On the basis of the problem stated

On the basis of the problem stated previously, the newly developed
parameter must assess the engineering properties of cement-clay
admixtures in saturated and unsaturated conditions. Therefore,
the influencing factors for both conditions are first reviewed to
understand the similarities and differences. Previous studies of deep
mixing clay-cement mixture indicate that its engineering behavior
is primarily affected by the physicochemical properties of clay, the
amount of cement, the water content, and the curing time (Uddin
et al. 1997; Miura et al. 2001; Lorenzo and Bergado 2004;
Horpibulsuk et al. 2005; Chew et al. 2004; Lee et al. 2005).
The factors controlling air-cement-treated clay behavior are the
amount of cement, the curing time, and the void ratio (Hayashi
and Suzuki 1999; Tsuchida et al. 2001; Hayashi et al. 2002; Watabe
et al. 2004). The physicochemical properties of clay depend on the
clay mineralogy and composition. It is difficult to include clay type
in the construction of a parameter. This study therefore aims to develop
the parameter from cement content, water content, curing
time, and void ratio. This new parameter must capture and combine
mechanical properties, such as strength and yield stress of both saturated
and unsaturated cement-clay mixtures having the same clay
type. Because a number of studies with comprehensive test data on
deep mixing wet cement-treated clay are available (Lorenzo and
Bergado 2004; Jongpradist et al. 2007, 2010, 2011), this study performs
only complementary tests on unsaturated cement-clay admixtures
for the purpose of clarification. By principle, the void
ratio at the initial state before testing is one of the basic parameters
that influence the mechanical properties of soil. The use of the void to-cement
ratio is proven to be appropriate to assess the unconfined
compressive strength of sandy soils stabilized by cement or lime
(Consoli et al. 2007, 2009). Therefore, the after-curing void-tocement
ratio eot=Aw proposed by Lorenzo and Bergado (2004),
which combines the effects of curing time, clay-water content,
and cement content on the unconfined compressive strength of
cement-treated clay, is adopted for further development. The eot
can be directly calculated from the equation

ผลลัพธ์ (ไทย) 1:

ถกปัญหาระบุไว้ก่อนหน้านี้ พัฒนาขึ้นใหม่พารามิเตอร์ต้องประเมินคุณสมบัติทางวิศวกรรมของดินซีเมนต์น้ำยาผสมในสภาวะอิ่มตัว และไม่อิ่มตัว ดังนั้นปัจจัยมีอิทธิพลต่อสำหรับทั้งสองเงื่อนไขก่อนได้รับการตรวจสอบเพื่อเข้าใจความเหมือนและความแตกต่าง การศึกษาก่อนหน้านี้ของลึกผสมส่วนผสมดินซีเมนต์บ่งชี้ว่า ลักษณะการทำงานวิศวกรรมได้รับผลกระทบเป็นหลัก โดยคุณสมบัติทางเคมีกายภาพของดิน การปริมาณของปูนซีเมนต์ ปริมาณน้ำ และการใช้เวลา (Uddinet al. 1997 มิอุระ et al. 2001 ลอเรนโซและ Bergado 2547Horpibulsuk et al. 2005 เคี้ยว et al. 2004 Lee et al. 2005)ปัจจัยที่ควบคุมลักษณะอากาศถือปูนซีเมนต์ดินเหนียวมีการปริมาณของปูนซีเมนต์ ใช้เวลา และอัตราเป็นโมฆะ (ฮายาชิและซูซูกิ 1999 Tsuchida et al. 2001 ฮา et al. 2002 Watabeet al. 2004) คุณสมบัติทางเคมีกายภาพของดินขึ้นอยู่กับการmineralogy ดินและองค์ประกอบ ยากที่จะรวมชนิดของดินในการก่อสร้างของพารามิเตอร์ การศึกษานี้จึงมุ่งพัฒนารักษาพารามิเตอร์จากซีเมนต์ ปริมาณน้ำเวลา และอัตราส่วนที่เป็นโมฆะ ต้องการจับภาพ และรวมพารามิเตอร์ใหม่นี้คุณสมบัติทางกล เช่นความเครียดความแข็งแรงและผลผลิตของทั้งอิ่มและส่วนผสมดินซีเมนต์ที่ไม่อิ่มตัวที่มีดินเดียวกันชนิดของ เนื่องจากจำนวนของการศึกษากับข้อมูลทดสอบที่ครอบคลุมบนมีลึกผสมดินซีเมนต์เปียก (Lorenzo และBergado 2004 Jongpradist et al. 2007, 2010, 2011), ดำเนินการศึกษานี้น้ำยาผสมดินซีเมนต์ที่ไม่อิ่มตัวเพียงเสริมทดสอบวัตถุประสงค์เพื่อชี้แจง โดยหลักการ เป็นโมฆะสถานะเริ่มต้นก่อนที่จะทดสอบเป็นพารามิเตอร์พื้นฐานอย่างใดอย่างหนึ่งที่มีอิทธิพลต่อคุณสมบัติทางกลของดิน การใช้การโมฆะการซีเมนต์มีการพิสูจน์ว่าอัตราส่วนการประเมินที่ไม่ถูกกักขังแรงอัดของดินทรายที่เสถียร ด้วยซีเมนต์หรือมะนาว(คอนโซลิ et al. 2007, 2009) ดังนั้น การบ่มหลังโมฆะ-tocementอัตรา eot = Aw Lorenzo และ Bergado (2004), เสนอซึ่งรวมผลของเวลา ปริมาณดินน้ำและซีเมนต์ในคอนกรีตไม่ถูกกักขังของดินซีเมนต์ ถูกนำมาใช้พัฒนาในอนาคต การ eotสามารถคำนวณได้โดยตรงจากสมการ

