Anger has its usefulness. Evans (20

Anger has its usefulness. Evans (2001) observed that although unlike our pre¬human ancestors we need not be fighting in anger for self protection, we still require grit and determination, and anger provides the internal motivation for them. Anger helps us to make positive changes, meet dead-lines, and fight injustices. People, who never get angry, never get ahead. Elsy was not able to deal constructively with the anger she experienced at the man harassing her; instead she hurt herself, damaging her self-esteem and making hasty and unwise decisions. When anger is destructive it can lead to serious problem for oneself and others.
There are cultural expectations regarding the experience and expression of anger by men and women (Lemerise & Dodge, 1993). Angry women receive more explicit condemnation, particularly in the family setting. Gender bias urges total suppression of anger in women, and men are urged to channel anger toward competition and righteous indignation. We are told by our parents and teachers that it is okay for boys to be angry and not okay for girls. When a boy shows excess anger he is excused because anger is "normal" for boys. But when a girl demonstrates excessive anger she is told that anger is not good for girls. Girls often resort to crying when they are angry -socially acceptable behavior for girls. Later on, as adults they find it difficult to express even their legitimate anger.

ผลลัพธ์ (ไทย) 1:

ประโยชน์ของความโกรธได้ อีวานส์ (2001) พบว่า แตกต่างจากบรรพบุรุษของเรา pre¬human เราต้องไม่สามารถต่อสู้ในความโกรธสำหรับป้องกันตนเอง เรายังคงต้องใช้ grit และกำหนด และความโกรธให้แรงจูงใจภายในนั้น ความโกรธช่วยให้เราทำการเปลี่ยนแปลงในเชิงบวก ความตายบรรทัด และต่อสู้ต้องสู้ คน ไม่ได้โกรธ ไม่เคยได้ล่วงหน้า ไม่สามารถสร้างสรรค์เรื่องความโกรธที่เธอมีคนที่สร้างความวิตกของเธอ Elsy แต่ เธอเจ็บตัวเอง ทำลายเธอนับถือตนเอง และตัดสินเข้า และฉลาด เมื่อความโกรธทำลาย มันอาจนำไปสู่ปัญหาร้ายแรงสำหรับตนเองและผู้อื่น.
มีวัฒนธรรมความคาดหวังเกี่ยวกับประสบการณ์และค่าของความโกรธโดยชายและหญิง (Lemerise &หลบ 1993) ผู้หญิงโกรธได้รับการลงโทษที่ชัดเจนมากขึ้น โดยเฉพาะอย่างยิ่งในการตั้งค่าสำหรับครอบครัว อคติเพศขอก่อนส่งกลับปราบปรามรวมของความโกรธในผู้หญิง และมีการกระตุ้นให้คนยั่วโมโหช่องต่อการแข่งขันและความชอบธรรม indignation เราจะบอกผู้ปกครองและครูของเราว่า ก็ไม่เป็นไรสำหรับเด็กผู้ชายที่โกรธ และไม่ไรสำหรับหญิง เมื่อเด็กผู้ชายแสดงความโกรธเกิน เขาจะรับ เพราะความโกรธเป็น "ปกติ" สำหรับเด็กผู้ชาย แต่ เมื่อหญิงสาวแสดงให้เห็นถึงความโกรธมากเกินไปที่เธอจะบอกว่า โกรธไม่ดีสำหรับผู้หญิง หญิงมักจะหันไปร้องไห้เมื่อจะโกรธ - พฤติกรรมที่สังคมยอมรับสำหรับหญิง ในภายหลังบน เป็นผู้ใหญ่ พวกเขาพบมันยากในการแสดงแม้แต่ความโกรธของพวกเขาถูกต้องตามกฎหมาย

ผลลัพธ์ (ไทย) 2:

ความโกรธมีประโยชน์ของมัน อีแวนส์ (2001) ตั้งข้อสังเกตว่าถึงแม้จะแตกต่างจากบรรพบุรุษpre¬humanของเราที่เราไม่จำเป็นต้องต่อสู้ด้วยความโกรธในการปกป้องตัวเองเรายังคงต้องใช้ความอดทนและความมุ่งมั่นและความโกรธให้แรงจูงใจภายในสำหรับพวกเขา ความโกรธจะช่วยให้เราที่จะทำให้การเปลี่ยนแปลงในเชิงบวกพบเส้นที่ตายแล้วและต่อสู้กับความอยุติธรรม คนที่ไม่ได้โกรธไม่เคยได้รับก่อน Elsy ก็ไม่สามารถที่จะจัดการอย่างสร้างสรรค์ด้วยความโกรธที่เธอมีประสบการณ์ที่คนราวีเธอ; แทนเธอทำร้ายตัวเองทำลายเธอภาคภูมิใจในตนเองและการตัดสินใจรีบร้อนและไม่ฉลาด เมื่อความโกรธถูกทำลายมันสามารถนำไปสู่ปัญหาร้ายแรงสำหรับตนเองและผู้อื่น
มีความคาดหวังเกี่ยวกับประสบการณ์ทางวัฒนธรรมและการแสดงออกของความโกรธโดยชายและหญิง (Lemerise และ Dodge, 1993) มี ผู้หญิงโกรธได้รับการลงโทษที่ชัดเจนมากขึ้นโดยเฉพาะอย่างยิ่งในการตั้งค่าของครอบครัว ออฟอคติกระตุ้นการปราบปรามรวมของความโกรธในผู้หญิงและผู้ชายถูกกระตุ้นให้ช่องความโกรธที่มีต่อการแข่งขันและความขุ่นเคืองชอบธรรม เราได้รับการบอกเล่าจากผู้ปกครองและครูของเราว่ามันโอเคสำหรับเด็กที่จะโกรธและไม่โอเคสำหรับสาว เมื่อเด็กแสดงให้เห็นถึงความโกรธเกินกว่าที่เขาจะขอตัวเพราะความโกรธเป็น "ปกติ" สำหรับเด็ก แต่เมื่อหญิงสาวคนหนึ่งแสดงให้เห็นถึงความโกรธมากที่เธอบอกว่าโกรธไม่ดีสำหรับสาว ๆ สาว ๆ มักจะหันไปร้องไห้เมื่อพวกเขามีพฤติกรรมที่ยอมรับได้ -socially โกรธสำหรับสาว ต่อมาเป็นผู้ใหญ่ที่พวกเขาพบว่ามันยากที่จะแสดงความโกรธแม้ถูกต้องตามกฎหมายของพวกเขา

ผลลัพธ์ (ไทย) 3:

ความโกรธได้ประโยชน์แล้ว อีแวนส์ ( 2001 ) พบว่า แม้ไม่เหมือนบรรพบุรุษของเราก่อน¬มนุษย์เราไม่ต้องต่อสู้ด้วยความโกรธ เพื่อปกป้องตนเอง เรายังคงต้องมีมานะและมุ่งมั่น ความโกรธมีแรงจูงใจภายในของพวกเขา ความโกรธจะช่วยให้เราเพื่อให้การเปลี่ยนแปลงในเชิงบวก เจอเส้นตาย และต่อสู้กับความอยุติธรรม . คน ไม่เคยโกรธ ไม่เคยได้รับเลยelsy ไม่สามารถจัดการอย่างสร้างสรรค์กับความโกรธที่เธอมีประสบการณ์ที่ผู้ชายลวนลามเธอ แต่เธอทำร้ายตัวเอง ทำลายความรู้สึกของเธอ และการตัดสินใจรีบร้อน และไม่ฉลาด เมื่อความโกรธจะทำลายมันสามารถนำไปสู่ปัญหาร้ายแรงแก่ตนเองและผู้อื่น
มีความคาดหวังทางวัฒนธรรมเกี่ยวกับประสบการณ์และการแสดงออกของความโกรธโดยชายและหญิง ( lemerise &หลบ , 1993 )ผู้หญิงได้รับการโกรธมากขึ้นอย่างชัดเจน โดยเฉพาะในครอบครัว การตั้งค่า อคติเพศ urges ปราบปรามทั้งหมดของความโกรธในผู้หญิง และผู้ชายถูกกระตุ้นให้โกรธ ช่องต่อการแข่งขันและความไม่พอใจชอบธรรม เราจะบอกได้ โดยผู้ปกครองและครูของเราว่ามันโอเคสำหรับผู้ชายที่จะโกรธและไม่ได้สำหรับผู้หญิงเมื่อผู้ชายที่แสดงความโกรธมากเขามีข้อแก้ตัว เพราะความโกรธเป็นเรื่อง " ปกติ " สำหรับเด็กๆ แต่เมื่อผู้หญิงแสดงความโกรธ เธอจะบอกว่าโกรธมากเกินไปไม่ดีสำหรับสาวๆ ผู้หญิงมักจะใช้เพื่อร้องไห้เมื่อพวกเขามีพฤติกรรมที่สังคมยอมรับโกรธ - หญิง ต่อมา เป็นผู้ใหญ่ที่พวกเขาพบมันยากที่จะแสดงถึงความโกรธของพวกเขาถูกต้องตามกฎหมาย .