The full-time unemployment rate can

The full-time unemployment rate cannot be determined with great precision. One thing is certain: it cannot be zero or even close to zero. A zero unemployment rate would mean that no one ever entered or re-entered the labor force, that no one ever quit a job or was laid off, and that for new entrants or re-entrants, the process of searching for a job consumed no time. Moreover, full-time employment cannot be defined as an equality between the number of unemployed persons and the number of unfilled jobs. By this definition, almost any unemployment rate could be consistent with the full-time employment rate.

The customary definition of the full-time U.S. unemployment rate is the lowest rate of unemployment that can be attained without resulting in an accelerated rate of inflation, given the existing economic conditions. However, no one can be sure exactly what the unemployment rate is, based on this definition, since it is not possible to predict exactly how great a change in the rate of inflation will be associated with any given change in the unemployment rate. In the early 1960s, President Kennedy's Council of Economic Advisors (CEA) determined that 4 percent was the best estimate of the full-time U.S. unemployment rate. That rate was based on data collected during the period from mid-1955 to mid-1957, when the U.S. unemployment rate fluctuated around an average of 4.1 percent and the consumer price index advanced at an average rate of 2.5 percent per year. Although a 4-percent U.S. unemployment rate may have been consistent with an acceptably low rate of inflation in the mid-1950s, by the 1960s this proposition had become increasingly doubtful. Our experience since then has been such that those who accept the customary definition of the full-time U.S. unemployment rate now consider 4.5 percent to be the optimal rate under the existing circumstances.

The principal reason for this upward adjustment in the full-time U.S. unemployment rate is the changed composition of the labor force. As the labor force becomes increasingly composed of elderly people and women, the number of workers has increased. Similarly, the number of workers who are now eligible to collect benefits has increased. To the extent that these changes have increased voluntary and involuntary layoff rates and the average length of time unemployed persons spend looking for work, the full-time unemployment rate has risen.

ผลลัพธ์ (ไทย) 1:

อัตราการว่างงานเต็มเวลาไม่สามารถกำหนดได้ ด้วยความแม่นยำมาก สิ่งหนึ่งคือนอน: มันไม่เป็นศูนย์ หรือแม้แต่ใกล้กับศูนย์ได้ อัตราว่างงานที่ศูนย์จะหมายถึง ว่า ไม่มีใครเคยใส่ หรือกลับเข้ากองทัพแรงงาน ที่ไม่เคยออกจากงาน หรือถูกลอยแพ และว่า entrants ใหม่หรือ re-entrants กระบวนการในการค้นหางานที่ใช้เวลาไม่ นอกจากนี้ ทำงานเต็มเวลาไม่สามารถกำหนดเป็นการความเท่าเทียมกันระหว่างจำนวนคนตกงานและจำนวนงานรูป จากคำนิยามนี้ เกือบทุกอัตราการว่างงานอาจสอดคล้องกับอัตราการจ้างงานเต็มเวลาการกำหนดอัตราการว่างงานสหรัฐฯ เต็มเวลาจารีตประเพณีจะต่ำอัตราการว่างงานที่สามารถบรรลุได้โดยไม่เกิดอัตราเงินเฟ้อ อัตราการเร่งให้สภาวะเศรษฐกิจที่เป็นอยู่ อย่างไรก็ตาม ไม่สามารถมั่นใจได้ว่าอัตราการว่างงานคืออะไร ตามคำนิยามนี้ เนื่องจากไม่สามารถจะทำนายว่า ดีว่าวิธีการเปลี่ยนแปลงในอัตราเงินเฟ้อจะเกี่ยวข้องกับการเปลี่ยนแปลงที่กำหนดในอัตราการว่างงาน ในช่วงปี 1960 ประธานาธิบดีเคนเนดี้สภาของเศรษฐกิจปรึกษา (CEA) กำหนดว่า ร้อยละ 4 มีค่าประมาณอัตราการว่างงานสหรัฐฯ ที่เต็มเวลา อัตราที่เป็นไปตามข้อมูลที่รวบรวมในช่วงเวลาจากกลาง 1955 การกลาง 1957 เมื่ออัตราการว่างงานสหรัฐฯ fluctuated รอบเฉลี่ยร้อยละ 4.1 และดัชนีราคาผู้บริโภคขั้นสูงที่มีอัตราเฉลี่ยร้อยละ 2.5 ต่อปี แม้ว่าอัตราการว่างงานสหรัฐฯ ร้อยละ 4 อาจได้สอดคล้องกับอัตราเงินเฟ้อในมิ acceptably ต่ำ โดย 1960 ข้อเสนอนี้ได้กลายเป็นหนี้สงสัยสูญเพิ่มขึ้น ประสบการณ์ของเราตั้งแต่นั้นแล้วให้ผู้ที่ยอมรับจารีตประเพณีคำนิยามของอัตราการว่างงานสหรัฐฯ เต็มเวลาตอนนี้พิจารณา 4.5 เปอร์เซ็นต์เป็น อัตราเหมาะสมภายใต้สถานการณ์ที่มีอยู่เหตุผลหลักสำหรับการปรับปรุงนี้ขึ้นในอัตราการว่างงานสหรัฐฯ เต็มเวลาจะเปลี่ยนแปลงองค์ประกอบของกำลังแรงงาน เป็นกำลังแรงงานจะมากขึ้นประกอบด้วยผู้สูงอายุและหญิง มีเพิ่มจำนวนผู้ปฏิบัติงาน ในทำนองเดียวกัน จำนวนคนก็มีสิทธิเก็บผลประโยชน์ได้เพิ่มขึ้น ที่เปลี่ยนแปลงเหล่านี้ได้เพิ่มขึ้นอัตรา layoff ความสมัครใจ และสีผิวและความยาวเฉลี่ยของเวลาใช้คนตกงานหางานทำ อัตราการว่างงานเต็มเวลาได้เพิ่มขึ้น

