Thermal conductivity of dry basis a

Thermal conductivity of dry basis at 10 C ( k10 dry) for recipe A is
about 0.16207, 0.12856, 0.19465 and 0.29149 W/mK for wheat,
barley, wood shavings and unreinforced fibre plasters respectively.
For recipe B, it is about 0.22660, 0.20067, 0.20759 and 0.29149 W/
mK for wheat, barley, wood shavings and unreinforced fibre plasters respectively. k10 dry for recipe C is 0.27890, 0.24780, 0.23435
and 0.29149 W/mK of plaster reinforced with wheat, barley, wood
shavings and without fibres respectively.
The thermal conductivity of dry basis ( kdry) for recipe A is
0.19448, 0.154272, 0.23358 and 0.34979 W/mK of wheat, barley,
wood shavings and without fibres plaster respectively. On the
other hand k
dry for recipe B is 0.27189, 0.24080, 0.24911 and
0.34979 W/mK for the same materials. Furthermore, kdry for recipe
C is 0.33468, 0.29736, 0.28122 and 0.34979 W/mK of the same plaster materials.
By increasing the fibre content to about 75% and removing sand
(recipe A), the thermal insulation is increased to about 44.4%, 55.9%
and 33.2% for plaster reinforced with wheat straw, barley straw
and wood shaving fibres respectively. For recipe B the thermal
insulation is increased to about 22.3%, 31.2% and 28.8% for plaster
reinforced with wheat straw fibre, barley straw and wood shavings
respectively. The results revealed that the thermal conductivity of the plaster
material decreases with increasing fibre content and decreasing
sand content. The reinforcement fibres have greater effect on the
thermal conductivity than the sand content. Our results show that
plaster reinforced by barley straw fibre possesses the highest thermal insulation

ผลลัพธ์ (ไทย) 2:

การนำความร้อนของน้ำหนักแห้งที่อุณหภูมิ 10 องศาเซลเซียส (k10 แห้ง) สำหรับสูตรคือ
ประมาณ 0.16207, 0.12856, 0.19465 และ 0.29149 W / mK สำหรับข้าวสาลี
ข้าวบาร์เลย์ขี้กบไม้และพลาสเตอร์ใยไม่มีโครงสร้างที่แข็งแรงตามลำดับ.
สำหรับ B สูตรมันเป็นเรื่องเกี่ยวกับ 0.22660, 0.20067, 0.20759 และ 0.29149 W /
mK สำหรับข้าวสาลีข้าวบาร์เลย์ขี้กบไม้และพลาสเตอร์ใยไม่มีโครงสร้างที่แข็งแรงตามลำดับ k10 แห้งสำหรับ C สูตรเป็น 0.27890, 0.24780, 0.23435
และ 0.29149 W / mK ของการฉาบปูนเสริมด้วยข้าวสาลีข้าวบาร์เลย์ไม้
ขี้กบและไม่มีเส้นใยตามลำดับ.
การนำความร้อนของน้ำหนักแห้ง (kdry) สำหรับสูตรเป็น
0.19448, 0.154272, 0.23358 และ 0.34979 W / mK ของข้าวสาลีข้าวบาร์เลย์
ขี้กบไม้และไม่มีเส้นใยพลาสเตอร์ตามลำดับ ใน
ทางตรงกันข้าม k
แห้งสำหรับ B สูตรเป็น 0.27189, 0.24080, 0.24911 และ
0.34979 W / mK สำหรับวัสดุเดียวกัน นอกจาก kdry สำหรับสูตร
ซีเป็น 0.33468, 0.29736, 0.28122 และ 0.34979 W / mK ของวัสดุปูนเดียวกัน.
โดยการเพิ่มปริมาณใยประมาณ 75% และลบทราย
(สูตร), ฉนวนกันความร้อนที่เพิ่มขึ้นประมาณ 44.4% 55.9%
และ 33.2% สำหรับฉาบปูนเสริมด้วยฟางข้าวสาลี, ฟางข้าวบาร์เลย์
และไม้เส้นใยโกนหนวดตามลำดับ สำหรับสูตร B ความร้อน
ฉนวนกันความร้อนจะเพิ่มขึ้นประมาณ 22.3%, 31.2% และ 28.8% สำหรับฉาบปูน
เสริมด้วยเส้นใยฟางข้าวสาลี, ฟางข้าวบาร์เลย์และขี้กบไม้
ตามลำดับ ผลการศึกษาพบว่าการนำความร้อนของการฉาบปูน
วัสดุลดลงด้วยการเพิ่มปริมาณเส้นใยและลด
เนื้อหาทราย เส้นใยเสริมแรงมีผลกระทบมากขึ้นใน
การนำความร้อนกว่าเนื้อหาทราย ผลของเราแสดงให้เห็นว่า
ปูนเสริมด้วยเส้นใยฟางข้าวบาร์เลย์ที่มีฉนวนกันความร้อนที่สูงที่สุด

