. ปริมาณของคาเฟอีนพวกเขาพบว่าประสิทธิภาพดีขึ้นหลัง 200 mg ขนาด 100 มิลลิกรัม เมื่อเทียบกับปริมาณ แต่ไม่มีการปรับปรุงหลัง 300 มิลลิกรัมของคาเฟอีน , เมื่อเทียบกับ 200 มิลลิกรัม