วิธีการปลูกข้าวหรือการทำนาในประเทศไ

วิธีการปลูกข้าวหรือการทำนาในประเทศไทยแบ่งออกเป็น 3 วิธี ดังนี้
การปลูกข้าวไร่ หมายถึง การปลูกข้าวบนที่ดอนไม่มีน้ำขังในพื้นที่ปลูก ชนิดของข้าวที่ปลูกเรียกว่า “ข้าวไร่” พื้นที่ดอนส่วนมากเช่น ภูเขา มักจะไม่มีระดับ คือ สูงๆต่ำๆ จึงไม่สามารถไถเตรียมดิน และปรับระดับดินได้ง่ายๆ เหมือนกับพื้นที่ราบ เพราะฉะนั้น ชาวนามักปลูกข้าวแบบหยอด โดยขั้นแรกทำการตัดหญ้าและต้นไม้เล็กออก แล้วจึงทำความสะอาดพื้นที่ที่จะปลูก แล้วใช้หลักไม้ปลาย แหลมเจาะดินเป็นหลุม ปกติจะต้องหยอดพันธุ์ข้าวทันที่หลังจากที่เจาะหลุม และหลังจากหยอดเมล็ดพันธุ์ข้าว แล้วจะใช้เท้ากลบดินปากหลุม เมื่อฝนตกหรือเมื่อเมล็ดได้รับความชื้นจากดิน เมล็ดจะงอกและเจริญเติบโตเป็นต้นข้าว เนื่องจากที่ดอนไม่มีน้ำขัง และไม่มี การชลประทาน การปลูกข้าวไร่จึงต้องใช้น้ำฝนเพียงอย่างเดียว พื้นที่ปลูกข้าวไร่จะแห้งและขาดน้ำทันที่เมื่อสิ้นหน้าฝน ดังนั้นการ ปลูกข้าวไร่จึงต้องใช้พันธุ์ที่มีอายุเบา โดยปลูกในต้นฤดูฝนและแก่เก็บเกี่ยวได้ในปลายฤดูฝน ดังนั้นการปลูกข้าวไร่ชาวนาจะต้องหมั่น กำจัด วัชพืช เพราะที่ดอนมักจะมีวัชพืชมากกว่าที่ลุ่ม พื้นที่ที่ปลูกข้าวไร่ในประเทศไทยมีจำนวนน้อยและปลูก มากในภาคเหนือและภาคใต้ ส่วนภาคตะวันออกเฉียงเหนือและภาคกลางปลูกข้าวไร่น้อยมาก
การปลูกข้าวนาดำ หรือเรียกว่า การปักดำ ซึ่งวิธีการปลูกแบ่งเป็นสองตอน ตอนแรกได้แก่การตกกล้าในแปลขนาดเล็ก และตอน ที่สองได้แก่การถอนต้นกล้านำไปปักดินในนาผืนที่ใหญ่ ดังนั้น การปลูกแบบปักดำอาจเรียกว่า Indirect Seeding ซึ่งต้องเตรียม ดินที่ดีกว่าการปลูกข้าวไร่ ซึ่งมีการไถดะ การไถแปร และการคราด ปกติการไถและคราดในนาดำมักจะใช้แรงวัวควาย หรือแทรกเตอร์ขนาดเล็กที่เรียกว่า ควายเหล็ก หรือไถยนต์เดินตาม ทั้งนี้เป็นเพราะพื้นที่นาดำมีคันนาแบ่งกั้นออกเป็นแปลงเล็กๆ ขนาดแปลงละ 1 ไร่ หรือเล็กกว่า คันนามีไว้เพื่อกักเก็บน้ำ ปล่อยน้ำทิ้งจากแปลงนา นาดำจึงมีการบังคับน้ำในนาไว้ได้บ้างพอสมควร