ผลลัพธ์ (ไทย) 2:

อัตราการว่างงานเต็มเวลาไม่สามารถกำหนดด้วยความแม่นยำที่ดี สิ่งหนึ่งคือบาง: มันไม่สามารถเป็นศูนย์หรือใกล้เคียงกับศูนย์ อัตราการว่างงานที่ศูนย์จะหมายถึงว่าไม่มีใครเข้ามาหรือเคยใหม่เข้าแรงงานที่ไม่มีใครเคยลาออกจากงานหรือถูกปลดออกและที่สำหรับผู้เข้าใหม่หรือใหม่เข้ากระบวนการของการค้นหางานที่บริโภคไม่ เวลา นอกจากนี้การจ้างงานเต็มเวลาไม่สามารถกำหนดเป็นความเท่าเทียมกันระหว่างจำนวนผู้ว่างงานและจำนวนของงานถมที่ ตามคำนิยามนี้เกือบอัตราการว่างงานใด ๆ ที่อาจจะสอดคล้องกับอัตราการจ้างงานแบบเต็มเวลา. ความหมายจารีตประเพณีของเต็มเวลาอัตราการว่างงานของสหรัฐเป็นอัตราต่ำสุดของการว่างงานที่สามารถบรรลุได้โดยไม่ส่งผลให้อัตราเร่งของอัตราเงินเฟ้อที่กำหนด ภาวะเศรษฐกิจที่มีอยู่ แต่ไม่มีใครสามารถมั่นใจได้ว่าสิ่งที่อัตราการว่างงานอยู่บนพื้นฐานของคำนิยามนี้เพราะมันเป็นไปไม่ได้ที่จะคาดการณ์ว่าวิธีการที่ดีในการเปลี่ยนแปลงในอัตราเงินเฟ้อจะเชื่อมโยงกับการเปลี่ยนแปลงใด ๆ ที่กำหนดไว้ในอัตราการว่างงาน ในช่วงต้นทศวรรษที่ 1960, ประธานาธิบดีเคนเนดีของสภาที่ปรึกษาเศรษฐกิจ (CEA) ระบุว่าร้อยละ 4 เป็นประมาณการที่ดีที่สุดเต็มเวลาอัตราการว่างงานของสหรัฐ อัตราที่อยู่บนพื้นฐานของข้อมูลที่เก็บรวบรวมในช่วงระยะเวลาตั้งแต่กลางเดือน 1955 ถึงกลางปี ​​1957 เมื่ออัตราการว่างงานของสหรัฐมีความผันผวนทั่วเฉลี่ยร้อยละ 4.1 และดัชนีราคาผู้บริโภคสูงขึ้นในอัตราเฉลี่ยร้อยละ 2.5 ต่อปี แม้ว่าอัตราการว่างงานร้อยละ 4 ของสหรัฐอาจได้รับสอดคล้องกับอัตราที่ต่ำที่ยอมรับของอัตราเงินเฟ้อในช่วงกลางทศวรรษ 1950 โดยปี 1960 เรื่องนี้ได้กลายเป็นหนี้สงสัยจะสูญเพิ่มขึ้นเรื่อย ๆ ประสบการณ์ของเราตั้งแต่นั้นมาได้รับการดังกล่าวว่าผู้ที่ยอมรับความหมายจารีตประเพณีของเต็มเวลาอัตราการว่างงานของสหรัฐในขณะนี้พิจารณาร้อยละ 4.5 เป็นอัตราที่ดีที่สุดภายใต้สถานการณ์ที่มีอยู่. เหตุผลหลักสำหรับการปรับเพิ่มขึ้นนี้ในแบบเต็มเวลาการว่างงานของสหรัฐ อัตราการเปลี่ยนแปลงองค์ประกอบของแรงงาน ในฐานะที่เป็นกำลังแรงงานประกอบด้วยกลายเป็นมากขึ้นของผู้สูงอายุและหญิงจำนวนคนงานได้เพิ่มขึ้น ในทำนองเดียวกันจำนวนคนงานที่มีสิทธิ์ในการเก็บรวบรวมผลประโยชน์ที่ได้เพิ่มขึ้น ในขอบเขตที่การเปลี่ยนแปลงเหล่านี้ได้เพิ่มขึ้นอัตราการเลิกจ้างโดยไม่สมัครใจและความสมัครใจและความยาวเฉลี่ยของผู้ว่างงานครั้งที่ใช้จ่ายที่มองหางานที่อัตราการว่างงานเต็มเวลาได้เพิ่มขึ้น

