We made fluorescence, electron para

We made fluorescence, electron paramagnetic resonance (EPR), electrophoretic mobility, and ionizing electrode measurements to study the effect of the monovalent lipid phosphatidylinositol (PI) and the trivalent lipid phosphatidylinositol 4,5-bisphosphate (PIP2) on the electrostatic potential adjacent to bilayer membranes. When the membranes were formed from mixtures of PI and the zwitterionic lipid phosphatidylcholine (PC), the Gouy-Chapman-Stern (GCS) theory described adequately the dependence of potential on distance (0, 1, 2 nm) from the membrane, mole % negative lipid, and [KCI]. Furthermore, all EPR and fluorescence probes reported identical surface potentials with a PC/PI membrane. With PC/PIP2 membranes, however, the anionic (coion) probes reported less negative potentials than the cationic (counterion) probes; the deviations from the GCS theory were greater for the coions than the counterions. Discreteness-of-charge theories based on the Poisson-Boltzmann equation incorrectly predict that deviations from the GCS theory should be greater for counterions than for coions. We discuss a consistent statistical mechanical theory that takes into account three effects ignored in the GCS theory: the finite size of the ions in the double layer, the electrical interaction between pairs of ions (correlation effects), and the mobile discrete nature of the surface charges. This theory correctly predicts that deviations from GCS theory should be negligible for monovalent lipids, significant for trivalent lipids, and greater for coions than for counterions.

ผลลัพธ์ (ไทย) 1:

เราทำ fluorescence อิเล็กตรอน paramagnetic การสั่นพ้อง (ชนิด epr ที่ทุก ๆ), เห็นด้วย และอิเล็กโทรดวัดเพื่อศึกษาผลของ phosphatidylinositol ไขมัน monovalent (PI) และตัวไขมัน trivalent phosphatidylinositol 4,5-bisphosphate (PIP2) จะได้งานที่ติดกับเยื่อหุ้ม bilayer ionizing ทฤษฎี Gouy แชปแมนสเติร์น (GCS) อธิบายการอาศัยศักยภาพในห่างจากที่พักเพียงพอเมื่อเยื่อหุ้มได้เกิดขึ้นจากส่วนผสมของพี่และสำคัญไขมัน zwitterionic (พีซี), (0, 1, 2 nm) จากเมมเบรน โมล%ไขมันลบ และ [KCI] นอกจากนี้ คลิปปากตะเข้ชนิด epr ที่ทุก ๆ และ fluorescence ทั้งหมดรายงานศักยภาพผิวเหมือนกับเยื่อ PC/PI มีสารพี ซี/PIP2 อย่างไรก็ตาม คลิปปากตะเข้ย้อม (coion) รายงานศักยภาพลบน้อยกว่า probes cationic (counterion) ความแตกต่างจากทฤษฎี GCS ได้มากกว่าสำหรับการ coions ที่ counterions ทฤษฎี discreteness ค่าตามสมการตัวโบลทซ์มานน์ปัวถูกทำนายว่า ความแตกต่างจากทฤษฎี GCS ควรมากขึ้นสำหรับ counterions มากกว่า coions เราหารือเกี่ยวกับความสอดคล้องทางสถิติกลทฤษฎีที่พิจารณาถึงลักษณะพิเศษสามละเว้นในทฤษฎี GCS: จำกัดขนาดของประจุในชั้นสอง โต้ตอบระหว่างคู่กัน (ความสัมพันธ์ลักษณะ), และค่าผิวเดี่ยว ๆ ลักษณะเคลื่อนไฟฟ้า ทฤษฎีนี้ถูกต้องทำนายว่า ควรมีความแตกต่างจากทฤษฎี GCS ระยะสำหรับโครงการ monovalent สำคัญสำหรับโครงการ trivalent และมากกว่าใน coions มากกว่า counterions

ผลลัพธ์ (ไทย) 2:

เราได้ทำให้เรืองแสงอิเล็กตรอน paramagnetic กำทอน (EPR) และความคล่องตัว electrophoretic และโอโซนวัดขั้วไฟฟ้าเพื่อศึกษาผลของไขมัน monovalent phosphatidylinositol (PI) และไขมัน trivalent phosphatidylinositol 4,5-bisphosphate (PIP2) เมื่อไฟฟ้าสถิตที่มีศักยภาพใกล้เคียงกับ bilayer เยื่อ เมื่อเยื่อเกิดจากผสม PI และไขมัน zwitterionic phosphatidylcholine (PC) ที่ Gouy-แชปแมน-สเติร์น (GCS) ทฤษฎีที่อธิบายไว้อย่างเพียงพอพึ่งพาอาศัยกันของศักยภาพในการอยู่กับระยะทาง (0, 1, 2 นาโนเมตร) จากเมมเบรน, ไฝ% ไขมันลบและ [KCI] นอกจากนี้ทุก EPR และยานสำรวจรายงานการเรืองแสงศักยภาพพื้นผิวที่เหมือนกันกับ PC / PI เมมเบรน ด้วยเยื่อ PC / PIP2 แต่ประจุลบ (coion) ยานสำรวจรายงานศักยภาพเชิงลบน้อยกว่าประจุบวก (counterion) ฟิวส์; การเบี่ยงเบนจากทฤษฎี GCS มีมากขึ้นสำหรับ coions กว่า counterions ทฤษฎี Discreteness ค่าตามสมการปัวซอง-Boltzmann ไม่ถูกต้องคาดการณ์ว่าการเบี่ยงเบนไปจากทฤษฎี GCS ควรจะเป็นมากขึ้นสำหรับ counterions กว่า coions เราหารือทฤษฎีกลสอดคล้องกันทางสถิติที่คำนึงถึงผลสามไม่สนใจในทฤษฎี GCS: ขนาด จำกัด ของไอออนในสองชั้นที่มีปฏิสัมพันธ์ไฟฟ้าระหว่างคู่ของไอออน (ผลกระทบความสัมพันธ์) และลักษณะที่ไม่ต่อเนื่องมือถือของพื้นผิว ค่าใช้จ่าย ทฤษฎีนี้ได้อย่างถูกต้องคาดการณ์ว่าเบี่ยงเบนไปจากทฤษฎี GCS ควรจะเล็กน้อยสำหรับ monovalent ไขมันอย่างมีนัยสำคัญสำหรับไขมัน trivalent และมากขึ้นสำหรับ coions กว่า counterions

ผลลัพธ์ (ไทย) 3:

เราทำเรือง อิเล็กตรอนพาราแมกเนติกเรโซแนนซ์ ( EPR ) , ยูไนเต็ด , และชิ้นส่วนวัดขั้ว เพื่อศึกษาผลของฟอสฟาทิดิลอิโนซิทอลไขมันมก. ( PI ) และสามของฟอสฟาทิดิลอิโนซิทอล 4,5-bisphosphate ( pip2 ) บนไฟฟ้าสถิตศักยภาพติดกับเยื่อหุ้มสองชั้น .เมื่อเยื่อขึ้นจากส่วนผสมของพาย และ ฟอสฟาติดิลโคลีนต่อ zwitterionic ( PC ) , ชาวกวย แชปแมน สเติร์น ( GCS ) ทฤษฎีที่อธิบายไว้อย่างเพียงพอพึ่งพาศักยภาพของเรื่องระยะทาง ( 0 , 1 , 2 nm ) จากเยื่อ โมล % ลบไขมันและ KCI ] นอกจากนี้ การตรวจสอบรายงานศักยภาพทั้งหมด EPR และพื้นผิวเหมือนกันกับ PC / ปี่ของเยื่อแผ่น กับ PC / pip2 ขนาดอย่างไรก็ตาม ประจุลบ ( coion ) จึงรายงานศักยภาพเชิงลบมากกว่าบวก ( counterion ) ) ; การเบี่ยงเบนจาก GCS ทฤษฎีมีมากขึ้นสำหรับ coions กว่า counterions . discreteness ทฤษฎีค่าใช้จ่ายบนพื้นฐานของปัวซงสมการ Boltzmann ไม่ถูกต้องทำนายว่า การเบี่ยงเบนจาก GCS ทฤษฎีควรจะมากขึ้นสำหรับ counterions กว่า coions .เราได้กล่าวถึงสถิติที่สอดคล้องกันทางทฤษฎีที่ใช้ลงในบัญชีสามผล ไม่สนใจในระดับทฤษฎี : การจำกัดขนาดของไอออนในเลเยอร์คู่ปฏิสัมพันธ์ไฟฟ้าระหว่างคู่ของไอออน ( ผล ) ) , และโทรศัพท์มือถือแบบธรรมชาติของผิวค่าทฤษฎีนี้ถูกต้องคาดการณ์ที่เบี่ยงเบนไปจากทฤษฎี GCS จะกระจอกสำหรับกัดไขมัน ที่สําคัญสําหรับ trivalent lipids และมากขึ้นสำหรับ coions กว่า counterions .