การไถดะ หมายถึง การถครั้งแรกเพื่อทำลายวัชพืชในนาและพลิกกลับหน้าดิน แล้วปล่อยทิ้งไว้ประมาณ 1 สัปดาห์ จึงทำการไถแปรซึ่งหมายถึงการไถตัดกับรอยไถดะ การไถแปรอาจไถมากกว่าหนึ่งครั้ง ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับระดับน้ำในนาตลอดจนถึงชนิดและปริมาณของวัชพืช เมื่อไถแปร แล้วทำการคราดได้ทันที การคราดก็คือการคราดเอาวัชพืชออกจากผืนนา และปรับพื้นที่นาให้ได้ระดับเป็นที่ราบเสมอกัน ด้วยพื้นที่นาที่มีระดับเป็น ที่ราบจะทำให้ต้นข้าวได้รับน้ำเท่าๆกัน และสะดวกต่อการไขน้ำเข้าออก
การปักดำ คือการนำต้นกล้าที่ถอนขึ้นจากแปลงแล้วมัดรวมกันเป็นมัดๆ จะต้องสลัดดินโคลนที่รากออก แล้วนำไปปักดำในพื้นที่นา ที่ได้เตรียมไว้ ถ้าต้นกล้าสูงมากก็ตัดปลายใบทิ้ง พื้นที่นาที่ใช้ปักดำควรมีน้ำขังอยู่ประมาณ 5-10 เซนติเมตร เพราะต้นข้าว อาจถูกลมพัดจนพับลงได้เมื่อนานั้นไม่มีน้ำขังอยู่เลย ถ้าระดับน้ำในนั้นลึกมากต้นข้าวที่ปักดำอาจจมน้ำในระยะแรก และ ข้าวจะต้องยืดต้น มากกว่าปกติ จนผลให้แตกกอน้อย การปักดำที่ได้ผลผลิตสูงจะต้องปักดำให้เป็นแถวเป็นแนว และมีระยะห่างระหว่างกอมากพอสมควร
การหว่านคราดกลบหรือไถกลบ ชาวนาจะทำการไถดะและไถแปร แล้วจึงนำเมล็ดที่ยังไม่ได้เพาะ ให้งอกหว่านลงไปทันทีแล้ว คราด หรือไถเพื่อกลบเมล็ดที่หว่านลงไปอีกครั้งหนึ่ง เนื่องจากดินมี ความชื้นอยู่แล้วเมล็ดจะเริ่ม งอกทันทีหลังจากหว่านลงดิน การ ตั้งตัว ของต้นกล้าจะตั้งตัวดีกว่า การหว่านสำรวย เพราะเมล็ดที่หว่านถูกกลบฝังลึกลงในดิน
การหว่านน้ำตม การหว่านแบบนี้นิยมใช้ในพื้นที่มีน้ำขังประมาณ 3-5 เซนติเมตร และพื้นที่นา เป็นผืนใหญ่ขนาด ประมาณ 1-2 ไร่มีคันนากั้นเป็นแปลงการเตรียมดินทำเหมือนกับการเตรียม ดินสำหรับนาดำ ซึ่งมีการไถดะ ไถแปร และคราดเพื่อเก็บวัชพืชออก จากพื้นนาแล้วจึงทิ้งให้ดิน ตกตะกอนจนเห็นว่าน้ำใส จึงนำเมล็ดพันธุ์ที่เพาะให้งอกแล้วหว่านลงนาและไขน้ำออก เมล็ดจะเจริญเติบโตเป็นต้นข้าวและเจริญเติบโตอย่างข้าวอื่นๆ ตามปกติการหว่านแบบนี้นิยมทำกันใน ท้องที่จังหวัดฉะเชิงเทราที่ทำการปลูกข้าวนาปรัง

ผลลัพธ์ (ไทย) 1:

