Mental retardationMental retardatio

Mental retardation
Mental retardation involves deficits in a wide range of skills and is defined as significantly sub average intellectual functioning. A child’s level of intellectual functioning can be assessed be assessed by standardized tests, usually referred to as IQ tests, ( see Chapter3). In addition to low test scores, a diagnosis of mental retardation requires that a child show deficits relative to his or her age group in at least two of the following skill areas: communication, self-care, home living, social or interpersonal skills, use of community resources ( such as riding a bus),self-direction,academic skills,work,leisure,health,and personal safety (see the DSM-IV-TR criteria in Table 10.6). Mental retardation is listed on Axis II of the DSM-IV-TR because it is assumed to be lifelong.
The DSM-IV-TR divides mental retardation into four levels: mind,moderate,sever,and profound. Children with mind mental retardation can feed and dress themselves with minimal , may or may not have average motor skills, and can learn to talk and write in simple terms. They can navigate their own neighborhoops well, although they may not be able to venture farther without halp. If they receive training that addresses their specific deficits, they can achieve a high school education and become self-sufficient. As adults, they can shop for specific items and cook simple meals for themselves. They may be employed in unskilled or semiskilled jobs. Their scores on IQ tests tend to be between about 50 and 70.
Children with moderate mental retardation typically have significant delays in language development, such as using only 4 to 10 words by age 3. They may be physically clumsy and have some trouble dressing and feeding themselves. They typically do not achieve beyond the second-grade level in academic skills but , with special , can acquire simple vocational skills. As adults, They may not be able to travel alone or shop or cook for themselves. Their scores on IQ tests tend to be between about 35 and 50
Children with sever mental retardation have very limited vocabularies and speak in two-orthree-word sentences. They may have significant deficits in motor development and may play with toys inappropriately ( e.g., banging two dolls to gether). As adults, they can feed themselves with a spoon and dress themselves if the clothing is not complicated, with many buttons or zippers. They cannot travel alone for any distance and cannot shop or cook for themselves. Some may be able to learn some unskilled manual labor, but many are not. They IQ scores tend to be between 20 and 35.
Children and adults with profound mental retardation require full-time custodial care. They cannot dress themselves completely. They may be able to use a spoon. They may achieve vocabularies of 300 to 400 words as adults. Many persons with profound mental retardation suffer from frequent illnesses, and their life expectancy is shorter than normal. Their IQ scores tens to be under 20.
In the DSM-5 , mental retardation will be renamed intellectual disability, in line with international usage. The new criteria will move the diagnosis away from a reference to IQ scores and instead describe intellectual deficits in terms of what is expected for the person’s age and cultural group. The criteria will also highlight the importance of adaptive functioning, such as social, practical, and thinking skills, specifying that the person must show deficits in at least two of these areas beginning in childhood or adolescence ( American Psychiatric Association,2010).

ผลลัพธ์ (ไทย) 1:

ปัญญาปัญญาเกี่ยวข้องกับการขาดดุลในทักษะที่หลากหลาย และถูกกำหนดให้เป็นอย่างมีนัยสำคัญย่อยเฉลี่ยปัญญาทำงาน สามารถประเมินระดับของเด็กทำงานทางปัญญาได้รับการประเมิน โดยการทดสอบมาตรฐาน จะเรียกว่าทดสอบ IQ, (ดู Chapter3) นอกจากคะแนนทดสอบต่ำ การวินิจฉัยปัญญาต้องให้เด็กแสดงขาดดุลสัมพันธ์กับกลุ่มอายุของเขา หรือเธอในน้อยสองด้านทักษะ: สื่อสาร สุขภาพ บ้านอยู่อาศัย ทักษะทางสังคม หรือมนุษยสัมพันธ์ ใช้ทรัพยากรในชุมชน (เช่นขี่รถบัส), ทิศ ทางตนเอง ทักษะทางวิชาการ งาน พักผ่อน สุขภาพ และความปลอดภัยส่วนบุคคล (ดูเงื่อนไข DSM-IV-TR ใน 10.6 ตาราง) ปัญญาจะแสดงบนแกน II ของ DSM-IV-TR เพราะจะถือว่าเป็นรอง DSM-IV-TR แบ่งปัญญาออกเป็น 4 ระดับ: จิตใจ บรรเทา ตัด และลึกซึ้ง เด็กที่ มีปัญญาจิตใจสามารถเลี้ยงแต่งเอง มีน้อย อาจ หรืออาจไม่มีทักษะเฉลี่ยมอเตอร์ และสามารถเรียนรู้การพูด และเขียนคำง่าย ๆ ได้ พวกเขาสามารถนำตน neighborhoops ดี แม้ว่าพวกเขาอาจไม่สามารถอยูไกลออกไป โดย halp ถ้าพวกเขาได้รับการฝึกอบรมที่อยู่ขาดดุลเฉพาะของพวกเขา พวกเขาสามารถบรรลุศึกษามัธยม และกลายเป็นบาง เป็นผู้ใหญ่ พวกเขาสามารถซื้อสินค้าสำหรับสินค้าเฉพาะ และปรุงอาหารอย่างง่ายด้วยตนเอง พวกเขาอาจทำงานในงานที่ไร้ฝีมือ หรือ semiskilled คะแนนการทดสอบ IQ มักจะ อยู่ระหว่างประมาณ 50 และ 70 เด็กที่ มีปัญญาปานกลางมักจะมีความล่าช้าที่สำคัญในการพัฒนาภาษา การใช้คำเฉพาะ 4 ถึง 10 ตามอายุ 3 พวกเขาอาจจะจริงป้ำ ๆ และมีปัญหาบางอย่างในการแต่งตัว และให้อาหารตัวเอง พวกเขามักจะไม่ให้เกินระดับชั้นประถมศึกษาปีที่สองในวิชาการทักษะ ได้ พิเศษ สามารถได้รับทักษะวิชาชีพอย่าง เป็นผู้ใหญ่ พวกเขาไม่ได้ต้องเดินทางคนเดียว หรือร้านอาหารเอง คะแนนการทดสอบ IQ มักจะ อยู่ระหว่างประมาณ 35 และ 50 เด็กตัดปัญญาอย่างจำกัด vocabularies และพูดประโยคสองคำ orthree พวกเขาอาจขาดดุลอย่างมีนัยสำคัญในการพัฒนารถยนต์ และอาจเล่นกับของเล่นสม (เช่น พวกตุ๊กตาสองการ gether) เป็นผู้ใหญ่ พวกเขาสามารถเลี้ยงตัวเอง ด้วยการช้อน และแต่งตัวตัวเองว่าเสื้อผ้าที่ไม่ซับซ้อน มีหลายปุ่มหรือรูดซิป จะไม่สามารถเดินทางไกลคนเดียว และไม่สามารถซื้อ หรือปรุงอาหารด้วยตนเอง บางคนอาจเรียนแรงงานบาง แต่ส่วนมากไม่ พวกเขา IQ คะแนนมักจะ อยู่ระหว่าง 20 ถึง 35 เด็กและผู้ใหญ่ มีปัญญาลึกซึ้งต้อง custodial ดูแลเต็มเวลา พวกเขาไม่แต่งกันเองทั้งหมด พวกเขาอาจใช้การช้อน พวกเขาอาจบรรลุ vocabularies 300-400 คำเป็นผู้ใหญ่ หลายท่าน มีปัญญาลึกซึ้งทรมานจากการเจ็บป่วยบ่อย ๆ และอายุขัยของพวกเขาจะสั้นกว่าปกติ IQ ของคะแนนสิบจะ ต่ำกว่า 20 ใน DSM-5 ปัญญาจะสามารถเปลี่ยนชื่อพิการทางปัญญา กับการใช้งานที่ต่างประเทศ เกณฑ์ใหม่จะย้ายการวินิจฉัยจากการอ้างอิงถึงคะแนน IQ และอธิบายแทน การขาดดุลทางปัญญาในสิ่งคาดว่าอายุของบุคคลและกลุ่มวัฒนธรรม เงื่อนไขจะยังเน้นความสำคัญของการปรับให้เหมาะสมทำงาน เช่นสังคม การปฏิบัติ ทักษะ และ การคิด ระบุว่า บุคคลต้องแสดงขาดดุลน้อยสองด้านเริ่มต้นในวัยเด็กหรือวัยรุ่น (จิตแพทย์สมาคมอเมริกัน 2010)

ผลลัพธ์ (ไทย) 2:

ปัญญาอ่อน
ปัญญาอ่อนเกี่ยวข้องกับการขาดดุลในหลากหลายของทักษะและถูกกำหนดให้เป็นย่อยอย่างมีนัยสำคัญการทำงานทางปัญญาโดยเฉลี่ย ระดับของเด็กในการทำงานทางปัญญาสามารถประเมินได้รับการประเมินโดยการทดสอบมาตรฐานมักจะเรียกว่าการทดสอบไอคิว (ดูบทที่ 3) นอกเหนือจากคะแนนสอบต่ำวินิจฉัยปัญญาอ่อนกำหนดว่าการขาดดุลการแสดงของเด็กเมื่อเทียบกับกลุ่มอายุของเขาหรือเธออย่างน้อยสองในพื้นที่ทักษะต่อไปนี้: การสื่อสาร, การดูแลตนเองที่อาศัยอยู่ในบ้านของทักษะทางสังคมหรือบุคคลใช้ ของทรัพยากรของชุมชน (เช่นขี่รถ), การกำกับตนเองทักษะทางวิชาการ, การทำงาน, สันทนาการ, สุขภาพและความปลอดภัยส่วนบุคคล (ดูเกณฑ์ DSM-IV-TR ในตารางที่ 10.6) ปัญญาอ่อนเป็น บริษัท จดทะเบียนในแกนสองของ DSM-IV-TR เพราะมันจะถือว่าเป็นตลอดชีวิต
DSM-IV-TR แบ่งปัญญาอ่อนเป็นสี่ระดับคือจิตใจปานกลางตัดและลึกซึ้ง เด็กที่มีความคิดปัญญาอ่อนสามารถเลี้ยงตัวเองและแต่งตัวด้วยน้อยที่สุดอาจจะหรืออาจไม่ได้มีทักษะยนต์เฉลี่ยและสามารถเรียนรู้ที่จะพูดและเขียนในแง่ง่าย พวกเขาสามารถนำทาง neighborhoops ของตัวเองได้ดีแม้ว่าพวกเขาอาจจะไม่สามารถที่จะร่วมไกลออกไปโดยไม่ต้อง Halp ถ้าพวกเขาได้รับการฝึกอบรมที่เน้นการขาดดุลที่เฉพาะเจาะจงของพวกเขาพวกเขาสามารถบรรลุการศึกษาระดับมัธยมปลายและกลายเป็นตัวเองเพียงพอ เป็นผู้ใหญ่ที่พวกเขาสามารถซื้อสินค้าสำหรับรายการที่เฉพาะเจาะจงและการปรุงอาหารง่ายสำหรับตัวเอง พวกเขาอาจจะใช้ในงานไร้ฝีมือหรือ semiskilled คะแนนของพวกเขาในการทดสอบไอคิวมีแนวโน้มที่จะอยู่ระหว่างประมาณ 50 และ 70
เด็กที่มีความพิการทางสมองในระดับปานกลางมักจะมีความล่าช้าที่สำคัญในการพัฒนาภาษาเช่นการใช้เพียง 4 ถึง 10 คำโดยอายุ 3 พวกเขาอาจจะเงอะงะทางร่างกายและมีปัญหาบางอย่างทั้งการตกแต่งและ เลี้ยงลูกด้วยนมตัวเอง พวกเขามักจะไม่ประสบความสำเร็จเกินกว่าระดับชั้นประถมศึกษาปีที่สองในทักษะทางวิชาการ แต่มีพิเศษสามารถเรียนรู้ทักษะอาชีพง่าย เป็นผู้ใหญ่พวกเขาอาจจะไม่สามารถที่จะเดินทางคนเดียวหรือร้านค้าหรือปรุงอาหารสำหรับตัวเอง คะแนนของพวกเขาในการทดสอบไอคิวมีแนวโน้มที่จะอยู่ระหว่างประมาณ 35 และ 50
ตัดเด็กที่มีปัญญาอ่อนมีคำศัพท์ที่ จำกัด มากและพูดในประโยคที่สอง orthree คำ พวกเขาอาจมีการขาดดุลอย่างมีนัยสำคัญในการพัฒนายานยนต์และอาจจะเล่นกับของเล่นที่ไม่เหมาะสม (เช่นการต่อสู้สองตุ๊กตาเพื่อ gether) เป็นผู้ใหญ่ที่พวกเขาสามารถเลี้ยงตัวเองด้วยช้อนและแต่งตัวตัวเองถ้าเสื้อผ้าที่ไม่ซับซ้อนมีปุ่มมากหรือรูดซิป พวกเขาไม่สามารถเดินทางคนเดียวสำหรับระยะทางใด ๆ และไม่สามารถซื้อหรือปรุงอาหารสำหรับตัวเอง บางคนอาจจะสามารถที่จะเรียนรู้บางใช้แรงงานไร้ฝีมือ แต่หลายคนไม่ได้ พวกเขาคะแนนไอคิวมีแนวโน้มที่จะอยู่ระหว่าง 20 และ 35
เด็กและผู้ใหญ่ที่มีปัญญาอ่อนลึกซึ้งจำเป็นต้องเต็มเวลาดูแลคุ้มครอง พวกเขาไม่สามารถแต่งตัวตัวเองอย่างสมบูรณ์ พวกเขาอาจจะสามารถที่จะใช้ช้อน พวกเขาอาจบรรลุคำศัพท์ 300 ถึง 400 คำเป็นผู้ใหญ่ หลายคนปัญญาอ่อนลึกซึ้งทุกข์ทรมานจากความเจ็บป่วยบ่อยและอายุขัยของพวกเขาคือสั้นกว่าปกติ ของพวกเขานับคะแนนไอคิวจะอยู่ภายใต้ 20
ในความพิการทางปัญญา DSM-5, ปัญญาอ่อนจะถูกเปลี่ยนชื่อให้สอดคล้องกับการใช้งานที่ต่างประเทศ เกณฑ์ใหม่จะย้ายการวินิจฉัยออกไปจากการอ้างอิงถึงคะแนนไอคิวและแทนที่จะอธิบายการขาดดุลทางปัญญาในแง่ของสิ่งที่คาดหวังสำหรับอายุของบุคคลและกลุ่มวัฒนธรรม เกณฑ์นี้ยังจะเน้นความสำคัญของการทำงานการปรับตัวเช่นสังคมในทางปฏิบัติและทักษะการคิดที่ระบุว่าคนที่จะต้องแสดงการขาดดุลอย่างน้อยสองในพื้นที่เหล่านี้เริ่มต้นในวัยเด็กหรือวัยรุ่น (สมาคมจิตวิทยาอเมริกัน 2010)

