Background: Cigarette smoking usual

Background: Cigarette smoking usually commences during adolescence and continues into adult life. The aim of the present study was to assess the effect of peer-led intervention on cigarette smoking knowledge, attitude and behaviour of in-school adolescents’ in Sokoto metropolis, North-west, Nigeria. Method and Material: This was a quasi-experimental study, conducted in 3 stages using a study and control group. A total of 114 students each were selected into both groups by two-stage sampling technique. Two peer led health education interventions were administered to respondents in the study group after which questionnaires was administered to both groups. Data was analysed using SPSS, all tests were conducted in 2 tails, and level of significance was 5%. Results: In the study group, the proportion of respondents with adequate cigarette smoking knowledge increased from 75.4% to 97.2% (P=0.000), there was a reduction in the proportion of respondents who supported cigarette being sold to minors (P=0.000), which was significant and there was an increase in the proportion of respondents who would leave a place where cigarette is being smoked (P=0.000). Conclusion: The peer-led intervention was effective at improving respondents’ cigarette smoking related knowledge, attitude and behaviour. A sustained health education program should be set up in schools

ผลลัพธ์ (ไทย) 1:

พื้นหลัง: การสูบบุหรี่มักจะเริ่มต้นในช่วงวัยรุ่น และยังคงเป็นผู้ใหญ่ จุดมุ่งหมายของการศึกษาปัจจุบันมีการ ประเมินผลของการแทรกแซงนำเพียร์บุหรี่สูบความรู้ ทัศนคติ และพฤติกรรมในโรงเรียนเยาว Sokoto นคร North-west ไนจีเรีย วัสดุและวิธีการ: นี้เป็นการศึกษากึ่งทดลอง ดำเนินการในขั้นตอนที่ 3 ใช้กลุ่มศึกษาและควบคุม จำนวน 114 เรียนถูกเลือกเป็นกลุ่มทั้งสอง โดยเทคนิคการสุ่มตัวอย่างสอง สองเพื่อนนำสุขภาพการศึกษางานวิจัยได้จัดการผู้ตอบในกลุ่มศึกษาจากแบบสอบถามที่ถูกจัดการทั้งกลุ่ม ข้อมูลถูก analysed การใช้โปรแกรม การทดสอบทั้งหมดได้ดำเนินการใน 2 หาง และระดับของนัยสำคัญ 5% ผลลัพธ์: ในกลุ่มศึกษา สัดส่วนของผู้ตอบมีความรู้เพียงพอบุหรี่สูบบุหรี่เพิ่มขึ้น 75.4% จาก 97.2% (P = 0.000), มีการลดสัดส่วนของผู้ตอบที่สนับสนุนเด็กเล็กขายบุหรี่ (P = 0.000), ซึ่งมีความสำคัญ และมีการเพิ่มสัดส่วนของผู้ตอบที่จะทำให้เป็นสถานที่ที่จะถูกควันบุหรี่ (P = 0.000) สรุป: แทรกแซงนำเพื่อนมีประสิทธิภาพในการปรับปรุงความรู้ที่เกี่ยวข้อง ทัศนคติ และพฤติกรรมในการสูบบุหรี่บุหรี่ผู้ตอบ โปรแกรมการศึกษาสุขภาพ sustained ควรจะตั้งในโรงเรียน

ผลลัพธ์ (ไทย) 2:

พื้นหลัง: การสูบบุหรี่มักจะเริ่มในช่วงวัยรุ่นและยังคงเข้ามาในชีวิตในวัยผู้ใหญ่ จุดมุ่งหมายของการศึกษานี้คือการประเมินผลกระทบที่เกิดจากการแทรกแซงของเพียร์นำความรู้การสูบบุหรี่ทัศนคติและพฤติกรรมของวัยรุ่นในโรงเรียนในเมืองโซโคโต, ทางตะวันตกเฉียงเหนือไนจีเรีย วิธีการและวัสดุ: นี่คือการศึกษากึ่งทดลองดำเนินการใน 3 ขั้นตอนโดยใช้การศึกษาและกลุ่มควบคุม รวมของนักเรียนในแต่ละ 114 ได้รับการคัดเลือกเข้ามาในทั้งสองกลุ่มโดยใช้เทคนิคการสุ่มตัวอย่างสองขั้นตอน สองเพียร์นำการแทรกแซงการศึกษาสุขภาพได้รับการบริหารให้กับผู้ตอบแบบสอบถามในกลุ่มการศึกษาหลังจากที่แบบสอบถามเป็นยาทั้งสองกลุ่ม วิเคราะห์ข้อมูลโดยใช้โปรแกรม SPSS, การทดสอบทั้งหมดได้ดำเนินการใน 2 หางและระดับความสำคัญเป็น 5% ผล: ในกลุ่มการศึกษาสัดส่วนของผู้ตอบแบบสอบถามมีความรู้เพียงพอที่สูบบุหรี่เพิ่มขึ้นจาก 75.4% เป็น 97.2% (P = 0.000) มีการลดลงของสัดส่วนของผู้ตอบแบบสอบถามที่ได้รับการสนับสนุนบุหรี่ถูกขายให้กับผู้เยาว์ (P = 0.000) ซึ่งเป็นที่สำคัญและมีการเพิ่มขึ้นในสัดส่วนของผู้ตอบแบบสอบถามที่จะออกจากสถานที่ที่สูบบุหรี่จะถูกรมควัน (P = 0.000) สรุป: การแทรกแซงของเพียร์ที่นำโดยมีประสิทธิภาพในการปรับปรุงบุหรี่ตอบแบบสอบถามการสูบบุหรี่ความรู้ที่เกี่ยวข้องกับทัศนคติและพฤติกรรม โปรแกรมสุขศึกษาอย่างยั่งยืนควรได้รับการจัดตั้งขึ้นในโรงเรียน

ผลลัพธ์ (ไทย) 3:

พื้นหลัง : การสูบบุหรี่มักจะเริ่มต้นในช่วงวัยรุ่น และยังเข้าไปในชีวิตของผู้ใหญ่ จุดมุ่งหมายของการศึกษาคือ เพื่อศึกษาผลของการแทรกแซงในการสูบบุหรี่เพื่อนนำความรู้ ทัศนคติ และพฤติกรรมของวัยรุ่นในโรงเรียนในโซโคโตคร , North West , ไนจีเรีย วิธีการและวัสดุ : นี้เป็นแบบกึ่งทดลองเรียนดำเนินการในขั้นตอนที่ 3 ใช้ศึกษา และกลุ่มควบคุม ทั้งหมด 114 คน ซึ่งในทั้งสองกลุ่ม ด้วยแบบเทคนิคการสุ่มตัวอย่าง สองเพื่อน LED สุขศึกษาโดยได้รับการศึกษาผู้ตอบแบบสอบถามในกลุ่มหลังซึ่งแบบสอบถามของนักเรียนทั้งสองกลุ่ม วิเคราะห์ข้อมูลโดยใช้สถิติการทดสอบทั้งหมดได้ดำเนินการใน 2 หางและระดับนัยสำคัญ 0.05 5 % ผลลัพธ์ : ในกลุ่มศึกษาสัดส่วนของผู้ตอบแบบสอบถามมีความรู้กับการสูบบุหรี่เพิ่มขึ้นจากร้อยละ 22.8 สินทรัพย์รวม ( P = 0.000 ) , มีการลดลงในสัดส่วนของผู้ตอบแบบสอบถามที่สนับสนุนบุหรี่ถูกขายให้กับผู้เยาว์ ( p = 0.000 )ที่สำคัญ และมีการเพิ่มขึ้นในสัดส่วนของผู้ตอบแบบสอบถามที่ออกจากที่ๆ บุหรี่ถูกสูบ ( p = 0.000 ) สรุป : เพื่อน LED มีประสิทธิภาพในการปรับปรุงนโยบายการสูบบุหรี่ของผู้ตอบแบบสอบถามความรู้ ทัศนคติ และพฤติกรรม ผ่านโปรแกรมสุขศึกษา ควรตั้งในโรงเรียน