ดังนี้วิธีการปลูกข้าวหรือการทำนาในประเทศไทยแบ่งออกเป็น 3 วิธีการปลูกข้าวไร่หมายถึงการปลูกข้าวบนที่ดอนไม่มีน้ำขังในพื้นที่ปลูกชนิดของข้าวที่ปลูกเรียกว่า "ข้าวไร่" พื้นที่ดอนส่วนมากเช่นภูเขามักจะไม่มีระดับคือสูงๆต่ำ ๆ จึงไม่สามารถไถเตรียมดินและปรับระดับดินได้ง่าย ๆ เหมือนกับพื้นที่ราบเพราะฉะนั้นชาวนามักปลูกข้าวแบบหยอดโดยขั้นแรกทำการตัดหญ้าและต้นไม้เล็กออกแล้วจึงทำความสะอาดพื้นที่ที่จะปลูกแล้วใช้หลักไม้ปลายแหลมเจาะดินเป็นหลุมปกติจะต้องหยอดพันธุ์ข้าวทันที่หลังจากที่เจาะหลุมและหลังจากหยอดเมล็ดพันธุ์ข้าวแล้วจะใช้เท้ากลบดินปากหลุมเมื่อฝนตกหรือเมื่อเมล็ดได้รับความชื้นจากดินเมล็ดจะงอกและเจริญเติบโตเป็นต้นข้าวเนื่องจากที่ดอนไม่มีน้ำขังและไม่มีการชลประทานการปลูกข้าวไร่จึงต้องใช้น้ำฝนเพียงอย่างเดียวพื้นที่ปลูกข้าวไร่จะแห้งและขาดน้ำทันที่เมื่อสิ้นหน้าฝนดังนั้นการปลูกข้าวไร่จึงต้องใช้พันธุ์ที่มีอายุเบาโดยปลูกในต้นฤดูฝนและแก่เก็บเกี่ยวได้ในปลายฤดูฝนดังนั้นการปลูกข้าวไร่ชาวนาจะต้องหมั่นกำจัดวัชพืชเพราะที่ดอนมักจะมีวัชพืชมากกว่าที่ลุ่มพื้นที่ที่ปลูกข้าวไร่ในประเทศไทยมีจำนวนน้อยและปลูกมากในภาคเหนือและภาคใต้ส่วนภาคตะวันออกเฉียงเหนือและภาคกลางปลูกข้าวไร่น้อยมากการปลูกข้าวนาดำหรือเรียกว่าการปักดำซึ่งวิธีการปลูกแบ่งเป็นสองตอนตอนแรกได้แก่การตกกล้าในแปลขนาดเล็กและตอนที่สองได้แก่การถอนต้นกล้านำไปปักดินในนาผืนที่ใหญ่ดังนั้นการปลูกแบบปักดำอาจเรียกว่าอ้อมปลูกซึ่งต้องเตรียมดินที่ดีกว่าการปลูกข้าวไร่ซึ่งมีการไถดะการไถแปรและการคราดปกติการไถและคราดในนาดำมักจะใช้แรงวัวควายหรือแทรกเตอร์ขนาดเล็กที่เรียกว่าควายเหล็กหรือไถยนต์เดินตามทั้งนี้เป็นเพราะพื้นที่นาดำมีคันนาแบ่งกั้นออกเป็นแปลงเล็ก ๆ ขนาดแปลงละ 1 ไร่หรือเล็กกว่าคันนามีไว้เพื่อกักเก็บน้ำปล่อยน้ำทิ้งจากแปลงนานาดำจึงมีการบังคับน้ำในนาไว้ได้บ้างพอสมควรการไถดะหมายถึงการถครั้งแรกเพื่อทำลายวัชพืชในนาและพลิกกลับหน้าดินแล้วปล่อยทิ้งไว้ประมาณ 1 