Unlike the previous example of rota

Unlike the previous example of rotate() (see Section 11.8.2, page 584), here a set is used instead of a vector. This has two consequences: 1. You must use advance() (see Section 9.3.1, page 441) or next() (see Section 9.3.2, page 443) to change the value of the iterator, because bidirectional iterators do not provide operator +. 2. You should use the find() member function instead of the find() algorithm, because the for- mer has better performance. The program has the following output: 1 2 3 4 5 6 7 8 9 2 3 4 5 6 7 8 9 1 8 9 1 2 3 4 5 6 7 4 5 6 7 8 9 1 2 3

ผลลัพธ์ (ไทย) 1:

ซึ่งแตกต่างจากตัวอย่างของ rotate() (ดูส่วน 11.8.2 หน้า 584), ที่นี่มีชุดใช้แทนเวกเตอร์ มีผล 2: 1 คุณต้องใช้ advance() (ดูหัวข้อ 9.3.1 หน้า 441) หรือ next() (ดูหัวข้อ 9.3.2 หน้า 443) การเปลี่ยนค่าของตัวทำซ้ำ เพราะ iterators แบบสองทิศทางให้ดำเนินการ 2 คุณควรใช้ฟังก์ชันสมาชิก find() แทนอัลกอริทึม find() ที่สำหรับแมร์มีประสิทธิภาพ โปรแกรมมีผลลัพธ์ต่อไปนี้: 1 2 3 4 5 6 7 8 9 2 3 4 5 6 7 8 9 1 8 9 1 2 3 4 5 6 7 4 5 6 7 8 9 1 2 3

ผลลัพธ์ (ไทย) 2:

ซึ่งแตกต่างจากตัวอย่างก่อนหน้าของการหมุน () (ดูมาตรา 11.8.2, หน้า 584) ที่นี่ชุดถูกนำมาใช้แทนเวกเตอร์ นี้มีสองผลกระทบ: 1 คุณต้องใช้ล่วงหน้า () (ดูมาตรา 9.3.1, หน้า 441) หรือถัดไป () (ดูมาตรา 9.3.2, หน้า 443) เพื่อเปลี่ยนค่าของทำซ้ำเพราะ iterators แบบสองทิศทางไม่ได้ให้ดำเนินการ + 2 คุณควรใช้หา () ฟังก์ชันสมาชิกแทนการหา () ขั้นตอนวิธีการเพราะสำหรับทะเลมีประสิทธิภาพที่ดีขึ้น โปรแกรมมีผลลัพธ์ต่อไปนี้: 1 2 3 4 5 6 7 8 9 2 3 4 5 6 7 8 9 1 8 9 1 2 3 4 5 6 7 4 5 6 7 8 9 1 2 3

ผลลัพธ์ (ไทย) 3:

ซึ่งแตกต่างจากตัวอย่างก่อนหน้านี้ของ rotate() ( ดูมาตรา 11.8.2 หน้า 584 ) มาใช้แทนชุดของเวกเตอร์ นี้ มี 2 ผล 1 . คุณต้องใช้ advance() ( ดูมาตรา 9.3.1 หน้า 441 ) หรือ next() ( ดูมาตรา 9.3.2 หน้า 443 ) เพื่อเปลี่ยนค่าของการทำซ้ำ เพราะทิศทาง iterators ไม่ได้ให้ผู้ประกอบการ 2 .คุณควรใช้ find() สมาชิกฟังก์ชันแทนการ find() ขั้นตอนวิธี เพราะสำหรับแมร์ได้ประสิทธิภาพที่ดีขึ้น โปรแกรมมีการแสดงผลดังต่อไปนี้ : 1 2 3 4 5 6 7 8 9 2 3 4 5 6 7 8 9 1 8 9 1 2 3 4 5 6 7 4 5 6 7 8 9 1 2 3