12superiority, and his supremacy fo

12superiority, and his supremacy forced women to endure bodily abuse. The oppressor expresses his domination and power by means of sexual behavior (Wood, 2004).It is believed that the concept of patriarchy is the main problem of oppression (Eisler, 1988 cited in Romney, Tatum & Jones, 1992) Romney, Tatum, and Jones believe that the phenomenon of oppression brings about mental problems since people who are oppressed are affected by fear, uncertainty, and ignorance. It can be summarized that oppression can be related to women problem, and it comes from male domination that can be understood as the concept of patriarchy that includes all forms of sexual behaviour.Oppression can be understood as unequal relation of power between men and women. Men can exercise his power over women is the general understanding held by men many of whom use it to maintain his superiority (Shields & Milne, 1975 cited in Holmes, 2000). However, it is believed that women are related to men, and this intimacy cause uncertainty in many women to identify men as their oppressors (Kedgley, 1971 cited in Holems, 2000). The difference between men and women is their power, for men believe in living with power while women are conceived as the powerless. Men are identified as oppressors, but this identification is difficult for some women to identify as there is the relational fact.Although women are not recognized as a person who has power, they are not born to submission. According to the fact that men/women relations are politically determined, feminist contest that they are false ideas. Rather feminists are interested in men/women relations as natural, and they call for equality between men and women (Mouffe, 1992 & Pateman, 1989 cited in Holmes, 20

ผลลัพธ์ (ไทย) 1:

12superiority และเขามไหศวรรย์บังคับผู้หญิงทนการละเมิดทางร่างกาย Oppressor การแสดงของเขาปกครองและพลังงานโดยใช้พฤติกรรมทางเพศ (ไม้ 2004) เชื่อกันว่า แนวคิดของ patriarchy เป็นปัญหาหลักของอธิปไตย (เอสเลอร์ 1988 อ้างใน Romney แมน & Jones, 1992) Romney แมน และโจนส์เชื่อว่า ปรากฏการณ์ของการกดขี่นำเกี่ยวกับปัญหาทางจิตตั้งแต่คนที่อ่อนแอจะได้รับผลจากความกลัว ความไม่แน่นอน และความไม่รู้ มันสามารถสรุปได้ว่า อธิปไตยสามารถเกี่ยวข้องกับปัญหาผู้หญิง และมันมาจากปกครองชายที่สามารถเข้าใจเป็นแนวคิดของ patriarchy ที่มีพฤติกรรมทางเพศในทุกรูปแบบ กดขี่สามารถเข้าใจได้เป็นความสัมพันธ์ที่ไม่เท่ากันของพลังงานระหว่างชายและหญิง ผู้ชายสามารถออกกำลังกายของเขามากกว่าผู้หญิงเป็นความเข้าใจทั่วไปที่จัด โดยคนจำนวนมากที่ใช้ในการรักษาที่เหนือกว่าของเขา (โล่และ Milne, 1975 อ้างในโฮล์มส์ 2000) อย่างไรก็ตาม ก็เชื่อว่า ผู้หญิงเกี่ยวข้องกับผู้ชาย และสนิทสนมนี้ทำให้เกิดความไม่แน่นอนในผู้หญิงหลายคนระบุผู้ชายเป็นของเประเทศ (Kedgley, 1971 อ้างถึงใน Holems, 2000) ความแตกต่างระหว่างชายและหญิงคือ อำนาจ สำหรับคนเชื่อในชีวิตมีอำนาจในขณะที่ผู้หญิงจะรู้สึกเป็นการไม่มีอำนาจ ผู้ชายจะถูกระบุเป็นเประ แต่รหัสนี้เป็นเรื่องยากสำหรับผู้หญิงบางคนระบุมีข้อเท็จจริงที่เกี่ยวข้อง แม้ว่าผู้หญิงไม่รู้จักเป็นคนที่มีอำนาจ พวกเขาจะไม่เกิดผลงาน ตามความจริงที่ว่า ความสัมพันธ์ชาย/หญิงมีแข่งขันมุ่งมั่นทางการเมือง สตรีที่มีความคิด ค่อนข้าง มีความสนใจในความสัมพันธ์ของผู้ชาย/ผู้หญิงเป็นธรรมชาติ feminists และพวกเขาเรียกร้องความเท่าเทียมกันระหว่างชายและหญิง (Mouffe, 1992 และ Pateman, 1989 อ้างในโฮล์มส์ 20