ผลลัพธ์ (ไทย) 3:

ค่าการนำความร้อนของบริการพื้นฐานที่ 10  C ( k10 แห้ง ) สำหรับสูตรคือเรื่อง 0.16207 0.12856
, , และ 0.19465 0.29149 W / mk สำหรับข้าวสาลี
ข้าวบาร์เลย์ ตัดไม้และไฟเบอร์และพลาสติกตามลำดับ .
สำหรับสูตร บี มันเกี่ยวกับ 0.22660 0.20067 0.20759 , และ , 0.29149 w /
MK สำหรับข้าวสาลี ข้าวบาร์เลย์ ตัดไม้และไฟเบอร์และพลาสติกตามลำดับ k10 แห้งสูตร C 0.27890 0.24780 0.23435
, ,และ 0.29149 W / mk ปูนเสริมด้วยข้าวสาลี ข้าวบาร์เลย์ และไม่มีเส้นใยเศษไม้

ตามลำดับ ค่าการนำความร้อนของบริการพื้นฐาน ( kdry ) สำหรับสูตรเป็น 0.19448 0.154272
, , และ 0.23358 0.34979 W / mk ของข้าวสาลี , บาร์เลย์ ,
ขี้กบและไม่มีเส้นใยปูนปลาสเตอร์ ตามลำดับ บนมืออื่น ๆ

K แห้งสูตร B 0.27189 0.24080 0.24911
, , และ 0.34979 W / mk สำหรับวัสดุเดียวกันนอกจากนี้ kdry สำหรับสูตร
C 0.33468 0.29736 0.28122 , และ , 0.34979 W / mk ของวัสดุปูนเดียวกัน โดยการเพิ่มเส้นใย
เนื้อหาประมาณ 75% และเอาทราย
( สูตร ) , ฉนวนกันความร้อนเพิ่มขึ้นเป็นประมาณ 44.4 ร้อยละ 55.9 และร้อยละ 33.2 %
ปูนเสริมด้วยข้าวสาลี ฟาง , ฟางข้าวบาร์เลย์
และไม้โกนก่อนตามลำดับ สำหรับสูตร B
ความร้อนฉนวนกันความร้อนที่เพิ่มขึ้นประมาณ 22.3 เปอร์เซ็นต์ 31.2 % 28.8 % สำหรับการฉาบปูนเสริมใย

ฟางฟางข้าวสาลี ข้าวบาร์เลย์ และขี้กบ ตามลำดับ ผลการศึกษาพบว่าค่าการนำความร้อนของวัสดุปูน
ลดลงเมื่อเพิ่มเส้นใยเนื้อหาและลด
ทราย ) การเสริมแรงของเส้นใยมีผลมากกว่าบน
การนำความร้อนกว่าทราย )ผลของเราแสดงให้เห็นว่า
ปูนเสริมด้วยเส้นใยฟางข้าวบาร์เลย์มีฉนวนกันความร้อนสูงสุด