สัปดาห์จึงทำการไถแปรซึ่งหมายถึงการไถตัดกับรอยไถดะการไถแปรอาจไถมากกว่าหนึ่งครั้งทั้งนี้ขึ้นอยู่กับระดับน้ำในนาตลอดจนถึงชนิดและปริมาณของวัชพืชเมื่อไถแปรแล้วทำการคราดได้ทันทีการคราดก็คือการคราดเอาวัชพืชออกจากผืนนาและปรับพื้นที่นาให้ได้ระดับเป็นที่ราบเสมอกันด้วยพื้นที่นาที่มีระดับเป็นที่ราบจะทำให้ต้นข้าวได้รับน้ำเท่าๆกันและสะดวกต่อการไขน้ำเข้าออกการปักดำคือการนำต้นกล้าที่ถอนขึ้นจากแปลงแล้วมัดรวมกันเป็นมัด ๆ จะต้องสลัดดินโคลนที่รากออกแล้วนำไปปักดำในพื้นที่นาที่ได้เตรียมไว้ถ้าต้นกล้าสูงมากก็ตัดปลายใบทิ้งพื้นที่นาที่ใช้ปักดำควรมีน้ำขังอยู่ประมาณ 5-10 เซนติเมตรเพราะต้นข้าวอาจถูกลมพัดจนพับลงได้เมื่อนานั้นไม่มีน้ำขังอยู่เลยถ้าระดับน้ำในนั้นลึกมากต้นข้าวที่ปักดำอาจจมน้ำในระยะแรกและข้าวจะต้องยืดต้นมากกว่าปกติจนผลให้แตกกอน้อยการปักดำที่ได้ผลผลิตสูงจะต้องปักดำให้เป็นแถวเป็นแนวและมีระยะห่างระหว่างกอมากพอสมควรการหว่านคราดกลบหรือไถกลบชาวนาจะทำการไถดะและไถแปรแล้วจึงนำเมล็ดที่ยังไม่ได้เพาะให้งอกหว่านลงไปทันทีแล้วคราดหรือไถเพื่อกลบเมล็ดที่หว่านลงไปอีกครั้งหนึ่งเนื่องจากดินมีความชื้นอยู่แล้วเมล็ดจะเริ่มงอกทันทีหลังจากหว่านลงดินตามหลักตั้งตัวของต้นกล้าจะตั้งตัวดีกว่าการหว่านสำรวยเพราะเมล็ดที่หว่านถูกกลบฝังลึกลงในดินการหว่านน้ำตมการหว่านแบบนี้นิยมใช้ในพื้นที่มีน้ำขังประมาณ 3-5 เซนติเมตรและพื้นที่นาเป็นผืนใหญ่ขนาดประมาณ 1-2 ไร่มีคันนากั้นเป็นแปลงการเตรียมดินทำเหมือนกับการเตรียมดินสำหรับนาดำซึ่งมีการไถดะไถแปรและคราดเพื่อเก็บวัชพืชออกจากพื้นนาแล้วจึงทิ้งให้ดินตกตะกอนจนเห็นว่าน้ำใสจึงนำเมล็ดพันธุ์ที่เพาะให้งอกแล้วหว่านลงนาและไขน้ำออกเมล็ดจะเจริญเติบโตเป็นต้นข้าวและเจริญเติบโตอย่างข้าวอื่น ๆ ตามปกติการหว่านแบบนี้นิยมทำกันในท้องที่จังหวัดฉะเชิงเทราที่ทำการปลูกข้าวนาปรัง

ผลลัพธ์ (ไทย) 2:

3 วิธีดังนี้
การปลูกข้าวไร่หมายถึง ชนิดของข้าวที่ปลูกเรียกว่า "ข้าวไร่" พื้นที่ดอนส่วนมากเช่นภูเขามักจะไม่มีระดับคือสูง ๆ ต่ำ ๆ จึงไม่สามารถไถเตรียมดินและปรับระดับดินได้ง่ายๆเหมือนกับพื้นที่ราบเพราะฉะนั้นชาวนามักปลูกข้าวแบบหยอด แล้วใช้หลักไม้ปลายแหลมเจาะดินเป็นหลุม และหลังจากหยอดเมล็ดพันธุ์ข้าวแล้วจะใช้เท้ากลบดินปากหลุม เนื่องจากที่ดอนไม่มีน้ำขังและไม่มีการชลประทาน ดังนั้นการ กำจัดวัชพืช มากในภาคเหนือและภาคใต้
