Thus, alternative energy from renew

Thus, alternative energy from renewable sources is in focus to replace fossil fuels for greener energy options. Among renewable resources,
biomass is considered as a feasible option due to its carbon neutrality, sustainable and vastly available. However,
biomass has its limitations to be utilized particularly as a direct feedstock for power generation. These include low
combustion efficiency attributable to its high moisture content, low energy density, hydrophilic behavior, high
oxygen content which makes it susceptible to biological attack and biodegradation [2–5]. Furthermore, due to the
tenacious and fibrous nature of ligno-cellulosic biomass, grindability is a challenge which requires high energy
consumption during preparation of fuel [6]. To overcome these undesirable properties, torrefaction as a pretreatment
process is introduced in order to improve biomass properties.
Torrefaction is a thermo-chemical conversion method where biomass is subjected to thermal heating in the
absence of air, typically in the temperature range of 200 to 300o
C at atmospheric pressure [7]. Torrefaction differs
from pyrolysis process where the former’s purpose is to retain solid mass yield while enabling its energy content to
be conserved and with incomplete removal of volatile matters. It was also reported elsewhere that torrefaction
enables the reduction of hydrogen and oxygen contents, which consequently will release less water vapor and smoke
during combustion [8,9]. Torrefaction studies in previous years mainly focused on woody biomass [10–17],
agricultural byproducts such as oil palm mill waste [3,18–22], corn stover/stalk [7,23–25] and various straw and
grass species [26–28]. However, less emphasis on torrefaction study on agricultural field residue and potential
energy crop is reported in published literature.
In this study, an agricultural residue from oil palm plantation i.e. oil palm frond (OPF) and woody biomass from
fast growing species, Leucaena Leucocephala (LL) will be subjected to torrefaction in order to investigate their
potential usage as bioenergy fuel. OPF, a major residue from oil palm plantation has great potential due to its
abundant availability and has high volatile content indicating high reactivity [29]. As aforementioned, LL is a fast
growing tree and considered to be a potential energy crop [17]. Hence, effects of torrefaction temperatures at fixed
holding time of 60 minutes on solid mass and energy yields, energy density and thermal degradation behavior via
thermogravimetric analysis (TGA) will be presented. Results obtained from this study may provide basic knowledge
related to influence of torrefaction process parameters on physico-chemical properties of the two biomass materials.

ผลลัพธ์ (ไทย) 1:

ดังนั้น พลังงานทดแทนจากแหล่งพลังงานทดแทนอยู่ในโฟกัสแทนเชื้อเพลิงฟอสซิลสำหรับตัวเลือกพลังงานสีเขียว ในบรรดาแหล่งพลังงานหมุนเวียน ชีวมวลถือเป็นตัวเลือกที่เป็นไปได้เนื่องจากของกลางคาร์บอน พร้อมใช้งานอย่างมากมาย และยั่งยืน อย่างไรก็ตาม ชีวมวลมีข้อจำกัดเพื่อนำไปใช้เป็นวัตถุดิบโดยตรงโดยเฉพาะอย่างยิ่งสำหรับการผลิตไฟฟ้า เหล่านี้รวมถึงต่ำ เผาไหม้มีประสิทธิภาพนของความชื้นสูง ความหนาแน่นของพลังงานต่ำ ลักษณะน้ำ สูง ปริมาณออกซิเจนซึ่งทำให้โจมตีต่อทางชีวภาพและการย่อยสลายทางชีวภาพ [2-5] นอกจากนี้ เนื่องจากการ หวงแหน และเส้นใยธรรมชาติชีวมวล ligno ไลต์ เจียระไนเป็นความท้าทายที่ต้องใช้พลังงานสูง ปริมาณการใช้ในระหว่างการเตรียมเชื้อเพลิง [6] เพื่อเอาชนะคุณสมบัติเหล่านี้ไม่พึงปรารถนา torrefaction เป็นการปรับสภาพ กระบวนการนำมาใช้เพื่อปรับปรุงคุณสมบัติของชีวมวล Torrefaction เป็นวิธีการแปลงเทอร์โมเคมีซึ่งชีวมวลจะต้องทำความร้อนความร้อนในการ ขาดอากาศ โดยทั่วไปในช่วงอุณหภูมิ 200 300oC ที่ความดันบรรยากาศ [7] Torrefaction ที่แตกต่าง จากกระบวนการไพโรไลซิเก็บผลผลิตมวลแข็งในขณะที่เปิดใช้งานเนื้อหาพลังงานเพื่อวัตถุประสงค์ของอดีต ได้อย่างราบรื่น และกับการกำจัดที่สมบูรณ์ของระเหยที่สำคัญ ก็รายงานอื่น ๆ ที่ torrefaction ช่วยให้การลดลงของออกซิเจนและไฮโดรเจนเนื้อหา การจึง จะปล่อยไอน้ำและควันน้อย during combustion [8,9]. Torrefaction studies in previous years mainly focused on woody biomass [10–17], agricultural byproducts such as oil palm mill waste [3,18–22], corn stover/stalk [7,23–25] and various straw and grass species [26–28]. However, less emphasis on torrefaction study on agricultural field residue and potential energy crop is reported in published literature.In this study, an agricultural residue from oil palm plantation i.e. oil palm frond (OPF) and woody biomass from fast growing species, Leucaena Leucocephala (LL) will be subjected to torrefaction in order to investigate their potential usage as bioenergy fuel. OPF, a major residue from oil palm plantation has great potential due to its abundant availability and has high volatile content indicating high reactivity [29]. As aforementioned, LL is a fast growing tree and considered to be a potential energy crop [17]. Hence, effects of torrefaction temperatures at fixedholding time of 60 minutes on solid mass and energy yields, energy density and thermal degradation behavior via thermogravimetric analysis (TGA) will be presented. Results obtained from this study may provide basic knowledge related to influence of torrefaction process parameters on physico-chemical properties of the two biomass materials.

ผลลัพธ์ (ไทย) 2:

ดังนั้นพลังงานทดแทนจากแหล่งพลังงานหมุนเวียนอยู่ในโฟกัสที่จะเปลี่ยนเชื้อเพลิงฟอสซิลสำหรับตัวเลือกการใช้พลังงานเป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม ท่ามกลางทรัพยากรทดแทน
ชีวมวลถือเป็นตัวเลือกที่เป็นไปได้เนื่องจากความเป็นกลางคาร์บอนอย่างยั่งยืนและสามารถใช้ได้อย่างมากมาย อย่างไรก็ตาม
ชีวมวลมีข้อ จำกัด เพื่อนำไปใช้โดยเฉพาะอย่างยิ่งเป็นวัตถุดิบโดยตรงในการผลิตไฟฟ้า เหล่านี้รวมถึงต่ำ
ประสิทธิภาพการเผาไหม้ส่วนที่มีความชื้นสูง, ความหนาแน่นของพลังงานต่ำพฤติกรรมชอบน้ำสูง
ปริมาณออกซิเจนซึ่งจะทำให้มันไวต่อการโจมตีทางชีวภาพและการย่อยสลาย [2-5] นอกจากนี้เนื่องจากการ
ธรรมชาติและเส้นใยเหนียวชีวมวล Ligno-เซลลูโลส grindability เป็นความท้าทายที่ต้องใช้พลังงานสูง
การบริโภคในระหว่างการเตรียมน้ำมันเชื้อเพลิง [6] ที่จะเอาชนะคุณสมบัติที่ไม่พึงประสงค์เหล่านี้ torrefaction เป็นการปรับสภาพ
กระบวนการถูกนำมาใช้เพื่อปรับปรุงคุณสมบัติชีวมวล.
Torrefaction เป็นวิธีการแปลงความร้อนสารเคมีที่ชีวมวลอยู่ภายใต้ร้อนระบายความร้อนใน
สภาวะที่ไม่มีอากาศมักจะอยู่ในช่วงอุณหภูมิ 200 ถึง 300o
C ที่ความดันบรรยากาศ [7] torrefaction แตกต่าง
จากกระบวนการไพโรไลซิวัตถุประสงค์ที่อดีตคือการเก็บผลผลิตมวลของแข็งในขณะที่ทำให้ปริมาณพลังงานที่จะ
ได้รับการอนุรักษ์และการกำจัดที่ไม่สมบูรณ์ของสารระเหย มันก็ยังมีรายงานอื่น ๆ ที่ torrefaction
ช่วยให้การลดลงของไฮโดรเจนและออกซิเจนเนื้อหาซึ่งจึงจะปล่อยไอน้ำน้อยลงและควัน
จากการเผาไหม้ [8,9] การศึกษา torrefaction ในปีก่อนหน้าส่วนใหญ่มุ่งเน้นไปที่วู้ดดี้ชีวมวล [10-17]
ผลพลอยได้ทางการเกษตรเช่นของเสียโรงงานปาล์มน้ำมัน [3,18-22] ซังข้าวโพด / ก้าน [7,23-25] และฟางข้าวต่างๆและ
สายพันธุ์หญ้า [ 26-28] แต่เน้นน้อยเกี่ยวกับการศึกษา torrefaction ในตกค้างข้อมูลการเกษตรและศักยภาพ
พืชพลังงานจะมีการรายงานในวรรณคดีตีพิมพ์.
ในการศึกษานี้ตกค้างการเกษตรจากสวนปาล์มน้ำมันเช่นเฟินปาล์มน้ำมัน (OPF) และไม้ชีวมวลจาก
การเติบโตอย่างรวดเร็วพันธุ์กระถิน leucocephala ( LL) จะต้องอยู่ภายใต้ torrefaction เพื่อตรวจสอบของพวกเขา
การใช้งานที่มีศักยภาพเป็นเชื้อเพลิงพลังงานชีวภาพ OPF, สารตกค้างที่สำคัญจากการปลูกปาล์มน้ำมันมีศักยภาพที่ดีเนื่องจาก
ความพร้อมอุดมสมบูรณ์และมีเนื้อหาที่มีความผันผวนสูงแสดงให้เห็นการเกิดปฏิกิริยาสูง [29] ดังกล่าวข้างต้น, LL เป็นไปอย่างรวดเร็ว
ต้นไม้เจริญเติบโตและถือว่าเป็นพืชพลังงานที่มีศักยภาพ [17] ดังนั้นผลกระทบของอุณหภูมิ torrefaction ที่คงที่
ระยะเวลาการถือครอง 60 นาทีกับมวลและพลังงานอัตราผลตอบแทนที่มั่นคง, ความหนาแน่นของพลังงานและพฤติกรรมการย่อยสลายความร้อนผ่าน
การวิเคราะห์สมบัติทางความร้อน (TGA) จะนำเสนอ ผลที่ได้รับจากการศึกษานี้อาจให้ความรู้พื้นฐาน
ที่เกี่ยวข้องกับอิทธิพลของพารามิเตอร์กระบวนการ torrefaction เกี่ยวกับคุณสมบัติทางกายภาพและทางเคมีของสองวัสดุชีวมวล

ผลลัพธ์ (ไทย) 3:

ดังนั้น , พลังงานทางเลือกจากแหล่งพลังงานหมุนเวียนอยู่ในโฟกัสแทนเชื้อเพลิงฟอสซิลสำหรับตัวเลือกพลังงานสีเขียว ระหว่างทรัพยากรทดแทนชีวมวลถือเป็นตัวเลือกที่เป็นไปได้เนื่องจากความเป็นกลางคาร์บอนของมัน อย่างยั่งยืน และพร้อมใช้งานมาก อย่างไรก็ตามชีวมวลมีขีดจำกัดที่จะใช้โดยเฉพาะอย่างยิ่งเป็นวัตถุดิบโดยตรงสำหรับผลิตกระแสไฟฟ้า เหล่านี้รวมถึงต่ำประสิทธิภาพจากความชื้นสูงและความหนาแน่นของพลังงานต่ำของน้ำสูงปริมาณออกซิเจนซึ่งทำให้เสี่ยงต่อการโจมตีทางชีวภาพและการย่อยสลาย 2 ) [ 5 ] นอกจากนี้ เนื่องจากการหวงแหนและเส้นใยเซลลูโลสธรรมชาติของ ligno ชีวมวล grindability คือความท้าทายที่ต้องใช้พลังงานสูงการบริโภคในช่วงการเตรียมเชื้อเพลิง [ 6 ] เพื่อเอาชนะ คุณสมบัติที่ไม่พึงประสงค์เหล่านี้ torrefaction เป็นขั้นต้นกระบวนการที่ใช้เพื่อปรับปรุงคุณสมบัติของชีวมวลtorrefaction คือการเปลี่ยนแปลงทางเคมีเทอร์โม วิธีที่ ชีวมวลเป็นภายใต้ความร้อนความร้อนในขาดอากาศ โดยปกติในช่วงอุณหภูมิ 200 300oC ที่ความดันบรรยากาศ [ 7 ] torrefaction แตกต่างจากกระบวนการไพโรไลซิสที่จุดประสงค์เดิมคือเก็บผลผลิตมวลแข็งในขณะที่ช่วยให้มีปริมาณพลังงานเพื่ออนุรักษ์และการกำจัดที่สมบูรณ์ของไอระเหยของสำคัญ มันมีที่อื่นที่ torrefactionช่วยลดปริมาณของไฮโดรเจน และออกซิเจน ซึ่งจะปล่อยไอน้ำและควันน้อยกว่าในระหว่างการเผาไหม้ [ 8,9 ] torrefaction ในการศึกษาที่ผ่านมา เน้นหลักในวู้ดดี้ชีวมวล [ 10 – 17 ]ผลิตภัณฑ์ทางการเกษตร เช่น ปาล์มน้ำมัน โรงงานขยะ [ 3,18 – 22 ] , ข้าวโพดฝัก / ต้น [ 7,23 – 25 ] ต่าง ๆ และฟางข้าวพันธุ์หญ้า [ 26 28 – ] แต่เน้นน้อยลงใน torrefaction การศึกษาด้านการเกษตรและศักยภาพกากพืชพลังงานมีรายงานในหัวข้อวรรณกรรมในการศึกษานี้ กาก การเกษตรจากสวนเช่นใบปาล์มน้ำมัน ปาล์มน้ำมัน ( Gucci ) และชีวมวลไม้จากเติบโตอย่างรวดเร็วของสายพันธุ์กระถิน ( ll ) จะต้อง torrefaction เพื่อศึกษาของพวกเขาศักยภาพการใช้เป็นพลังงานเชื้อเพลิง Gucci , กากหลักจากปาล์มน้ำมัน มีศักยภาพมาก เนื่องจาก ความมากมายห้องพักและมีเนื้อหาแสดงปฏิกิริยาสูงสูงระเหย [ 29 ] เป็นดังกล่าว จะเป็นเร็วการเจริญเติบโตของต้นไม้ และถือว่าเป็นพืชพลังงานที่มีศักยภาพ [ 17 ] ดังนั้น ผลของอุณหภูมิ torrefaction ที่คงที่ถือเวลา 60 นาทีต่อผลผลิตมวลของแข็งและพลังงาน , ความหนาแน่นและพฤติกรรมการสลายตัวทางความร้อนการวิเคราะห์เทอร์โมกราวิเมตริก ( TGA ) จะนำเสนอ ผลจากการศึกษานี้จะให้ความรู้พื้นฐานที่เกี่ยวข้องกับอิทธิพลของพารามิเตอร์ในกระบวนการ torrefaction คุณสมบัติทางกายภาพและเคมีของชีวมวล วัสดุ 2 .