ผลลัพธ์ (ไทย) 2:

บนพื้นฐานของปัญหาที่ระบุไว้ก่อนหน้านี้ที่พัฒนาขึ้นใหม่
พารามิเตอร์ต้องประเมินคุณสมบัติทางวิศวกรรมของดินซีเมนต์
ผสมในสภาวะอิ่มตัวและไม่อิ่มตัว ดังนั้น
ปัจจัยที่มีอิทธิพลต่อสำหรับเงื่อนไขที่ทั้งสองจะมีการทบทวนแรกที่จะ
เข้าใจความคล้ายคลึงและแตกต่าง การศึกษาก่อนหน้าลึก
ส่วนผสมผสมดินซีเมนต์ระบุว่าพฤติกรรมวิศวกรรม
ได้รับผลกระทบเป็นหลักโดยคุณสมบัติทางเคมีกายภาพของดินที่
ปริมาณของปูนซีเมนต์ปริมาณน้ำและเวลาการบ่ม (Uddin
et al, 1997;. Miura et al, 2001. Lorenzo และ Bergado 2004
Horpibulsuk et al, 2005. Chew et al, 2004;... Lee et al, 2005)
ปัจจัยที่ควบคุมพฤติกรรมดินอากาศซีเมนต์ได้รับการรักษาเป็น
จำนวนปูนซีเมนต์เวลาการบ่มและอัตราส่วนโมฆะ (ฮายาชิ
และอีกแห่งหนึ่ง 1999; Tsuchida et al, 2001.. ฮายาชิ et al, 2002; Watabe
. et al, 2004) คุณสมบัติทางเคมีกายภาพของดินขึ้นอยู่กับ
แร่ดินเหนียวและองค์ประกอบ มันเป็นเรื่องยากที่จะรวมถึงประเภทของดิน
ในการก่อสร้างของพารามิเตอร์ การศึกษาครั้งนี้จึงมีวัตถุประสงค์เพื่อพัฒนา
พารามิเตอร์จากเนื้อหาซีเมนต์ปริมาณน้ำ, การบ่ม
เวลาและอัตราการเป็นโมฆะ พารามิเตอร์ใหม่นี้จะต้องจับและรวม
สมบัติเชิงกลเช่นความแข็งแรงและผลผลิตความเครียดของทั้งสองอิ่มตัว
และไม่อิ่มตัวผสมปูนดินเหนียวมีดินเดียวกัน
ประเภท เนื่องจากจำนวนของการศึกษาที่มีการทดสอบข้อมูลที่ครอบคลุมเกี่ยวกับ
ลึกผสมเปียกดินซีเมนต์ได้รับการรักษาที่มีอยู่ (อเรนโซและ
Bergado 2004. Jongpradist et al, 2007, 2010, 2011) การศึกษาครั้งนี้จะดำเนินการ
เฉพาะการทดสอบที่สมบูรณ์ในส่วนผสมปูนดินอิ่มตัว
สำหรับ วัตถุประสงค์ของการชี้แจง โดยหลักการแล้วเป็นโมฆะ
อัตราส่วนที่สถานะเริ่มต้นก่อนการทดสอบเป็นหนึ่งในพารามิเตอร์พื้นฐาน
ที่มีผลต่อคุณสมบัติทางกลของดิน การใช้ช่องว่างเพื่อซีเมนต์
อัตราส่วนคือการพิสูจน์ว่ามีความเหมาะสมในการประเมินไร้ข้อ จำกัด
แรงอัดของดินทรายมีเสถียรภาพโดยซีเมนต์หรือปูนขาว
(Consoli et al. 2007 2009) ดังนั้นหลังจากบ่มเป็นโมฆะ tocement
อัตราส่วน EOT = Aw เสนอโดยอเรนโซและ Bergado (2004)
ซึ่งรวมผลกระทบของเวลาบ่มเนื้อหาดินน้ำ
และเนื้อหาปูนซีเมนต์ในแรงอัดไร้ข้อ จำกัด ของ
ดินซีเมนต์ได้รับการรักษาคือ นำมาใช้สำหรับการพัฒนาต่อไป EOT
สามารถคำนวณได้โดยตรงจากสมการ

