Oregon Assisted Suicide Headed for

Oregon Assisted Suicide Headed for Supreme Court

PORTLAND, August 23, 2004 (LifeSiteNews.com) - Assisted suicide in the state of Oregon may be put on trial this September if U.S. Attorney General John Ashcroft files an appeal with the Supreme Court. In a ruling announced August 16, the 9th U.S. Circuit Court of Appeals denied a U.S. Justice Department request for a new hearing after the court's May decision to uphold the Oregon doctor-assisted suicide law.

State records say that doctors have helped 171 people commit suicide since the Death With Dignity Act was introduced six years ago. A recently published study contains some alarming statistics. Researchers at Oregon Health & Science University interviewed 1,384 family members who had lost a family member between June 2000 and March 2002, and found that 17 percent of dying patients had talked to their family members about assisted suicide. Only 2 percent of dying patients formally request assisted suicide, and about 1 in 1,000 follows through by consuming a lethal dose.

The study also found that the patients most likely to request assisted suicide are cancer-sufferers and tend to be young, white and not particularly religious. The study contradicts earlier survey attempts, which said the tendency to request assisted suicide was higher among the more educated; education actually has little to do with assisted suicide.

The study also throws light on whether or not legalizing assisted suicide actually limits its use. Some argue that actual cases of physician assisted suicide are more frequent in other states, because Oregon's suicide law puts physicians under more scrutiny. The study makes it clear, however, that options are more on people's minds when they are legal options.

"We had no idea prior to our study how many Oregonians personally considered the option," said Dr. Susan Tolle, the study's lead author.

ผลลัพธ์ (ไทย) 1:

ออริกอนช่วยฆ่าตัวตายหัวในศาลฎีกาพอร์ตแลนด์ 23 สิงหาคม 2004 LifeSiteNews.com) - ช่วยฆ่าตัวตายในรัฐออริกอนอาจจะใส่ trial ในเดือนกันยายนนี้หากอัยการสหรัฐฯ จอห์นแอชครอฟแฟ้มการอุทธรณ์ต่อศาลฎีกา ในการปกครองประกาศ 16 สิงหาคม 9 สหรัฐอเมริกาศาลวงจรของอุทธรณ์ปฏิเสธคำขอฟังใหม่กระทรวงยุติธรรมสหรัฐอเมริกาหลังจากศาลอาจตัดสินใจผดุงกฎหมายช่วยแพทย์ฆ่าตัวตายของออริกอนระเบียนที่รัฐบอกว่า แพทย์ได้ช่วยเหลือ 171 คนฆ่าตัวตายเนื่องจากการตายมีศักดิ์ศรีกระทำถูกนำมาใช้เมื่อ 6 ปีที่ผ่านมา การศึกษาประกาศเมื่อเร็ว ๆ นี้ประกอบด้วยสถิติที่น่าเป็นห่วงบาง นักวิจัยที่โอเรกอนมหาวิทยาลัยวิทยาศาสตร์สุขภาพสัมภาษณ์สมาชิกในครอบครัว 1,384 ที่มีการสูญเสียสมาชิกในครอบครัวระหว่าง 2000 มิถุนายนและเดือน 2002 มีนาคม และพบว่า ร้อยละ 17 ของผู้ป่วยตายได้คุยกับครอบครัวของพวกเขาช่วยฆ่าตัวตาย เพียง 2 เปอร์เซ็นต์ของผู้ป่วยตายอย่างเป็นกิจจะลักษณะขอช่วยฆ่าตัวตาย และประมาณ 1 ใน 1000 นี้ผ่าน โดยใช้ยายุทธภัณฑ์การศึกษาพบว่า ผู้ป่วยมักขอช่วยฆ่าตัวตายเป็นมะเร็งแพ้ และมักจะ เป็นหนุ่ม สีขาว และโดยเฉพาะอย่างยิ่งศาสนา การศึกษาทุกก่อนสำรวจความพยายาม ซึ่งกล่าวว่า แนวโน้มการขอช่วยฆ่าตัวตายสูงขึ้นระหว่างที่มีการศึกษา ศึกษาจริงได้น้อยกับช่วยฆ่าตัวตายนอกจากนี้การศึกษายังพ่นไฟบนหรือไม่ legalizing ช่วยฆ่าตัวตายจริงจำกัดการใช้ บางคนโต้แย้งกรณีจริงช่วยแพทย์ฆ่าตัวตายใช้บ่อยกว่าในรัฐอื่น ๆ เนื่องจากกฎหมายของออริกอนฆ่าตัวตายทำให้แพทย์ภายใต้ scrutiny เพิ่มเติม การศึกษาทำให้ชัดเจน อย่างไร ตามที่ตัวเลือกเพิ่มเติมในจิตใจของคนเมื่อจะเลือกกฎหมาย"เรามีความคิดก่อนการศึกษาของเราจำนวน Oregonians ตัวถือตัว, " กล่าวว่า ดร.ซูซาน Tolle ผู้เขียนเป้าหมายของการศึกษา