ผลลัพธ์ (ไทย) 2:

12superiority และอำนาจสูงสุดของเขาบังคับให้ผู้หญิงที่จะทนการล่วงละเมิดทางร่างกาย บีบบังคับเป็นการแสดงออกถึงการปกครองและอำนาจของเขาโดยวิธีการของพฤติกรรมทางเพศ (ไม้, 2004) มันเป็นที่เชื่อกันว่าแนวคิดของยูโรเปียนเป็นปัญหาหลักของการกดขี่ (Eisler 1988 อ้างถึงในรอมนีย์ทาทั่มและโจนส์ 1992) รอมนีย์ทาทั่ม และโจนส์เชื่อว่าปรากฏการณ์ของการกดขี่นำเกี่ยวกับปัญหาทางจิตเนื่องจากคนที่กำลังถูกกดขี่รับผลกระทบจากความกลัวความไม่แน่นอนและความโง่เขลา มันสามารถสรุปได้ว่าการกดขี่สามารถที่เกี่ยวข้องกับปัญหาผู้หญิงและมันมาจากการปกครองของชายที่สามารถเข้าใจได้เป็นแนวคิดของยูโรเปียนที่มีทุกรูปแบบของ behaviour.Oppression ใดที่สามารถเข้าใจได้เป็นความสัมพันธ์ที่ไม่เท่าเทียมกันของอำนาจระหว่างชายและหญิง ผู้ชายสามารถใช้อำนาจของเขามากกว่าผู้หญิงคือความเข้าใจทั่วไปที่จัดขึ้นโดยคนหลายคนใช้มันในการรักษาความเหนือกว่าของเขา (มิลโล่และ 1975 อ้างถึงในโฮล์มส์, 2000) แต่ก็เป็นที่เชื่อกันว่าผู้หญิงที่มีความสัมพันธ์กับผู้ชายและความไม่แน่นอนทำให้เกิดความใกล้ชิดในผู้หญิงจำนวนมากที่จะระบุเป็นผู้ชายกดขี่ของพวกเขา (Kedgley 1971 อ้างถึงใน Holems, 2000) ความแตกต่างระหว่างผู้ชายและผู้หญิงเป็นอำนาจของพวกเขาสำหรับผู้ชายเชื่อในการดำรงชีวิตที่มีอำนาจในขณะที่ผู้หญิงจะรู้สึกเป็นไม่มีอำนาจ ผู้ชายที่ระบุว่าเป็นคนนอก แต่บัตรประจำตัวนี้เป็นเรื่องยากสำหรับผู้หญิงบางคนที่จะระบุว่ามีผู้หญิง fact.Although สัมพันธ์จะไม่ได้รับการยอมรับว่าเป็นผู้ที่มีอำนาจที่พวกเขาจะไม่ได้เกิดมาเพื่อส่ง ตามความจริงที่ว่าชาย / หญิงความสัมพันธ์ที่มีความมุ่งมั่นทางการเมืองการประกวดสตรีว่าพวกเขามีความคิดที่ผิดพลาด แต่สตรีมีความสนใจในชาย / หญิงความสัมพันธ์ที่เป็นธรรมชาติและที่พวกเขาเรียกเพื่อความเท่าเทียมกันระหว่างชายและหญิง (Mouffe 1992 และ Pateman 1989 อ้างถึงในโฮล์มส์ 20