Mining in Colorado EditColorado Min

Mining in Colorado Edit


Colorado Mineral Belt
Participants in the Pike's Peak Gold Rush from 1858 to 1861 were called Fifty-Niners and many of the new arrivals settled in the Denver area. Gold in paying quantities was also discovered in the Central City area. In 1879, silver was discovered in Leadville, resulting in the Colorado Silver Boom.

Many early mining efforts were cooperative ventures. However, as easy-to-reach surface deposits played out, miners increasingly turned to hard rock mining. Such industrial operations required greater capital, and the economic concept of mineral rights resulted in periodic conflicts between the mine owners, and the miners who increasingly sold their labor to work in the mines.

As the mines were dug deeper, they became more dangerous, and the work more arduous, creating the conditions for conflict. In 1880, Colorado Governor Pitkin, a Republican, declared martial law to suppress a violent mining strike at Leadville. In the 1890s many Colorado miners began to form unions in order to protect themselves. The mine operators often formed mine owners' associations in response, setting up the conditions for a conflict. Notable labor disputes between hard rock miners and the mine operators included the Cripple Creek strike of 1894 and the Colorado Labor Wars of 1903-04.

Coal mining in Colorado began soon after the first settlers arrived. Although the discovery of coal did not cause boom cycles as did the precious metals, the early coal mining industry also established the conditions for violent confrontations between miners and mine owners. The usual issues were wages, hours, and working conditions, but miners were also concerned about issues of fairness, and company control over their personal lives. Early coal mining in Colorado was extremely dangerous, and the state had one of the highest death rates in the nation. During the three decades from 1884 to 1914, more than 1700 men died in Colorado's coal mines.[8] Coal miners also resented having to pay for safety work such as timbering the mines, and they were sometimes paid in scrip that had value only in the company store, with the cost of goods set by the company.

A strike in 1913 resulted in the 1914 Ludlow massacre. Another coal strike in 1927 is best known for Colorado's first Columbine massacre. In 1933, federal legislation for the first time allowed all Colorado coal miners to join unions without fear of retaliation.

Like all resource extraction, mining is a boom or bust industry, and over the years many small towns were established, then abandoned when the ore ran out, the market collapsed, or another resource became available. There were once more than a hundred coal mines in the area north of Denver and east of Boulder. The mines began to close when natural gas lines arrived. Coal and precious metals are still mined in Colorado, but the mining industries have changed dramatically in recent decades.


Tuberculosis patients lie in beds on the porch of a building at the Jewish Consumptive Relief Society (J.C.R.S.) sanatorium
Reports of the revival of molybdenum mining in 2007 resulted in ambivalent responses[9] with Leadville welcoming the opening of the mine at Climax,[10][11] but strong opposition in Crested Butte over proposed operations at Mount Emmons.[12] Opinion in Rico, site of the Silver Creek stockwork Molybdenum deposit[13] is more divided. There, land slated for development is being bought up by a mining company.[14]

Today there are many small mining towns scattered throughout Colorado, such as Leadville, Georgetown, Cripple Creek, Victor, and Central City. Although many of the mines no longer operate, the remnants of the operations can be seen in the form of mine shafts, outbuildings, and mounds of rock extracted from the hills. Many former mining towns turned to gambling to draw visitors, with Blackhawk and Cripple Creek serving as good examples. The 19th century ended with a difficult law-and-order situation in some places, most notably, Creede, Colorado, where gunmen like Robert Ford (the assassin of Jesse James) and con men like Soapy Smith reigned. In

"The World's Sanitarium" Edit

Starting in the 1860s, when tuberculosis (TB) was a major deadly disease, physicians in the eastern United States recommended that their patients relocate to sunny, dry climates for their lungs. As a result, the number of people with tuberculosis, called "lungers", in the state grew alarmingly and without the services or facilities to support their needs. Not knowing how to manage a population of homeless, ill people, many were taken to jail. Because of the number of people with TB and their families who came to Denver for their health, by the 1880s it was nicknamed the "World's Sanitarium". Cynthia Stout, a history scholar, asserted that by 1900 "one-third of Colorado's population were residents of the state because of tuberculosis

