Figure 2c shows the application of

Figure 2c shows the application of SCAETE and security type contracts to the code slice of Figure 1c. Strict contextual
escaping of the template in (9) disallows use of the noAutoescape directive. Simply removing it, however,
would enable the automatic escaping of this value, which is in this case undesired. Instead, we change the aboutHtml
field of the profile object to have SafeHtml type, which is exempt from automatic escaping. The use of this type is threaded through the system (indicated by the color green), across RPCs all the way to the value’s origin in back-end code (12’).

ผลลัพธ์ (ไทย) 1:

C ในรูปที่ 2 แสดงการประยุกต์ใช้ SCAETE และชนิดความปลอดภัยสัญญากับชิ้นรหัสของรูปที่ 1 c เข้มงวดตามบริบทหลบหนีของแบบใน (9) ไม่อนุญาตให้ใช้คำสั่ง noAutoescape เพียงแค่เอา อย่างไรก็ตามจะให้หนีโดยอัตโนมัติของค่านี้ ซึ่งในกรณีนี้ไม่ แทน เราเปลี่ยน aboutHtmlฟิลด์ของวัตถุโปรไฟล์จะมีชนิดของ SafeHtml ซึ่งได้รับยกเว้นจากการหลบหนีโดยอัตโนมัติ ใช้ชนิดนี้เป็นเธรดผ่านระบบ (ตามสีเขียว), ข้าม Rpc ทั้งวิธีการกำเนิดของค่าในส่วนรหัส (12')

ผลลัพธ์ (ไทย) 2:

2c รูปแสดงให้เห็นถึงการประยุกต์ใช้ SCAETE และสัญญาชนิดความปลอดภัยให้กับชิ้นรหัสของรูป 1c เข้มงวดบริบท
หนีของแม่แบบใน (9) ไม่อนุญาตให้ใช้คำสั่ง noAutoescape เพียงแค่ถอดมันออกมา แต่
จะช่วยให้หนีอัตโนมัติของค่านี้ซึ่งอยู่ในกรณีนี้ที่ไม่พึงประสงค์ แต่เราเปลี่ยน aboutHtml
ข้อมูลรายละเอียดของวัตถุที่จะมีชนิด SafeHtml ซึ่งได้รับการยกเว้นจากการหลบหนีโดยอัตโนมัติ การใช้งานประเภทนี้เป็นเกลียวผ่านระบบ (แสดงโดยสีเขียว) ข้าม RPCs ตลอดทางที่มาของค่าในรหัสกลับสิ้น (12)

ผลลัพธ์ (ไทย) 3:

รูปที่ 2 แสดงการใช้ scaete และความปลอดภัยประเภทสัญญารหัสชิ้นรูป 1C เข้มงวดในบริบท
หนีของแม่แบบใน ( 9 ) ไม่อนุญาตให้ใช้ของ noautoescape Directive เพียงแค่การลบมัน แต่จะให้หนี
อัตโนมัติมูลค่านี้ ซึ่งในกรณีนี้ที่ไม่พึงปรารถนา แทน , เราเปลี่ยน abouthtml
สนามของวัตถุที่จะมีประเภท safehtml โปรไฟล์ ,ซึ่งได้รับการยกเว้นจากอัตโนมัติหลบหนี การใช้ชนิดนี้คือเกลียวที่ผ่านระบบ ( แสดงด้วยสีเขียว ข้าม rpcs ตลอดทางถึงคุณค่าของต้นกำเนิดในส่วนหลังรหัส ( 12 )