The American Revolution freed colon

The American Revolution freed colonists from British rule and offered the first blow in what historians have called “the age of democratic revolutions.” The American Revolution was a global event. Revolutions followed in France, then Haiti, and then South America. The American Revolution meanwhile wrought significant changes to the British Empire. Many British historians even use the Revolution as a dividing point between a “first British Empire” and a “second British Empire.” But at home, the Revolution created the United States of America.

Historians have long argued over the causes and character of the American Revolution. Was the Revolution caused by British imperial policy or by internal tensions within the colonies? Were colonists primarily motivated by ideals or by economic self-interest? Was the Revolution radical or conservative? But such questions are hardly limited to historians. From Abraham Lincoln quoting the Declaration of Independence in his “Gettysburg Address” to modern-day “Tea Party” members wearing knee breeches, the Revolution has remained at the center of American political culture. How one understands the Revolution often dictates how one defines what it means to be “American.”

The Revolution hardly ended all social and civic inequalities in the new nation, but the rhetoric of equality encapsulated in the Declaration of Independence has spanned American history. The rhetoric was used to highlight inequalities, eventually aiding the abolitionist movement of the early nineteenth century and the women’s rights movements of the 1840s and 1910s. And yet it was also used to justify secession and oppose civil rights movements. American revolutionaries broke new ground. They had to make it up as they went along. And in many ways, Americans have been doing the same ever since.

ผลลัพธ์ (ไทย) 1:

การปฏิวัติอเมริกันว่างอาณานิคมจากการปกครองของอังกฤษ และให้เป่าแรกนักประวัติศาสตร์ได้เรียกว่า "ยุคของการปฏิวัติประชาธิปไตย" การปฏิวัติอเมริกันเป็นเหตุการณ์ที่ทั่วโลก ตามการปฏิวัติใน ฝรั่งเศส แล้วเฮติ และอเมริกาใต้ การปฏิวัติอเมริกันขณะดัดเปลี่ยนแปลงที่สำคัญกับจักรวรรดิอังกฤษ นักประวัติศาสตร์ชาวอังกฤษจำนวนมากใช้การปฏิวัติเป็นจุดแบ่งระหว่างการเป็น "จักรวรรดิบริติช" และเป็น "สองจักรวรรดิอังกฤษ" แต่ที่บ้าน การปฏิวัติสร้างสหรัฐอเมริกานักประวัติศาสตร์มีโต้เถียงยาวสาเหตุและลักษณะของการปฏิวัติอเมริกัน การปฏิวัติเกิดขึ้น โดยนโยบายจักรวรรดิอังกฤษ หรือความตึงเครียดภายในภายในโคโลนี อาณานิคมได้แรงบันดาลใจเป็นหลัก โดยอุดมคติ หรือเศรษฐกิจประโยชน์ส่วนตนของเรา เป็นการปฏิวัติรุนแรง หรืออนุรักษ์นิยม แต่คำถามดังกล่าวแทบไม่จำกัดเฉพาะนักประวัติศาสตร์ จากอับราฮัมลินคอล์นอ้างประกาศเอกราชในเขาเกตตีสเบิร์กที่อยู่"สมาชิก"งานเลี้ยงน้ำชา"ทันสมัยสวมใส่ breeches เข่า การปฏิวัติยังคงเป็นศูนย์กลางของวัฒนธรรมทางการเมืองที่อเมริกา วิธีหนึ่งเข้าใจการปฏิวัติมักจะบอกวิธีหนึ่งกำหนดอะไรไม่ว่า จะเป็น "อเมริกัน"การปฏิวัติสิ้นสุดไม่เท่าเทียมกันทุกสังคม และพลเมืองในชาติใหม่แทบไม่ แต่สำนวนภาคนึ้ในคำประกาศเอกราชได้แผ่ขยายประวัติศาสตร์อเมริกัน สำนวนถูกใช้เพื่อเน้นนัด ในที่สุดช่วยการเคลื่อนไหวของผู้ของต้นคริสต์ศตวรรษที่ 19 และการเคลื่อนไหวสิทธิสตรีถึงทศวรรษที่ 1840 และ 1910s และยัง จะยังใช้การจัดชิดขอบทาง และต่อต้านการเคลื่อนไหวของสิทธิมนุษยชน ปฏิวัติอเมริกันบุกเบิก พวกเขาจะทำให้ค่าพวกเขาไปตลอด และในหลาย ๆ ชาวอเมริกันทำเหมือนกันนับตั้งแต่

