Conclusion and implicationsSection:

Conclusion and implications
Section:Previous sectionNext section
This research illustrates the importance of both formal and informal curricula in the development of students’ cognitive, affective and conative energy literacy. Although differences in energy literacy between disciplines were identified, knowledge about energy was certainly not limited to specific subjects, suggesting that scope exists for the further development of energy literacy within aspects of the formal curriculum. In addition, the informal and campus curriculum (including extra-curricular activities and social learning) emerged as important influences on students’ attitudes and behaviours. Taken together, these findings offer indicators for how HE institutions might enhance the energy literacy of their students, while the 4E model provides a useful framework for identifying and structuring future developments. Also important in this context are the potential lessons to be gained from studying an institution which has gone some way towards embedding sustainability across its curriculum and campus activities. Although the evidence from the study suggests that the value of the case study lies equally in understanding failures and successes, the sharing of experiences in this way may provide lessons for universities at different stages in the broader effort to integrate sustainability concerns into HE.

ผลลัพธ์ (ไทย) 1:

บทสรุปและผลกระทบส่วน: ส่วนของ sectionNext ก่อนหน้านี้งานวิจัยนี้แสดงให้เห็นถึงความสำคัญของหลักสูตรอย่างเป็นทางการ และไม่เป็นทางการในการพัฒนานักเรียนสามารถรับรู้ ผล และ conative พลังงาน แม้ว่าจะระบุความแตกต่างในการวัดพลังงานระหว่างสาขา ความรู้เกี่ยวกับพลังงานได้แน่นอนไม่จำกัดเฉพาะเรื่อง การแนะนำว่า มีขอบเขตสำหรับการพัฒนาวัดพลังงานภายในของหลักสูตรอย่างเป็นทางการ นอกจากนี้ หลักสูตรเป็นทางการและมหาวิทยาลัย (รวมทั้งกิจกรรมเสริมหลักสูตรและการเรียนรู้ทางสังคม) เกิดเป็นสำคัญที่มีอิทธิพลต่อทัศนคติและพฤติกรรมของนักเรียน ปวง ค้นพบเหล่านี้มีตัวบ่งชี้สำหรับวิธีสถาบันเขาอาจเพิ่มวัดพลังงานของนักศึกษา ในขณะรุ่น 4e-fe กลไกกรอบมีประโยชน์สำหรับการกำหนด และจัดโครงสร้างการพัฒนาในอนาคต ยัง สำคัญในบริบทนี้เป็นบทเรียนอาจจะได้รับจากสถาบันที่ได้ไปบางวิธีไปฝังความยั่งยืนผ่านกิจกรรมของมหาวิทยาลัยและหลักสูตร การศึกษา แม้ว่าหลักฐานจากการศึกษาชี้ให้เห็นว่า ค่าของกรณีศึกษาอยู่เท่า ๆ กันในการทำความเข้าใจเกี่ยวกับความล้มเหลวและความสำเร็จ ร่วมประสบการณ์ในลักษณะนี้อาจมีบทเรียนในมหาวิทยาลัยในระยะต่าง ๆ กว้างขึ้นพยายามบูรณาการพัฒนาอย่างยั่งยืนเป็นเขา

ผลลัพธ์ (ไทย) 2:

สรุปและผลกระทบส่วน: ส่วนส่วนก่อนหน้าถัดวิจัยนี้แสดงให้เห็นถึงความสำคัญของหลักสูตรทั้งที่เป็นทางการและไม่เป็นทางการในการพัฒนานักเรียนองค์ความรู้พลังงานอารมณ์และconative แม้ว่าความแตกต่างในความรู้พลังงานระหว่างสาขาวิชาที่มีการระบุความรู้เกี่ยวกับพลังงานได้อย่างแน่นอนไม่ จำกัด วิชาเฉพาะบอกว่าขอบเขตที่มีอยู่สำหรับการพัฒนาต่อไปของความรู้ด้านพลังงานภายในของหลักสูตรอย่างเป็นทางการ นอกจากนี้หลักสูตรทางการและมหาวิทยาลัย (รวมถึงกิจกรรมนอกหลักสูตรและการเรียนรู้ทางสังคม) โผล่ออกมามีอิทธิพลที่สำคัญเป็นนักเรียนเกี่ยวกับทัศนคติและพฤติกรรม ที่ร่วมกันค้นพบเหล่านี้นำเสนอตัวชี้วัดสำหรับวิธีการที่สถาบันเขาอาจจะเสริมสร้างความรู้ด้านพลังงานของนักเรียนของพวกเขาในขณะที่รูปแบบการ 4E ให้กรอบที่มีประโยชน์สำหรับการระบุและการจัดโครงสร้างการพัฒนาในอนาคต ที่สำคัญยังในบริบทนี้จะเป็นบทเรียนที่มีศักยภาพที่จะได้รับจากการศึกษาสถาบันการศึกษาที่ได้ไปทางใดทางหนึ่งที่มีต่อการพัฒนาอย่างยั่งยืนทั่วฝังหลักสูตรและกิจกรรมของมหาวิทยาลัยของมัน แม้ว่าหลักฐานจากการศึกษาแสดงให้เห็นว่าค่าของกรณีศึกษาอยู่อย่างเท่าเทียมกันในความล้มเหลวของการทำความเข้าใจและประสบความสำเร็จร่วมกันของประสบการณ์ในลักษณะนี้อาจจะให้บทเรียนสำหรับมหาวิทยาลัยในแต่ละขั้นตอนที่แตกต่างกันในความพยายามที่กว้างขึ้นเพื่อบูรณาการความกังวลลงไปในการพัฒนาอย่างยั่งยืน ฯพณฯ

ผลลัพธ์ (ไทย) 3:

สรุปและข้อเสนอแนะ : ก่อนหน้านี้ ส่วน sectionnext

ส่วนการวิจัยนี้แสดงให้เห็นถึงความสำคัญของทั้งแบบเป็นทางการและไม่เป็นทางการ หลักสูตรในการพัฒนานักเรียนพิสัยและความรู้พลังงาน conative . แม้ว่าความแตกต่างในด้านพลังงานระหว่างสาขา พบว่า ความรู้เกี่ยวกับพลังงานไม่ จำกัด เฉพาะวิชา ,แนะนำว่า ขอบเขตที่มีอยู่เพื่อพัฒนาการใช้พลังงานภายในด้านของหลักสูตรอย่างเป็นทางการ นอกจากนี้ ทางการและมหาวิทยาลัยหลักสูตร ( รวมถึงการจัดกิจกรรมเสริมหลักสูตรและการเรียนรู้ทางสังคม ) เกิดเป็นอิทธิพลสำคัญในทัศนคติและพฤติกรรมของนักเรียน . ถ่ายด้วยกันผลการศึกษาชี้ว่า เขามีสถาบันอาจเพิ่มพลังงานความรู้ของนักเรียนของพวกเขาในขณะที่จอฟ้าแบบมีกรอบที่มีประโยชน์สำหรับการระบุและการจัดการในอนาคตนอกจากนี้ที่สำคัญในบริบทนี้เป็นบทเรียนที่อาจจะได้รับจากการเรียนเป็นสถาบันซึ่งมีหายไปบางวิธีที่มีต่อความยั่งยืนของการฝังข้ามหลักสูตรและมหาวิทยาลัยต่างๆ แม้ว่าหลักฐานจากการศึกษาพบว่าค่าของกรณีศึกษาอยู่อย่างเท่าเทียมกันในความล้มเหลวของความเข้าใจและความสําเร็จแบ่งปันประสบการณ์ในลักษณะนี้อาจให้บทเรียนสำหรับมหาวิทยาลัยที่ระยะต่าง ๆในความพยายามที่กว้างขึ้นเพื่อบูรณาการเกี่ยวกับความยั่งยืนในเขา .