ผลลัพธ์ (ไทย) 1:

การทำเหมืองในโคโลราโดแก้ไขดาวแร่โคโลราโดผู้เข้าร่วมในของจนสูงสุดทองวิ่งจากค.ศ. 1858 ถึง 1861 ได้เรียกว่า Niners สิบและหลายผู้มาใหม่ที่จับคู่ในเดนเวอร์ ทองจ่ายปริมาณยังได้ค้นพบในบริเวณเมือง ใน 1879 ซิลเวอร์ถูกค้นพบใน Leadville ในโคโลราโดเงินบูมความพยายามทำเหมืองต้นหลายกิจการสหกรณ์ได้ อย่างไรก็ตาม เป็นพื้นผิวเข้าพักฝากเล่น ผู้ปฏิบัติมากขึ้น เปิดการทำเหมืองแร่ฮาร์ดร็อค การดำเนินงานเช่นอุตสาหกรรมต้องการทุนมากขึ้น และแนวคิดทางเศรษฐกิจสิทธิแร่ทำให้เกิดเป็นครั้งคราวความขัดแย้งระหว่างเจ้าของเหมือง คนงานเหมืองผู้ขายแรงงานของพวกเขาทำงานในเหมืองแร่มากขึ้นเป็นเหมืองแร่ที่ขุดลึก พวกเขาเป็นอันตรายมากขึ้น และการทำงานลำบากมากขึ้น การสร้างเงื่อนไขสำหรับข้อขัดแย้ง ใน 1880 โคโลราโดผู้ Pitkin สาธารณรัฐสังคมนิยมการ ประกาศกฎอัยการศึกจะระงับการตีรุนแรงเหมืองที่ Leadville ในช่วงปี 1890 สื่อโคโลราโดในเหมืองเริ่มฟอร์มสหภาพเพื่อปกป้องตัวเอง ผู้ประกอบการเหมืองก่อตั้งสมาคมเจ้าของเหมืองมักตอบสนอง การตั้งค่าเงื่อนไขสำหรับความขัดแย้ง ข้อพิพาทแรงงานที่โดดเด่นระหว่างฮาร์ดร็อคผู้ปฏิบัติและผู้ประกอบการเหมืองรวมตีครีกในของ 1894 และสงครามแรงโคโลราโดของ 1903-04การทำเหมืองถ่านหินในโคโลราโดเริ่มทันทีหลังจากเข้ามาตั้งถิ่นฐานครั้งแรก แม้ว่าการค้นพบถ่านหินไม่ทำบูมรอบเป็นได้โลหะ อุตสาหกรรมเหมืองถ่านหินในช่วงก่อตั้งเงื่อนไขสำหรับการเผชิญหน้ารุนแรงระหว่างผู้ปฏิบัติและเจ้าของยัง ปัญหาปกติได้ค่าจ้าง ชั่วโมง และสภาพการทำงาน แต่ยังกังวลเกี่ยวกับปัญหาของธรรม และบริษัทควบคุมชีวิตส่วนตัวผู้ปฏิบัติได้ ช่วงเหมืองถ่านหินในโคโลราโดถูกอันตราย และรัฐมีอัตราตายสูงสุดหนึ่งในประเทศ ในช่วงสามทศวรรษที่ผ่านมาจาก 1884 ถึง 1914, 1700 กว่าคนเสียชีวิตในเหมืองถ่านหินของโคโลราโด [8] เหมืองถ่านหินนอกจากนี้ resented มีความปลอดภัยการทำงานเช่น timbering เหมืองแร่ และบางครั้งพวกเขาได้จ่ายใน scrip ที่มีค่าเฉพาะในร้านค้าบริษัท กับต้นทุนของสินค้าที่กำหนด โดยบริษัทนัดหยุดงานในปี 1913 เป็นผลในการสังหารหมู่เลิร์ดโลว 1914 นัดหยุดงานถ่านหินอื่นใน 1927 เป็นรู้จักกันดีสำหรับของโคโลราโดแรก Columbine สังหารหมู่ ในปี 1933 