Practising Buddhism means devoting

Practising Buddhism means devoting your life to counteract suffering… in a nutshell. This also makes it predestined to use the tools it offers to help deal with the devastating emotional consequences of a break-up or divorce.

We non-Buddhists should be open to every form of teaching that gives us relief, and which makes us grow as a person. This goes for all the philosophies available out there.

We shouldn’t be bound to the tenets of our own tradition and education, but use our good judgment to decide which other ones would also make a good fit in our lives.

Having said that, I recently read an interesting article about how to use the teachings of Buddha to soothe our pain of a divorce or break-up.

The title immediately caught my interest, but does it deliver what it promises?

“Buddhist teachings are not a religion, they are a science of the mind.” —The Dalai Lama

The main message of the article is that the teachings of the young Buddha, who escaped the “perfect world surrounding” of his father, and clashed into a world of suffering, is the perfect help for someone who is going through a divorce. Essentially, it is a similar experience to leaving the safe refuge of a marriage.

While going through the pain of this experience is inevitable, and can often act as a catalyst for personal growth, the suffering is not.

Therefore the article offers six different teachings that should help you to reduce unnecessary suffering.

What made the most sense to me was the concept of “Attachment” and “Mindfulness”.

ผลลัพธ์ (ไทย) 1:

ปฏิบัติพระพุทธศาสนาหมายถึง devoting ชีวิตของคุณให้ถอนทุกข์ในหมู่... นี้ยังทำให้มัน predestined การใช้เครื่องมือที่มีเพื่อช่วยจัดการกับผลกระทบทางอารมณ์เรื่องแบ่งสายหรือหย่าร้างเราไม่ใช่พุทธควรเปิดทุกรูปแบบการสอนที่ทำให้เราบรรเทา และซึ่งทำให้เราเติบโตเป็นคน นี้สำหรับปรัชญาทั้งหมดพร้อมใช้งานต่อไปค่ะเราไม่ควรผูก tenets ประเพณีและการศึกษาของเราเอง แต่ใช้วิจารณญาณที่ดีของเราในการตัดสินใจซึ่งคนอื่น ๆ จะทำให้พอดีในชีวิตของเราต้องบอกว่า ฉันเพิ่งอ่านบทความน่าสนใจเกี่ยวกับวิธีการใช้คำสอนของพระพุทธเจ้าเพื่อบรรเทาความเจ็บปวดของเราหย่าหรือแบ่งสายชื่อทันทีติดสนใจของฉัน แต่ไม่มันส่งสัญญาอะไร"คำสอนของพุทธไม่ใช่ศาสนา เป็นวิทยาศาสตร์ของจิตใจ" โดยเดอะ Dalai Lamaข้อความหลักของบทความคือ คำสอนของพระหนุ่ม คนหลบหนีไป "โลกที่สมบูรณ์แบบล้อมรอบ" ของบิดาของเขา และกระทบเข้าสู่โลกของความทุกข์ วิธีใช้เหมาะสำหรับผู้ที่ผ่านการหย่าร้าง หลัก เป็นประสบการณ์คล้ายกับออกจากกำบังที่ปลอดภัยการสมรสในขณะที่จะผ่านความเจ็บปวดของประสบการณ์นี้จะหลีกเลี่ยงไม่ได้ และสามารถทำหน้าที่เป็น catalyst ในการเจริญเติบโตส่วนบุคคลมักจะ ทุกข์ไม่ได้ดังนั้น บทความมีหกคำสอนต่าง ๆ ที่จะช่วยให้คุณลดทุกข์ไม่จำเป็นสิ่งที่ทำอย่างผมได้แนวคิดของ "แนบ" และ "สติ"

ผลลัพธ์ (ไทย) 2:

พุทธศาสนาหมายถึงการฝึกพลีชีวิตของคุณที่จะรับมือกับความทุกข์ทรมาน ... สั้น นอกจากนี้ยังทำให้มันกำหนดไว้ที่จะใช้เครื่องมือที่จะนำเสนอที่จะช่วยจัดการกับผลกระทบทางอารมณ์กระทบของการทำลายหรือการหย่าร้าง. เราที่ไม่ใช่ชาวพุทธควรจะเปิดให้รูปแบบของการเรียนการสอนทุกคนที่ทำให้เราโล่งใจและที่ทำให้เราเติบโตเป็น บุคคลหนึ่ง นี้ไปสำหรับปรัชญาทั้งหมดที่มีอยู่ออกมี. เราไม่ควรจะผูกพันกับความเชื่อของประเพณีของเราเองและการศึกษา แต่ใช้วิจารณญาณที่ดีของเราที่จะตัดสินใจว่าคนอื่น ๆ ก็จะทำให้เป็นแบบที่ดีในชีวิตของเรา. ต้องบอกว่า ฉันเพิ่งอ่านบทความที่น่าสนใจเกี่ยวกับการใช้คำสอนของพระพุทธเจ้าเพื่อบรรเทาความเจ็บปวดของเราของการหย่าร้างหรือทำลายขึ้น. ชื่อทันทีที่จับความสนใจของฉัน แต่ไม่ได้ส่งมอบสิ่งที่สัญญา? "คำสอนของพุทธศาสนาไม่ได้ที่พวกเขา เป็นวิทยาศาสตร์ของจิตใจ. "ดาไลลามะ -The ข้อความหลักของบทความคือคำสอนของพระพุทธเจ้าหนุ่มสาวที่หนี "รอบโลกที่สมบูรณ์แบบ" ของบิดาของเขาและตัดเข้าสู่โลกของความทุกข์ทรมานเป็นที่สมบูรณ์แบบ ช่วยให้สำหรับคนที่จะผ่านการหย่าร้าง โดยพื้นฐานแล้วมันเป็นประสบการณ์ที่คล้ายกันที่จะออกจากที่หลบภัยที่ปลอดภัยของการแต่งงาน. ในขณะที่จะผ่านความเจ็บปวดจากประสบการณ์นี้คือหลีกเลี่ยงไม่ได้และมักจะสามารถทำหน้าที่เป็นตัวเร่งปฏิกิริยาสำหรับการเจริญเติบโตส่วนบุคคลความทุกข์ไม่ได้. ดังนั้นบทความมีคำสอนที่แตกต่างกันหก ที่จะช่วยให้คุณสามารถลดความทุกข์ทรมานที่ไม่จำเป็น. สิ่งที่ทำให้ความรู้สึกมากที่สุดกับผมเป็นแนวคิดของ "สิ่งที่ส่งมา" และ "สติ"

ผลลัพธ์ (ไทย) 3:

การฝึกพุทธศาสนา หมายถึง พลีชีวิตเพื่อแก้ทุกข์ . . . . . . . ในสรุป นอกจากนี้ยังทำให้มันถูกกำหนดให้ใช้เครื่องมือที่ให้บริการเพื่อช่วยจัดการกับผลกระทบทางอารมณ์รุนแรงของการเลิกกัน หรือหย่า

เราไม่ใช่ชาวพุทธควรเปิดการสอนที่ช่วยให้เราผ่อนคลายในทุกรูปแบบ และทำให้เราเติบโตเป็นบุคคลนี้ไปสำหรับปรัชญาทั้งหมดออกมี .

เราไม่ควรผูกพันกับความเชื่อของประเพณีของเราเอง และการศึกษา แต่ใช้วิจารณญาณในการตัดสินใจ ซึ่งคนอื่นก็ให้พอดีในชีวิตของเราค่ะ

มีกล่าวว่า , ฉันเพิ่งอ่านบทความที่น่าสนใจเกี่ยวกับวิธีการที่จะใช้ พระธรรมคำสอนของพระพุทธเจ้า เพื่อบรรเทาความเจ็บปวดของการหย่าหรือเลิกกัน

ชื่อเรื่อง ทันที ทำให้ผมสนใจ แต่ไม่ได้ส่งมอบสิ่งที่มันสัญญา ?

" คําสอนทางพระพุทธศาสนาไม่ใช่ศาสนา มันเป็นวิทยาศาสตร์ของจิตใจ " ดาไลลามะ

ข้อความหลักของบทความคือ คำสอนของพระพุทธเจ้า หนุ่มผู้หลบหนีที่สมบูรณ์แบบ " รอบโลก " ของบิดาและปะทะเข้าสู่โลกของความทุกข์เป็นช่วยที่สมบูรณ์แบบสำหรับคนที่จะผ่านการหย่าร้าง มันเป็นประสบการณ์ที่คล้ายกันไปหลบภัยที่ปลอดภัยของการแต่งงาน

ในขณะที่จะผ่านความเจ็บปวดของประสบการณ์นี้เป็นสิ่งที่หลีกเลี่ยงไม่ได้ และมักจะสามารถทำหน้าที่เป็นตัวเร่งปฏิกิริยาสำหรับการเจริญเติบโตส่วนบุคคล ความทุกข์ไม่ใช่

ดังนั้นบทความเสนอหกคำสอนที่แตกต่างกันจะช่วยให้คุณเพื่อลดความทุกข์ทรมานที่ไม่จำเป็น

อะไรที่ทำให้ความรู้สึกมากที่สุดสำหรับฉันคือแนวคิดของการ " ยึดติด " และ " สติ "