ผลลัพธ์ (ไทย) 2:

การปฏิวัติอเมริกันเป็นอิสระจากการปกครองของอาณานิคมอังกฤษและเสนอขายระเบิดครั้งแรกในประวัติศาสตร์ได้สิ่งที่เรียกว่า "ยุคของการปฏิวัติประชาธิปไตย." การปฏิวัติอเมริกาเป็นเหตุการณ์ที่ทั่วโลก การปฏิวัติในฝรั่งเศสตามแล้วเฮติแล้วอเมริกาใต้ การปฏิวัติอเมริกาในขณะที่กระทำการเปลี่ยนแปลงอย่างมีนัยสำคัญกับจักรวรรดิอังกฤษ นักประวัติศาสตร์ชาวอังกฤษหลายคนได้ใช้การปฏิวัติเป็นจุดแบ่งระหว่าง "ครั้งแรกจักรวรรดิอังกฤษ" และ "สองจักรวรรดิอังกฤษ." แต่ที่บ้าน, การปฏิวัติสร้างสหรัฐอเมริกา

ประวัติศาสตร์ได้ถกเถียงกันอยู่นานกว่าสาเหตุและลักษณะของการปฏิวัติอเมริกา ได้รับการปฏิวัติที่เกิดจากนโยบายของจักรวรรดิอังกฤษหรือความตึงเครียดภายในอาณานิคม? ได้รับแรงบันดาลใจอาณานิคมเป็นหลักโดยอุดมการณ์หรือเศรษฐกิจประโยชน์ของตนเอง? คือการปฏิวัติที่รุนแรงหรืออนุรักษ์นิยม? แต่คำถามดังกล่าวแทบจะไม่ จำกัด เฉพาะประวัติศาสตร์ จากอับราฮัมลินคอล์น quoting ประกาศอิสรภาพใน "อยู่ Gettysburg" เพื่อวันใหม่ "งานเลี้ยงน้ำชา" สมาชิกสวมกางเกงเข่าการปฏิวัติยังคงอยู่ในศูนย์กลางของวัฒนธรรมทางการเมืองอเมริกัน

วิธีการหนึ่งที่เข้าใจการปฏิวัติมักจะสั่งการวิธีการหนึ่งที่กำหนดสิ่งที่มันหมายถึงการเป็น "อเมริกัน." การปฏิวัติแทบจะไม่สิ้นสุดความไม่เท่าเทียมกันทางสังคมและเทศบาลทั้งหมดในประเทศใหม่ แต่สำนวนของความเท่าเทียมกันห่อหุ้มในการประกาศอิสรภาพได้ทอดประวัติศาสตร์อเมริกัน สำนวนถูกนำมาใช้เพื่อเน้นความไม่เท่าเทียมกัน ในที่สุดการช่วยเหลือทาสเคลื่อนไหวในช่วงต้นศตวรรษที่สิบเก้าและการเคลื่อนไหวสิทธิสตรีของยุค 1840 และ 1910s และมันยังถูกใช้ในการแสดงให้เห็นถึงการแยกตัวออกและไม่เห็นด้วยกับการเคลื่อนไหวสิทธิมนุษยชน ปฎิวัติอเมริกันยากจนพื้นใหม่ พวกเขาจะต้องสร้างมันขึ้นมาขณะที่พวกเขาเดินไป และในหลาย ๆ ชาวอเมริกันได้รับการทำเหมือนกันนับตั้งแต่