ผลลัพธ์ (ไทย) 3:

ปัญญาอ่อน
ปัญญาอ่อนเกี่ยวข้องกับขาดดุลในช่วงกว้างของทักษะและหมายถึงทํางานอย่าง ซับสติปัญญาเฉลี่ย เป็นระดับของเด็กสามารถประเมินการทำงานด้านการประเมินด้วยแบบทดสอบมาตรฐานมักจะเรียกว่าการทดสอบไอคิว ( ฝึกสอน ) นอกจากคะแนนสอบต่ำการวินิจฉัยภาวะปัญญาอ่อนให้เด็กแสดงการสัมพันธ์กับ ของเขาหรือเธอ กลุ่มอายุอย่างน้อยสองของทักษะต่อไปนี้พื้นที่ : การสื่อสาร , การดูแลตนเอง , บ้านอยู่อาศัย , ทักษะทางสังคม หรือความสัมพันธ์ระหว่างบุคคล การใช้ทรัพยากรของชุมชน ( เช่น ขึ้นรถเมล์ ) , ทิศทาง , ตนเองทักษะด้านวิชาการ , งาน , พักผ่อน , สุขภาพ ส่วนตัวและความปลอดภัย ( ดูถ้าจะวัดเกณฑ์ตาราง 10.6 )ปัญญาอ่อนอยู่บนแกน II ของถ้าจะวัด เพราะมันอาจเป็นตลอดชีวิต ถ้าจะวัดปัญญาอ่อน
แบ่งเป็นสี่ระดับ : จิตใจ , ปานกลาง , ตัด , และลึกซึ้ง เด็กที่มีความคิดปัญญาอ่อนสามารถให้อาหารและเสื้อผ้าตัวเองด้วยน้อยที่สุด อาจจะหรืออาจจะไม่ได้มีทักษะมอเตอร์ เฉลี่ย และสามารถเรียนรู้ที่จะพูดและเขียนในแง่ง่ายๆพวกเขาสามารถนำทาง neighborhoops ของตัวเองให้ดี ถึงแม้ว่าพวกเขาอาจจะไม่สามารถที่จะร่วมออกไปโดยไม่อาจ . ถ้าพวกเขาได้รับการฝึกอบรมที่เน้นการเฉพาะของพวกเขา พวกเขาสามารถบรรลุการศึกษาโรงเรียนมัธยมและเป็นแบบพอเพียง เป็นผู้ใหญ่ พวกเขาสามารถเลือกซื้อสินค้าสำหรับรายการที่เฉพาะเจาะจงและปรุงอาหารอย่างง่ายด้วยตนเอง พวกเขาอาจจะใช้ในงานที่ไร้ฝีมือ หรือ semiskilled .