ผลลัพธ์ (ไทย) 3:

บนพื้นฐานของปัญหาที่ระบุไว้ก่อนหน้านี้ ที่พัฒนาขึ้นใหม่พารามิเตอร์ต้องประเมินคุณสมบัติทางวิศวกรรมของดินซีเมนต์โดยในภาวะอิ่มตัวและไม่อิ่มตัว ดังนั้นปัจจัยที่มีอิทธิพลต่อทั้งเงื่อนไขสุดท้ายก่อนไปเข้าใจความเหมือนและความแตกต่าง การศึกษาก่อนหน้านี้ของลึกผสมดินซีเมนต์ผสม พบว่า พฤติกรรมของวิศวกรรมเป็นหลักได้รับผลกระทบจากคุณสมบัติทางกายภาพและทางเคมีของดินปริมาณของปูนซีเมนต์ ปริมาณน้ำและระยะเวลา ( uddinet al . 1997 ; มิอุระ et al . 2001 ; Lorenzo และ bergado 2004 ;horpibulsuk et al . 2005 ; เคี้ยว et al . 2004 ; ลี et al . 2005 )ปัจจัยที่ควบคุมอากาศ ดิน ซีเมนต์ พฤติกรรมคือปริมาณของปูนซีเมนต์ , เวลาที่ใช้ และอัตราส่วนช่องว่าง ( ฮายาชิและ ซูซูกิ 1999 ; สึ et al . 2001 ฮายาชิ et al . 2002 ; วาตาเบะet al . 2004 ) คุณสมบัติทางกายภาพและทางเคมีของดินขึ้นอยู่กับแร่ดินเหนียวและองค์ประกอบที่ มันเป็นเรื่องยากที่จะรวมประเภทดินเหนียวในการก่อสร้างของพารามิเตอร์ การศึกษานี้จึงมีวัตถุประสงค์เพื่อ พัฒนาพารามิเตอร์จากเนื้อหา ปริมาณน้ำปูนซีเมนต์การบ่มเวลา และอัตราส่วนช่องว่าง . พารามิเตอร์ใหม่นี้ต้องจับ และรวมสมบัติเชิงกล เช่น ความแข็งแรง และผลผลิตความเครียดทั้งไขมันอิ่มตัวและ กรดไขมันไม่อิ่มตัวที่มีดินเหนียวซีเมนต์ผสมดินเดียวกันประเภท เนื่องจากจำนวนของการศึกษาที่ครอบคลุมการทดสอบข้อมูลผสมซีเมนต์เปียกดินลึกมี ( Lorenzo และbergado 2004 ; jongpradist et al . 2007 , 2010 , 2011 ) , การศึกษาาเพียง แต่เสริมการทดสอบดินเหนียวซีเมนต์ทรายที่ไม่อิ่มตัวเพื่อชี้แจง โดยหลักการแล้ว โมฆะอัตราส่วนที่สถานะเริ่มต้นก่อนการทดสอบเป็นหนึ่งในพารามิเตอร์พื้นฐานที่มีผลต่อสมบัติเชิงกลของดิน การใช้ช่องว่างในปูนซีเมนต์อัตราส่วนพิสูจน์ให้เหมาะสมเพื่อประเมินภาวะผู้นำการเปลี่ยนแปลงกำลังรับแรงอัดของดินทรายที่ปรับปรุงคุณภาพด้วยซีเมนต์และปูนขาว( คอนโซลิ et al . 2007 , 2009 ) ดังนั้น หลังจากบ่ม tocement โมฆะอัตราส่วน EOT = AW ที่เสนอโดย ลอเรนโซ และ bergado ( 2004 )ซึ่งรวมผลของระยะเวลาการบ่ม ปริมาณน้ำดินและปูนซีเมนต์ต่อกำลังรับแรงอัดของเนื้อหาดินซีเมนต์เป็นลูกบุญธรรมเพื่อการพัฒนาต่อไป โดย eotสามารถคำนวณได้จากสมการได้โดยตรง