Etzioni's main communitarian thesis

Etzioni's main communitarian thesis is that individual rights and aspirations should be protected but they should be inserted into a sense of the community, hence the name of the movement he created, Communitarianism. He argues that communitarian thinking developed in reaction to the "me-first" attitude of the 1980s. He has urged the movement to attempt to establish common ground between liberals and conservatives, thus bridging that division. In his book Radical Middle, author Mark Satin identifies Etzioni as a radical centrist communitarian.[3]

In Etzioni's view, the communitarian movement works to strengthen the ability of all aspects of the community including the families and schools in order to introduce more positive values. In addition, it aims to get people involved in positive ways in all levels of the community and ensure that society progresses in an orderly fashion. These works which have occurred between 1990 and the present have given Etzioni his greatest successes and satisfactions in the public realm.[2] He also articulated an early reason-based critique of the space race (in the book The Moon-Doggle) in which he points out that unmanned space exploration yields a vastly higher scientific result-per-expenditure than a manned space program. Amitai Etzioni also coined the word McJob in an article for the Washington Post in 1986.[4]

ผลลัพธ์ (ไทย) 1:

วิทยานิพนธ์ของ Etzioni communitarian หลักอยู่ว่า ควรป้องกันแต่ละสิทธิและความปรารถนา แต่ควรแทรกเข้าไปในความรู้สึกของชุมชน ดังนั้นชื่อของการเคลื่อนไหวเขาสร้าง Communitarianism เขาจนว่า communitarian คิดพัฒนาในปฏิกิริยาเพื่อทัศนคติ "ฉันครั้งแรก" ของไฟต์ เขาได้เรียกร้องให้จะพยายามสร้างจุดร่วมระหว่างแห่งและอนุรักษ์ การเชื่อมโยงดังนั้น ส่วนที่ ในหนังสือของเขารุนแรงกลาง ผู้เขียนผ้าซาตินหมายระบุ Etzioni เป็น communitarian กลุ่มรุนแรง[3]ในมุมมองของ Etzioni, communitarian ขบวนการทำงานเพื่อเสริมสร้างความสามารถของทุกด้านของชุมชนรวมทั้งครอบครัวและโรงเรียนเพื่อแนะนำค่าบวกมากขึ้น นอกจากนี้ มุ่งหวังที่จะรับคนในทางบวกในระดับชุมชน และให้แน่ใจว่า สังคมคืบในการเป็นระเบียบ ผลงานที่เกิดขึ้นระหว่างปี 1990 และปัจจุบันให้ Etzioni สำเร็จและประทับใจมากที่สุดของเขาในขอบเขตที่สาธารณะนั้น[2] เขายังพูดชัดแจ้งเป็นเสมือนสูงวิทยาศาสตร์ผลต่อรายจ่ายมากกว่าโปรแกรม manned พื้นที่ทำให้เป็นช่วงตามเหตุผลวิจารณ์การแข่งขันพื้นที่ (ในหนังสือเดอะมูน-Doggle) ซึ่งเขาชี้ให้เห็นว่าการสำรวจอวกาศไม่ Amitai Etzioni จังหวะคำ McJob ในบทความยังสำหรับการโพสต์วอชิงตันในปี 1986[4]

ผลลัพธ์ (ไทย) 2:

วิทยานิพนธ์ communitarian Etzioni หลักคือสิทธิส่วนบุคคลและแรงบันดาลใจควรจะป้องกัน แต่พวกเขาควรจะใส่เข้าไปในความรู้สึกของชุมชนดังนั้นชื่อของการเคลื่อนไหวเขาสร้าง, Communitarianism เขาระบุว่าคิด communitarian การพัฒนาในการตอบสนองต่อ "ฉันครั้งแรก" ทัศนคติของปี 1980 เขาได้เรียกร้องให้เคลื่อนไหวเพื่อพยายามที่จะสร้างพื้นดินทั่วไประหว่างเสรีนิยมและอนุรักษ์นิยมจึงแก้ส่วนที่ ในหนังสือของเขาหัวรุนแรงกลางผู้เขียนมาร์คซาตินระบุ Etzioni เป็น communitarian centrist รุนแรง. [3] ในมุมมองของ Etzioni ของการเคลื่อนไหว communitarian ทำงานเพื่อเสริมสร้างความสามารถทุกด้านของชุมชนรวมทั้งครอบครัวและโรงเรียนเพื่อนำค่าบวกมากขึ้น . นอกจากนี้ยังมีจุดมุ่งหมายที่จะได้รับคนที่เกี่ยวข้องในรูปแบบในเชิงบวกในทุกระดับของชุมชนและสังคมให้แน่ใจว่าความคืบหน้าในแฟชั่นระเบียบ ผลงานเหล่านี้ซึ่งเกิดขึ้นระหว่างปี 1990 และปัจจุบันได้ให้ความสำเร็จที่ยิ่งใหญ่ที่สุด Etzioni ของเขาและความพึงพอใจของประชาชนในดินแดน. [2] นอกจากนี้เขายังก้องวิจารณ์เหตุผลที่ใช้ในช่วงต้นของการแข่งขันช่องว่าง (ในหนังสือเล่มนี้ดวงจันทร์ Doggle) ซึ่ง เขาชี้ให้เห็นว่าการสำรวจอวกาศกำลังใจทำให้ผลต่อค่าใช้จ่ายอย่างมากมายทางวิทยาศาสตร์สูงกว่าโครงการอวกาศบรรจุ Amitai Etzioni ยังประกาศเกียรติคุณ McJob คำในบทความวอชิงตันโพสต์ในปี 1986 [4]

ผลลัพธ์ (ไทย) 3:

กลยุทธ์หลักของวิทยานิพนธ์ที่ล่วงมาแล้วสิทธิส่วนบุคคลและปรารถนาจะได้รับการคุ้มครอง แต่พวกเขาควรจะแทรกลงในความรู้สึกของชุมชน ดังนั้นชื่อของการเคลื่อนไหวที่เขาสร้างขึ้น communitarianism . เขาแย้งว่า กลวิธีการคิดพัฒนาในการรับมือกับ " ฉัน " ทัศนคติของปี 1980เขาได้กระตุ้นให้เคลื่อนไหว เพื่อพยายามที่จะสร้างข้อตกลงร่วมกันระหว่างเสรีนิยมอนุรักษ์นิยมและดังนั้นการเชื่อมโยงที่ดิวิชั่น กลางหนังสือหัวรุนแรงของเขา ผู้เขียนมาร์คซาตินระบุล่วงมาแล้วเป็นอนุมูลอิสระเป็นกลางกลยุทธ์ [ 3 ]

ในล่วงมาแล้วของมุมมองส่วนกลยุทธ์การเคลื่อนไหวทำงานเพื่อเสริมสร้างความสามารถของทุกด้านของชุมชน รวมถึงครอบครัว และโรงเรียน เพื่อแนะนำค่าเป็นบวกมากขึ้น โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อให้ผู้ที่เกี่ยวข้องไปในทางที่ดีขึ้นในทุกระดับของชุมชนและให้สังคมดำเนินไปอย่างเป็นระเบียบผลงานเหล่านี้ ซึ่งเกิดขึ้นระหว่างปี 1990 และในปัจจุบันได้รับความสำเร็จและความพึงพอใจล่วงมาแล้วของเขามากที่สุดในขอบเขตสาธารณะ [ 2 ] นอกจากนี้เขายังก้องเหตุผลแรกตามคำติชมของพื้นที่การแข่งขัน ( ในหนังสือดวงจันทร์ doggle ) ซึ่งเขาชี้ให้เห็นว่าการสำรวจอวกาศไร้คนขับ ผลต่อผลผลิตเป็นอย่างมากสูงกว่ารายจ่ายมากกว่าวิทยาศาสตร์ เป็นคนพื้นที่ โปรแกรมมิไต เ ซิโอนิยัง coined คำของในบทความสำหรับวอชิงตันโพสต์ใน 1986 . [ 5 ]