ผลลัพธ์ (ไทย) 3:

ไม่สามารถกำหนดอัตราการว่างงานเต็มเวลาที่มีความแม่นยำมาก สิ่งหนึ่งที่แน่นอนคือ มันไม่สามารถเป็นศูนย์หรือใกล้ศูนย์ อัตราการว่างงานที่ศูนย์จะหมายถึงที่ไม่มีใครเคยเข้าไป หรือจะป้อนแรงงาน ที่ไม่มีใครเคยลาออกจากงานหรือถูกเลิกจ้าง และสำหรับรายใหม่ หรือเป็นผู้เข้าประกวด , กระบวนการของการค้นหาสำหรับงานเปลืองเวลาไม่ นอกจากนี้การจ้างงานเต็มเวลาไม่สามารถกําหนดเป็นความเสมอภาคระหว่างจํานวนผู้ว่างงาน และจำนวนงานอั . โดยความหมายนี้ อัตราการว่างงานเกือบใด ๆ ที่อาจจะสอดคล้องกับอัตราการจ้างงานเต็มเวลา

ความหมายจารีตประเพณีของเต็ม .อัตราการว่างงานมีอัตราการว่างงานต่ำสุดที่สามารถบรรลุได้โดยไม่ต้องเป็นผลในการเร่งอัตราเงินเฟ้อให้อยู่ภาคเอกชน อย่างไรก็ตาม ไม่มีใครสามารถมั่นใจได้ว่าอัตราการว่างงาน ตามความหมายนี้เพราะมันเป็นไปไม่ได้ที่จะคาดการณ์ว่าวิธีการที่ดีในการเปลี่ยนอัตราเงินเฟ้อพื้นฐานจะเกี่ยวข้องกับการเปลี่ยนแปลงใด ๆในอัตราการว่างงาน ในช่วงต้นทศวรรษที่ 1960 , สภาที่ปรึกษาเศรษฐกิจของประธานาธิบดีเคนเนดี ( CEA ) ระบุว่า ร้อยละ 4 เป็นประมาณการที่ดีที่สุดของประจำสหรัฐฯ อัตราการว่างงานที่เท่ากัน ขึ้นอยู่กับข้อมูลที่รวบรวมในช่วง mid-1955 เพื่อ mid-1957 เมื่ออัตราการว่างงานสหรัฐผันผวนรอบเฉลี่ยร้อยละ 4.1 และดัชนีราคาผู้บริโภคขั้นสูงที่อัตราเฉลี่ยร้อยละ 2.5 ต่อปี แม้ว่า 4-percent อัตราการว่างงานสหรัฐอาจจะสอดคล้องกับการยอมรับของอัตราเงินเฟ้อต่ำใน -โดย 1960 ข้อเสนอนี้ได้กลายเป็นที่น่าสงสัยมากขึ้น ประสบการณ์ของเราตั้งแต่นั้นมาได้รับเช่นว่าคนที่ยอมรับคำนิยามตามธรรมเนียมของเต็มเวลา อัตราการว่างงานสหรัฐตอนนี้พิจารณา 4.5 เปอร์เซ็นต์มีอัตราที่เหมาะสมภายใต้สถานการณ์ที่มีอยู่ .

เหตุผลหลักสำหรับการปรับสูงขึ้นในสหรัฐอเมริกาประจำอัตราการว่างงาน คือ การเปลี่ยนแปลงองค์ประกอบของแรงงาน เป็นแรงงานจะขึ้นประกอบด้วยคนแก่และผู้หญิง จำนวนแรงงานที่เพิ่มขึ้น ส่วนจำนวนคนตอนนี้ มีสิทธิ์ที่จะเก็บผลประโยชน์เพิ่มขึ้นในขอบเขตที่การเปลี่ยนแปลงเหล่านี้มีเพิ่มขึ้นและอัตราการเลิกจ้างโดยสมัครใจโดยไม่สมัครใจและความยาวเฉลี่ยของเวลาที่ใช้ คนตกงานมองหางานแบบเต็มเวลา , อัตราการว่างงานได้เพิ่มขึ้น