C. Effect of Particle SizeThis expe

C. Effect of Particle Size
This experimental controlled at the condition of N2 flow 100 ml/min and varying temperature 300-
450 C. The shell was separated for two particle sizes 1.13 and 2.18 mm for study the effect of particle
size to bio oil production compared with residue.
The Fig.5 showed the bio oil yield from residue was middle of the two types of shell, except that on
450 C and there were the same trend line of bio oil yield between the
1.13 and 2.18 mm. However, the bio oil yield from size 2.18 mm was higher than size 1.13 mm. It seems
that although the smaller particle has higher surface area but the tiny particle size affect the low thermal
resistance too. Then the particle size 1.13 mm has more chance into secondary thermal cracking period
and produce un-condensable gas. Additional, the larger size 2.18 mm showed the highest yield in each
pyrolysis temperature because of its strongest structure.

ผลลัพธ์ (ไทย) 1:

ค.ผลของขนาดอนุภาค
นี้ทดลองควบคุมสภาพของ N2 ไหล 100 ml/min และแตกต่างกันอุณหภูมิ 300-
ค. 450 เปลือกจะถูกแยกต่างหากสำหรับ 2 อนุภาคขนาด 1.13 และ 2.18 มม.สำหรับการศึกษาผลของอนุภาค
ขนาดผลิตน้ำมันชีวภาพเปรียบเทียบกับสารตกค้าง
Fig.5 แสดงให้เห็นว่า ผลผลิตน้ำมันชีวภาพจากสารตกค้างถูกกลางสองชนิดของเปลือก ยกเว้นที่บน
450 C และมีเส้นแนวโน้มเดียวกันของผลผลิตน้ำมันชีวภาพระหว่าง
1.13 และ 2.18 มิลลิเมตร อย่างไรก็ตาม น้ำมันชีวภาพผลผลิตจากขนาด 2.18 mm สูงกว่าขนาด 1.13 mm เหมือน
ว่า ถึงแม้ว่าอนุภาคขนาดเล็กได้สูงกว่า พื้นที่แต่ขนาดอนุภาคขนาดเล็กมีผลต่อความร้อนต่ำ
ทนเกินไป จาก นั้นอนุภาคขนาด 1.13 mm มีโอกาสมากขึ้นในระยะ cracking ร้อนรอง
และผลิตก๊าซยังไม่ condensable เพิ่มเติม ขนาดใหญ่ 2.18 mm แสดงให้เห็นว่าผลตอบแทนสูงสุดในแต่ละ
ชีวภาพอุณหภูมิเนื่องจาก มีโครงสร้างแข็งแกร่ง

ผลลัพธ์ (ไทย) 2:

C. ผลของขนาดอนุภาค
ทดลองนี้มีการควบคุมที่เงื่อนไขของการไหล N2 100 มล. / นาทีและอุณหภูมิที่แตกต่างกัน 300 -
450 C. เปลือกถูกแยกออกเป็นสองอนุภาคขนาด 1.13 และ 2.18 มม. สำหรับการศึกษาผลกระทบของอนุภาค
ขนาดการผลิตน้ำมันไบโอ เมื่อเทียบกับส่วนที่เหลือ
รูปที่ 5 แสดงให้เห็นว่าอัตราผลตอบแทนจากน้ำมันชีวภาพจากสารตกค้างที่เป็นตรงกลางของทั้งสองประเภทของเปลือกยกเว้นว่าใน
450 C และมีเส้นแนวโน้มเดียวกันของผลผลิตน้ำมันชีวภาพระหว่าง
1.13 และ 2.18 มิลลิเมตร แต่ผลผลิตน้ำมันชีวภาพจากขนาด 2.18 มม. สูงกว่าขนาด 1.13 มิลลิเมตร ดูเหมือน
ว่าแม้ว่าอนุภาคขนาดเล็กมีพื้นที่ผิวสูงขึ้น แต่มีขนาดอนุภาคเล็ก ๆ ส่งผลกระทบต่อความร้อนต่ำ
ต้านทานเกินไป จากนั้นอนุภาคขนาด 1.13 มม. มีโอกาสมากยิ่งขึ้นในช่วงเวลาที่แตกรองความร้อน
และผลิตก๊าซยกเลิกการควบแน่น เพิ่มเติมขนาดให้ใหญ่ 2.18 มม. แสดงให้เห็นว่าอัตราผลตอบแทนที่สูงที่สุดในแต่ละ
อุณหภูมิไพโรไลซิเนื่องจากโครงสร้างที่แข็งแกร่งของ

ผลลัพธ์ (ไทย) 3:

C . ผลกระทบของขนาดอนุภาค
ทดลองควบคุมในภาวะ N2 ไหล 100 มิลลิลิตรต่อนาทีและอุณหภูมิแตกต่างกัน 300 -
450 C เปลือกแยกสองอนุภาคขนาด 1.13 และ 2.18 mm สำหรับการศึกษาผลของขนาดอนุภาคต่อการผลิตน้ำมันไบโอ

fig.5 เมื่อเทียบกับกาก พบว่าผลผลิตจากน้ำมันชีวภาพ ที่เหลืออยู่ของทั้งสองประเภทของเชลล์ ยกเว้นว่า
450 องศาเซลเซียสและมีเส้นแนวโน้มเดียวกันของน้ำมันไบโอผลผลิตระหว่าง
1.13 และ 2.18 มิลลิเมตร อย่างไรก็ตาม ผลผลิตจากน้ำมันชีวภาพขนาด 2.18 มิลลิเมตร สูงกว่าขนาด 1.13 มิลลิเมตร ดูเหมือนว่า
ถึงแม้ว่าอนุภาคเล็ก มีพื้นที่ผิวสูง แต่อนุภาคเล็กขนาดมีผลต่อความต้านทาน
ความร้อนต่ำเกินไป แล้วขนาด 1.13 มม. มีมากขึ้นโอกาสในการรองความร้อนระยะเวลา
สหประชาชาติย่อและผลิตก๊าซ เพิ่มเติมขนาด 2.18 มิลลิเมตร พบว่า ผลผลิตในแต่ละ
ไพโรไลซิสที่อุณหภูมิเพราะโครงสร้างที่แข็งแกร่งของ