In the heart of Bangkok Then in the

In the heart of Bangkok Then in the swing It is considered that the swing was "umbilicus town" or the center of the capital. Which was set up since the early Rattanakosin period to the present. Navel or swing set since King Rama the Great skyline. Or the first days after he graciously. To expand to the east of the capital. Originally from the West Coast or in the days of King Thonburi. And the canals around the city. He has set up a center of the capital city, or navel. He graciously As the site of the shrine and the church in Brahmanism. The Giant Swing with "Giant Swing" has become a symbol of outstanding Bangkok. Today The giant swing is a large red wooden poles. Located on a large stone with a height of 21.15 meters, the base is the circular dials with white-washed stone. Along the arc of the swing plate Epitaph Records. Wooden center pole pair and a pair of chopsticks, two poles, ornamental knob. All made of wood turning round. The frame pole pair beautifully carved. Hu wood decorative grille and Thailand. All painted Vermillion Using an architecture built to perform in Swing Rite "Triiampwai Tripwai" of Brahmanism - Hindu times past. Swing to see it today is the new pillar. It has held the Bhopal availability of new Giant Swing on 11-13 September 2550 by a teak wood from Phrae swing has become a major historical sights of Bangkok. Which is known among both Thailand and overseas widespread. And in the vicinity of the Giant Swing. Including in metropolitan majority. The architecture is still in the early days of the visitors as well.

ผลลัพธ์ (ไทย) 1:

ในหัวใจของกรุงเทพฯ แล้วแกว่ง มันจะถือว่าแกว่ง "umbilicus เมือง" หรือศูนย์กลางของเมืองหลวง ซึ่งถูกกำหนดขึ้นตั้งแต่ต้นกรุงรัตนโกสินทร์จนถึงปัจจุบัน สะดือหรือสวิงที่ตั้งตั้งแต่สมเด็จพระพุทธยอดฟ้า วันแรกหลังจากเขาหรือพระบรมราช ขยายไปทางทิศตะวันออกของเมืองหลวง มีพื้นเพมา จากฝั่งตะวันตก หรือวันของคิงธนบุรี และลำคลองรอบเมือง เขาได้ตั้งศูนย์กลางของเมืองหลวง หรือสะดือ เขาพระบรมราชเป็นตั้งของศาลเจ้าและโบสถ์ในศาสนาพราหมณ์ ชิงช้า มี "เสาชิงช้า" ได้กลายเป็น สัญลักษณ์ของกรุงเทพฯ ที่โดดเด่น วันนี้ชิงช้าเป็นไม้เสาสีแดงขนาดใหญ่ ตั้งอยู่บนหินขนาดใหญ่มีความสูง 21.15 เมตร ฐานเป็นแป้นหมุนวงกลม ด้วยหินล้างสีขาว ตามแนวโค้งของแกว่งจาน Epitaph ระเบียน ศูนย์ไม้เสาคู่และคู่ของลูกบิดประดับ ตะเกียบ สองเสา ทั้งหมดนี้ทำจากไม้กลึงกลม โครงเสาคู่แกะสลักอย่างสวยงาม หูไม้ตะแกรงตกแต่งและประเทศไทย ทั้งหมดทาสี Vermillion ใช้สถาปัตยกรรมที่สร้างการดำเนินการในพิธีสวิง "ตรียัมปวายตรีปวาย" ของศาสนาพราหมณ์ - ฮินดูครั้งที่ผ่านมา สวิงไปดูวันนี้เป็นเสาใหม่ มีจัดพอลพร้อมชิงช้าใหม่บน 11-13 2550 กันยายนโดยเป็นไม้สักจากแพร่สวิงกลายเป็น ศาสตร์สำคัญของกรุงเทพมหานคร ซึ่งเป็นที่รู้จัก ในทั้งไทย และต่างประเทศอย่างกว้างขวาง และใกล้ยักษ์แกว่ง รวมทั้งในมหานครใหญ่ สถาปัตยกรรมเป็นในวันแรก ๆ ของนักท่องเที่ยวเป็นอย่างดี

ผลลัพธ์ (ไทย) 2:

ในใจกลางกรุงเทพฯแล้วในการแกว่งจะพิจารณาว่าการแกว่งเป็น "เมืองสะดือ" หรือศูนย์กลางของเมืองหลวง ซึ่งตั้งขึ้นมาตั้งแต่สมัยรัตนโกสินทร์ตอนต้นจนถึงปัจจุบัน สะดือหรือชุดแกว่งตั้งแต่รัชกาลที่ฟ้าจุฬาโลกมหาราช หรือวันแรกหลังจากที่เขาพระกรุณาโปรดเกล้าฯ ที่จะขยายไปทางทิศตะวันออกของเมืองหลวง แต่เดิมจากฝั่งตะวันตกหรือในสมัยของกษัตริย์ธนบุรี และคลองรอบเมือง เขาได้มีการจัดตั้งศูนย์ของเมืองหลวงหรือสะดือ เขาพระกรุณาโปรดเกล้าฯเป็นที่ตั้งของศาลและคริสตจักรในศาสนาพราหมณ์ที่ เสาชิงช้าด้วย "เสาชิงช้า" ได้กลายเป็นสัญลักษณ์ของความโดดเด่นของกรุงเทพฯ วันนี้แกว่งยักษ์ที่มีขนาดใหญ่ไม้สีแดง ตั้งอยู่บนก้อนหินขนาดใหญ่ที่มีความสูง 21.15 เมตรฐานเป็นวงกลมหมุนด้วยหินสีขาวที่ล้างสะอาด พร้อมโค้งของแผ่นแกว่งจารึกประวัติ ไม้คู่ศูนย์เสาและคู่ของตะเกียบสองเสาลูกบิดไม้ประดับ ทั้งหมดที่ทำจากไม้กลมกลึง คู่เสากรอบแกะสลักอย่างสวยงาม หูไม้ลูกกรงตกแต่งและไทย ทั้งหมด Vermillion ทาสีใช้สถาปัตยกรรมที่สร้างขึ้นเพื่อดำเนินการในพระราชพิธีสวิง "Triiampwai Tripwai" ของศาสนาพราหมณ์ - ฮินดูครั้งที่ผ่านมา สวิงที่จะเห็นมันในวันนี้คือเสาใหม่ จะได้จัดให้มีความพร้อมใช้งานของโภปาลเสาชิงช้าใหม่ในวันที่ 11-13 กันยายน 2550 โดยไม้สักจากแพร่แกว่งได้กลายเป็นสถานที่ท่องเที่ยวทางประวัติศาสตร์ที่สำคัญของกรุงเทพฯ ซึ่งเป็นที่รู้จักทั้งในหมู่ชาวไทยและต่างประเทศอย่างกว้างขวาง และในบริเวณใกล้เคียงของชิงช้ายักษ์ รวมทั้งในกรุงเทพมหานครและปริมณฑลส่วนใหญ่ สถาปัตยกรรมยังคงอยู่ในวันแรกของผู้เข้าชมได้เป็นอย่างดี