Corn starch breaks down when heated

Corn starch breaks down when heated too much, i.e. after it thickens, continued heating makes it thin again. That's why when you make gravy using corn starch as the thickener and reheat it the next day you have to add more corn starch. It also does not stand up well in acidic environments. That's why tomato sauce recipes use flour if a thickener is needed, and why fruit sauce recipes call for tapioca pearls or tapioca flour.

Modified corn starch does not break down with continued heating and it does well in acidic sauces. Like regular cornstarch, it becomes clear when heated with water, so it is preferred when thickening fruit sauces as the sauce will stay transluscent and not mask the fruit's color like flour will.

ผลลัพธ์ (ไทย) 2:

แป้งข้าวโพดแบ่งลงเมื่อถูกความร้อนมากเกินไปเช่นหลังจากที่มันข้น, ความร้อนอย่างต่อเนื่องทำให้บางอีกครั้ง นั่นเป็นเหตุผลที่เมื่อคุณทำน้ำเกรวี่โดยใช้แป้งข้าวโพดเป็นข้นและอุ่นในวันต่อไปคุณจะมีการเพิ่มแป้งข้าวโพดมากขึ้น นอกจากนี้ยังไม่ยืนขึ้นได้ดีในสภาพแวดล้อมที่เป็นกรด นั่นเป็นเหตุผลที่สูตรซอสมะเขือเทศใช้แป้งถ้าข้นเป็นสิ่งจำเป็นและเหตุผลที่สูตรซอสผลไม้ที่เรียกร้องให้ไข่มุกสำปะหลังหรือแป้งมันสำปะหลัง. แป้งข้าวโพดดัดแปลงไม่ทำลายลงด้วยความร้อนอย่างต่อเนื่องและไม่ดีในซอสที่เป็นกรด เช่นเดียวกับแป้งข้าวโพดปกติก็กลายเป็นที่ชัดเจนเมื่อถูกความร้อนด้วยน้ำจึงเป็นที่ต้องการเมื่อหนาซอสผลไม้ซอสจะอยู่ transluscent และไม่ได้สวมหน้ากากสีของผลไม้เช่นแป้งจะ

ผลลัพธ์ (ไทย) 3:

ข้าวโพดแป้งแบ่งลงเมื่อได้รับความร้อนมากเกินไป เช่น หลังจากมันข้นร้อนอย่างต่อเนื่อง ทำให้บางอีกครั้ง นั่นเป็นเหตุผลที่เมื่อคุณให้ใช้แป้งข้าวโพดเป็นเกรวี่ข้นมันและอุ่นในวันถัดไปคุณจะต้องเพิ่มแป้งข้าวโพด . มันยังไม่ยืน ขึ้นได้ดีในสภาพแวดล้อมที่เป็นกรด นั่นคือเหตุผลที่สูตรซอสมะเขือเทศ ใช้แป้งถ้าข้นเป็นสิ่งจำเป็นทำไมสูตรซอสผลไม้เรียกไข่มุกมันสำปะหลังและแป้งมันสำปะหลัง

แป้งข้าวโพดดัดไม่เลิกกับความร้อนอย่างต่อเนื่องและจะดีในซอสเปรี้ยว เหมือนแป้งธรรมดา จะกลายเป็นชัดเจนเมื่อให้ความร้อนกับน้ำ ดังนั้นจึงต้องการเมื่อหนาผลไม้ซอส เป็นซอสจะอยู่ transluscent และหน้ากากของผลไม้สีเหมือนแป้งจะ