กฎหมายสหพันธ์ครั้งแรกได้เหมืองถ่านหินโคโลราโดทั้งหมดจะเข้าร่วมสหภาพแรงงานโดยไม่ต้องกลัวของต่างเช่นสกัดทรัพยากรทั้งหมด ทำเหมืองแร่เป็นอุตสาหกรรมบูมหรือหน้าอก ปี หลายเมือง ก่อ ยกเลิกแล้ว เมื่อแร่วิ่งออก ยุบ ตลาด หรือเป็นการใช้ทรัพยากรอื่น เมื่อมีเหมืองถ่านหินกว่าหนึ่งร้อยในพื้นที่ทางเหนือ ของเดนเวอร์ และทางตะวันออก จากโบลเดอร์ เหมืองแร่เริ่มปิดเมื่อถึงบรรทัดของก๊าซธรรมชาติ ถ่านหินและโลหะมีค่ายังขุดในโคโลราโด แต่มีการเปลี่ยนแปลงอุตสาหกรรมเหมืองแร่อย่างมากในทศวรรษที่ผ่านมาล่าสุดผู้ป่วยวัณโรคอยู่ในเตียงบนระเบียงอาคารที่ sanatorium ยิว Consumptive ปลดปล่อยสังคม (J.C.R.S.)รายงานการฟื้นฟูของเหมืองแร่โมลิบดีนัมในปี 2550 ส่งผลให้ในการตอบสนองไม่แน่ใจ [9] พร้อมต้อนรับการเปิดเหมืองที่จุดสุดยอด, [10] [11] แต่ฝ่ายค้านที่แข็งแกร่งในเนินยอดป้านใหญ่หงอนเหลืองผ่านการดำเนินงานนำเสนอที่เมาท์ Emmons Leadville [12] มากขึ้นมีแบ่งในเปอร์โตริโก เว็บไซต์ของ stockwork ซิลเวอร์ครีฝากโมลิบดีนัม [13] เห็น มี ที่ดินที่กำหนดให้มีการพัฒนาเป็นการซื้อขึ้น โดยบริษัทเหมืองแร่ [14]วันนี้มีหมดทำเหมืองขนาดเล็กจำนวนมากที่กระจัดกระจายทั่วโคโลราโด Leadville จอร์จทาวน์ ในครีก วิคเตอร์ และเซ็นทรัลซิตี้ แม้ว่าหลายเหมืองไม่มี เศษของการดำเนินงานสามารถดูได้ในแบบฟอร์มของฉันเพลา outbuildings และ mounds หินสกัดจากภูเขา เมืองหลายเมืองเหมืองเดิมเปิดการพนันการวาดผู้เยี่ยมชม Blackhawk กับครีกในหน้าที่เป็นอย่างดี ศตวรรษที่ 19 สิ้นสุดกับสถานการณ์ law-and-order ยากในโคโลราโดสถาน สุดยวด Creede บาง ที่ gunmen ชอบโรเบิร์ตฟอร์ด (ฆาตกรของเจสซี James) และคนคอนเช่น Soapy Smith reigned ในแก้ไข "อ็อคของโลก"เริ่มต้นใน 1860s เมื่อวัณโรค (TB) เป็นโรคที่ร้ายแรง แพทย์ตะวันออกสหรัฐอเมริกาแนะนำว่า ผู้ป่วยของพวกเขาย้ายไปซัน แห้งสภาพอากาศในปอดของพวกเขา เป็นผล จำนวนคนที่มีวัณโรค เรียกว่า "lungers" ในรัฐโต alarmingly และไม่ มีบริการหรือสิ่งอำนวยความสะดวกเพื่อรองรับความต้องการ ไม่ทราบว่าวิธีการจัดการประชากรคนจรจัด ป่วย จำนวนมากได้นำไปติดคุก เนื่องจากจำนวนคนมี TB และครอบครัวมาเดนเวอร์เพื่อสุขภาพ โดยปัจจุบัน มันเป็นการตะลุย "อ็อคของโลก" สเตาท์ Cynthia นักวิชาการมีประวัติ คนที่ โดย 1900 "หนึ่งในสามของประชากรของโคโลราโดถูกคนของรัฐเนื่องจากวัณโรค