ผลลัพธ์ (ไทย) 2:

โอเรกอนฆ่าตัวตายมุ่งหน้าไปยังศาลฎีกาช่วยPORTLAND, 23 สิงหาคม 2004 (LifeSiteNews.com) - ช่วยฆ่าตัวตายในรัฐโอเรกอนอาจจะใส่ในการพิจารณาคดีในเดือนกันยายนนี้หากอัยการสหรัฐฯอังกฤษจอห์น Ashcroft ไฟล์อุทธรณ์ต่อศาลฎีกา ในการพิจารณาคดีประกาศ 16 สิงหาคมที่ 9 วงจรศาลอุทธรณ์ศาลสหรัฐฯปฏิเสธคำขอของกระทรวงยุติธรรมสหรัฐสำหรับการได้ยินใหม่หลังจากที่การตัดสินใจพฤษภาคมของศาลที่จะยึดมั่นในโอเรกอนกฎหมายการฆ่าตัวตายแพทย์ช่วย. บันทึกรัฐบอกว่าแพทย์ได้ช่วย 171 คนฆ่าตัวตาย ตั้งแต่ตายด้วยศักดิ์ศรีทำถูกนำหกปีที่ผ่านมา การศึกษาเมื่อเร็ว ๆ นี้มีการเผยแพร่สถิติที่น่ากลัวบางอย่าง นักวิจัยที่โอเรกอนสุขภาพและวิทยาศาสตร์มหาวิทยาลัยสัมภาษณ์ 1384 สมาชิกในครอบครัวที่ต้องสูญเสียสมาชิกในครอบครัวระหว่างเดือนมิถุนายน 2000 และมีนาคม 2002 และพบว่าร้อยละ 17 ของผู้ป่วยที่กำลังจะตายได้พูดคุยกับสมาชิกในครอบครัวของพวกเขาเกี่ยวกับการช่วยฆ่าตัวตาย มีเพียงร้อยละ 2 ของผู้ป่วยที่กำลังจะตายอย่างเป็นทางการขอให้ช่วยฆ่าตัวตายและประมาณ 1 ใน 1000 ดังต่อไปนี้ผ่านโดยการบริโภคยาตาย. การศึกษายังพบว่าผู้ป่วยส่วนใหญ่มีแนวโน้มที่จะขอให้ช่วยฆ่าตัวตายเป็นโรคมะเร็งผู้ประสบภัยและมีแนวโน้มที่จะหนุ่มสีขาวและสีไม่ได้ โดยเฉพาะอย่างยิ่งทางศาสนา การศึกษาก่อนหน้านี้ขัดแย้งกับความพยายามสำรวจซึ่งกล่าวว่ามีแนวโน้มที่จะขอให้ช่วยฆ่าตัวตายสูงในหมู่ผู้ที่มีการศึกษามากขึ้น การศึกษาจริงมีน้อยมากที่จะทำอย่างไรกับการฆ่าตัวตายช่วย. การศึกษายังพ่นไฟหรือไม่ว่ากฎหมายการฆ่าตัวตายจริงช่วย จำกัด การใช้งาน บางคนยืนยันว่ากรณีที่เกิดขึ้นจริงของแพทย์ช่วยฆ่าตัวตายบ่อยมากขึ้นในรัฐอื่น ๆ เพราะกฎหมายการฆ่าตัวตายของโอเรกอนทำให้แพทย์ภายใต้การพิจารณามากขึ้น การศึกษาทำให้มันชัดเจน แต่ที่มีตัวเลือกมากขึ้นในจิตใจของผู้คนเมื่อพวกเขาเป็นตัวเลือกที่ถูกต้องตามกฎหมาย. "เรามีความคิดก่อนที่จะมีการศึกษาของเราวิธีการหลาย Oregonians พิจารณาบุคคลตัวเลือก" ดร. ซูซาน Tolle, ผู้เขียนนำการศึกษากล่าวว่า