หรือเรียกว่าการปักดำซึ่งวิธีการปลูกแบ่งเป็นสองตอน และตอน ดังนั้นการปลูกแบบปักดำอาจเรียกว่าเมล็ดทางอ้อมซึ่งต้องเตรียมดินที่ดีกว่าการปลูกข้าวไร่ซึ่งมีการไถดะการไถแปรและการคราด หรือแทรกเตอร์ขนาดเล็กที่เรียกว่าควายเหล็กหรือไถยนต์เดินตาม ขนาดแปลงละ 1 ไร่หรือเล็กกว่าคันนามีไว้เพื่อกักเก็บน้ำปล่อยน้ำทิ้งจากแปลงนา
หมายถึง แล้วปล่อยทิ้งไว้ประมาณ 1 สัปดาห์ การไถแปรอาจไถมากกว่าหนึ่งครั้ง เมื่อไถแปรแล้วทำการคราดได้ทันที ด้วยพื้นที่นาที่มีระดับเป็น
จะต้องสลัดดินโคลนที่รากออกแล้วนำไปปักดำในพื้นที่นาที่ได้เตรียมไว้ถ้าต้นกล้าสูงมากก็ตัดปลายใบทิ้ง 5-10 เซนติเมตรเพราะต้นข้าว และข้าวจะต้องยืดต้นมากกว่าปกติจนผลให้แตกกอน้อย
ชาวนาจะทำการไถดะและไถแปรแล้วจึงนำเมล็ดที่ยังไม่ได้เพาะให้งอกหว่านลงไปทันทีแล้วคราด เนื่องจากดินมีความชื้นอยู่แล้วเมล็ดจะเริ่มงอกทันทีหลังจากหว่านลงดินการตั้งตัวของต้นกล้าจะตั้งตัวดีกว่าการหว่านสำรวย
3-5 เซนติเมตรและพื้นที่นาเป็นผืนใหญ่ขนาดประมาณ 1-2 ดินสำหรับนาดำซึ่งมีการไถดะไถแปรและคราดเพื่อเก็บวัชพืชออกจากพื้นนาแล้วจึงทิ้งให้ดินตกตะกอนจนเห็นว่าน้ำใส ตามปกติการหว่านแบบนี้นิยมทำกันใน

ผลลัพธ์ (ไทย) 3:

วิธีการปลูกข้าวหรือการทำนาในประเทศไทยแบ่งออกเป็นวิธีดังนี้
3การปลูกข้าวไร่หมายถึงการปลูกข้าวบนที่ดอนไม่มีน้ำขังในพื้นที่ปลูกชนิดของข้าวที่ปลูกเรียกว่า " ข้าวไร่ " พื้นที่ดอนส่วนมากเช่นภูเขามักจะไม่มีระดับความสูงๆต่ำๆจึงไม่สามารถไถเตรียมดินเหมือนกับพื้นที่ราบเพราะฉะนั้นชาวนามักปลูกข้าวแบบหยอดโดยขั้นแรกทำการตัดหญ้าและต้นไม้เล็กออกแล้วจึงทำความสะอาดพื้นที่ที่จะปลูกแล้วใช้หลักไม้ปลายแหลมเจาะดินเป็นหลุมและหลังจากหยอดเมล็ดพันธุ์ข้าวแล้วจะใช้เท้ากลบดินปากหลุมเมื่อฝนตกหรือเมื่อเมล็ดได้รับความชื้นจากดินเมล็ดจะงอกและเจริญเติบโตเป็นต้นข้าวเนื่องจากที่ดอนไม่มีน้ำขังและไม่มีการชลประทานพื้นที่ปลูกข้าวไร่จะแห้งและขาดน้ำทันที่เมื่อสิ้นหน้าฝนดังนั้นการปลูกข้าวไร่จึงต้องใช้พันธุ์ที่มีอายุเบาโดยปลูกในต้นฤดูฝนและแก่เก็บเกี่ยวได้ในปลายฤดูฝนดังนั้นการปลูกข้าวไร่ชาวนาจะต้องหมั่นกำจัดเพราะที่ดอนมักจะมีวัชพืชมากกว่าที่ลุ่มพื้นที่ที่ปลูกข้าวไร่ในประเทศไทยมีจำนวนน้อยและปลูกมากในภาคเหนือและภาคใต้ส่วนภาคตะวันออกเฉียงเหนือและภาคกลางปลูกข้าวไร่น้อยมาก
การปลูกข้าวนาดำหรือเรียกว่าการปักดำซึ่งวิธีการปลูกแบ่งเป็นสองตอนตอนแรกได้แก่การตกกล้าในแปลขนาดเล็กและตอนที่สองได้แก่การถอนต้นกล้านำไปปักดินในนาผืนที่ใหญ่ดังนั้นเมล็ดการปลูกแบบปักดำอาจเรียกว่าทางอ้อมดินที่ดีกว่าการปลูกข้าวไร่ซึ่งมีการไถดะการไถแปรและการคราดปกติการไถและคราดในนาดำมักจะใช้แรงวัวควายหรือแทรกเตอร์ขนาดเล็กที่เรียกว่าควายเหล็กหรือไถยนต์เดินตามขนาดแปลงละ 1 ไร่หรือเล็กกว่าคันนามีไว้เพื่อกักเก็บน้ำปล่อยน้ำทิ้งจากแปลงนานาดำจึงมีการบังคับน้ำในนาไว้ได้บ้างพอสมควร
การไถดะหมายถึงการถครั้งแรกเพื่อทำลายวัชพืชในนาและพลิกกลับหน้าดินแล้วปล่อยทิ้งไว้ประมาณ 1 สัปดาห์จึงทำการไถแปรซึ่งหมายถึงการไถตัดกับรอยไถดะการไถแปรอาจไถมากกว่าหนึ่งครั้งเมื่อไถแปรแล้วทำการคราดได้ทันทีการคราดก็คือการคราดเอาวัชพืชออกจากผืนนาและปรับพื้นที่นาให้ได้ระดับเป็นที่ราบเสมอกันด้วยพื้นที่นาที่มีระดับเป็นที่ราบจะทำให้ต้นข้าวได้รับน้ำเท่าๆกันการปักดำคือการนำต้นกล้าที่ถอนขึ้นจากแปลงแล้วมัดรวมกันเป็นมัดๆจะต้องสลัดดินโคลนที่รากออกแล้วนำไปปักดำในพื้นที่นาที่ได้เตรียมไว้ถ้าต้นกล้าสูงมากก็ตัดปลายใบทิ้ง5-10 เซนติเมตรเพราะต้นข้าวอาจถูกลมพัดจนพับลงได้เมื่อนานั้นไม่มีน้ำขังอยู่เลยถ้าระดับน้ำในนั้นลึกมากต้นข้าวที่ปักดำอาจจมน้ำในระยะแรกและข้าวจะต้องยืดต้นมากกว่าปกติจนผลให้แตกกอน้อยและมีระยะห่างระหว่างกอมากพอสมควร
การหว่านคราดกลบหรือไถกลบชาวนาจะทำการไถดะและไถแปรแล้วจึงนำเมล็ดที่ยังไม่ได้เพาะให้งอกหว่านลงไปทันทีแล้วคราดหรือไถเพื่อกลบเมล็ดที่หว่านลงไปอีกครั้งหนึ่งเนื่องจากดินมีความชื้นอยู่แล้วเมล็ดจะเริ่มการตั้งตัวของต้นกล้าจะตั้งตัวดีกว่าการหว่านสำรวยเพราะเมล็ดที่หว่านถูกกลบฝังลึกลงในดิน