so that we have a referencepoint as

so that we have a reference
point as to how far our real (i.e., nonideal) reactor is off the norm from an
ideal reactor. The functions E(t) and F(t) will be developed for ideal PPRs,
CSTRs and laminar flow reactors. Examples are given for diagnosing prob-
lems with real reactors by comparing tm and E(t) with ideal reactors. We
will then use these ideal curves to help diagnose and troubleshoot bypassing
and dead volume in real reactors.

ผลลัพธ์ (ไทย) 1:

เพื่อให้เรามีการอ้างอิงจุดไปไกลจริงของเรา (เช่น nonideal) เป็นเครื่องปฏิกรณ์ออกปกติจากการเครื่องปฏิกรณ์ที่เหมาะ จะพัฒนาฟังก์ชัน E(t) และ F(t) สำหรับ PPRs เหมาะCSTRs และเตาปฏิกรณ์ไหล laminar ตัวอย่างจะได้รับการวินิจฉัย prob-lems กับเตาปฏิกรณ์จริงโดยเปรียบเทียบ tm และ E(t) กับเตาปฏิกรณ์ที่เหมาะ เราจากนั้นจะใช้เส้นโค้งเหล่านี้เหมาะเพื่อช่วยวินิจฉัย และแก้ไขปัญหาการเลี่ยงและเสียงตายในเตาปฏิกรณ์ที่แท้จริง

ผลลัพธ์ (ไทย) 2:

เพื่อให้เรามีการอ้างอิง
จุดเป็นไปได้ไกลจริงของเรา (เช่น nonideal) เครื่องปฏิกรณ์จะปิดบรรทัดฐานจาก
เครื่องปฏิกรณ์ที่เหมาะ ฟังก์ชั่น E (t) และ f (t) จะได้รับการพัฒนาสำหรับ PPRs เหมาะ
CSTRs และเครื่องปฏิกรณ์ไหล ตัวอย่างจะได้รับการวินิจฉัยกำหนดปัญหาที่
LEMS กับเครื่องปฏิกรณ์จริงโดยการเปรียบเทียบ TM และ E (t) กับปฏิกรณ์แบบอุดมคติ เรา
จะใช้เส้นโค้งที่เหมาะเหล่านี้เพื่อช่วยในการวินิจฉัยและแก้ไขปัญหาอ้อม
และปริมาณที่ตายแล้วในเครื่องปฏิกรณ์จริง

ผลลัพธ์ (ไทย) 3:

เพื่อที่เราจะได้มีการอ้างอิง
จุดเป็นวิธีการที่ห่างไกลของเราจริง ( เช่น nonideal ) เครื่องปฏิกรณ์มีบรรทัดฐานจาก
เครื่องปฏิกรณ์แบบอุดมคติ ฟังก์ชัน e ( t ) f ( t ) จะพัฒนาให้เหมาะกับ pprs
, และเครื่องปฏิกรณ์ไหลแบบราบเรียบ . ตัวอย่างมีให้สำหรับการวินิจฉัยปัญหา -
lems จริงโดยเปรียบเทียบกับเครื่องปฏิกรณ์ TM และ E ( t ) กับเครื่องปฏิกรณ์ในอุดมคติ เรา
แล้วจะใช้เส้นโค้งในอุดมคติเหล่านี้เพื่อช่วยวินิจฉัยและแก้ไขปัญหาผ่าน
และตายในหมวดเครื่องปฏิกรณ์นิวเคลียร์จริง