ผลลัพธ์ (ไทย) 3:

โอเรกอนการฆ่าตัวตายไปศาลฎีกา

พอร์ตแลนด์เมื่อวันที่ 23 สิงหาคม 2547 ( lifesitenews . com ) - ช่วยฆ่าตัวตายในรัฐโอเรกอนอาจถูกดำเนินคดีในเดือนกันยายนนี้ หากสหรัฐอัยการสูงสุดจอห์น แอชครอฟต์ไฟล์อุทธรณ์กับศาล ในการพิจารณาคดีประกาศสิงหาคม 16 , 9 สหรัฐวงจรศาลอุทธรณ์ปฏิเสธสหรัฐอเมริกา .กระทรวงยุติธรรมขอใหม่ได้ยินหลังจากศาลอาจตัดสินใจที่จะรักษาแพทย์โอเรกอนช่วยกฎหมายฆ่าตัวตาย

สภาพบันทึกกล่าวว่า แพทย์ได้ช่วย 171 คนฆ่าตัวตายเพราะความตายกับพระราชบัญญัติศักดิ์ศรีเป็นที่รู้จักเมื่อ 6 ปีที่แล้ว เมื่อไม่นานมานี้การศึกษาประกอบด้วยบางถ่างสถิติ นักวิจัยที่มหาวิทยาลัย&วิทยาศาสตร์สุขภาพโอเรกอน สัมภาษณ์ 1384 สมาชิกในครอบครัวที่ได้สูญเสียสมาชิกในครอบครัวระหว่างมิถุนายน 2000 และ 2002 มีนาคม และพบว่าร้อยละ 17 ของผู้ป่วยตายได้คุยกับครอบครัวของพวกเขาเกี่ยวกับการฆ่าตัวตาย . เพียง 2 เปอร์เซ็นต์ของผู้ป่วยตายขออย่างเป็นทางการการฆ่าตัวตาย และประมาณ 1 ใน 1000 ดังต่อไปนี้ผ่าน โดยการบริโภคยา

ถึงตายการศึกษายังพบว่า ผู้ป่วยส่วนใหญ่มีแนวโน้มที่จะขอการฆ่าตัวตายเป็นผู้ประสบภัยมะเร็งและมีแนวโน้มที่จะเป็นหนุ่ม ขาวและไม่ได้โดยเฉพาะทางศาสนา การศึกษาขัดแย้งก่อนหน้านี้พยายามสำรวจ ซึ่งกล่าวว่า แนวโน้ม ที่ จะ ขอ การฆ่าตัวตายสูงในการศึกษามากขึ้น การศึกษาจริงได้น้อยจะทำอย่างไรกับการฆ่าตัวตาย .

การศึกษายังพ่นไฟหรือไม่ถูกต้องตามกฎหมายช่วยฆ่าตัวตายจริง จำกัด การใช้ของมัน บางคนโต้แย้งว่า คดีที่เกิดขึ้นจริงของหมอ การฆ่าตัวตายบ่อยมากในรัฐอื่น ๆ เนื่องจากกฎหมายฆ่าตัวตายโอเรกอนทำให้แพทย์ภายใต้การตรวจสอบข้อเท็จจริงเพิ่มเติม ศึกษาให้ชัดเจน อย่างไรก็ตาม ตัวเลือกจะมากขึ้นในจิตใจของผู้คนเมื่อพวกเขามีตัวเลือกทางกฎหมาย .

" เราไม่รู้ว่าก่อนการศึกษากี่ oregonians เองถือเป็นตัวเลือก " ดร. ซูซาน โทลเล , ผู้เขียนนำของการศึกษา