ผลลัพธ์ (ไทย) 2:

การทำเหมืองแร่ในโคโลราโดแก้ไขโคโลราโดแร่เข็มขัดเข้าร่วมในการหอกยอดทองพุ่ง1858-1861 ถูกเรียกว่าห้าสิบ Niners และอีกหลายแห่งเข้ามาใหม่ตั้งรกรากอยู่ในพื้นที่เดนเวอร์ ทองในการจ่ายเงินจำนวนนี้ยังมีการค้นพบในพื้นที่เซ็นทรัลซิตี้ ใน 1,879, เงินถูกค้นพบในลีดวิลส่งผลให้เงินบูมโคโลราโด. หลายความพยายามของการทำเหมืองแร่ต้นกิจการสหกรณ์ อย่างไรก็ตามในขณะที่เงินฝากพื้นผิวที่ง่ายต่อการเข้าถึงเล่นออกมาคนงานมากขึ้นที่จะหันมาทำเหมืองแร่ฮาร์ดร็อค การดำเนินงานของอุตสาหกรรมดังกล่าวจำเป็นต้องใช้เงินทุนมากขึ้นและแนวคิดทางเศรษฐกิจของแร่สิทธิมนุษยชนส่งผลให้เกิดความขัดแย้งเป็นระยะ ๆ ระหว่างเจ้าของเหมืองและคนงานเหมืองแร่ที่ขายมากขึ้นแรงงานของพวกเขาในการทำงานในเหมือง. ในฐานะที่เป็นเหมืองถูกขุดลึกลงไปพวกเขากลายเป็นอันตรายมากขึ้นและ การทำงานที่ยากลำบากมากขึ้นในการสร้างเงื่อนไขความขัดแย้ง ในปี 1880, ผู้ว่าการรัฐโคโลราโดพิทรีพับลิกันประกาศกฎอัยการศึกในการปราบปรามการนัดหยุดงานการทำเหมืองแร่ที่มีความรุนแรงในลีดวิล ในยุค 1890 คนงานเหมืองหลายโคโลราโดเริ่มฟอร์มสหภาพแรงงานเพื่อปกป้องตัวเอง ผู้ประกอบการเหมืองที่เกิดขึ้นมักจะสมาคมเจ้าของเหมืองในการตอบสนองต่อการตั้งค่าเงื่อนไขสำหรับความขัดแย้ง ข้อพิพาทแรงงานที่โดดเด่นระหว่างคนงานเหมืองฮาร์ดร็อคและผู้ประกอบการเหมืองรวมถึงการนัดหยุดงานของคนพิการห้วย 1894 และโคโลราโดแรงงานสงครามของ 1903-1904. การทำเหมืองถ่านหินในโคโลราโดเริ่มเร็ว ๆ นี้หลังจากที่เข้ามาตั้งถิ่นฐานแรกที่มาถึง แม้ว่าการค้นพบของถ่านหินไม่ก่อให้เกิดวงจรความเจริญเช่นเดียวกับโลหะมีค่าในอุตสาหกรรมการทำเหมืองถ่านหินในช่วงต้นยังสร้างเงื่อนไขสำหรับการเผชิญหน้ารุนแรงระหว่างคนงานเหมืองและเจ้าของเหมือง ปัญหาที่ตามปกติมีค่าจ้างชั่วโมงและสภาพการทำงาน แต่คนงานเหมืองนั้นยังมีความกังวลเกี่ยวกับปัญหาของความเป็นธรรมและการควบคุมของ บริษัท ในช่วงชีวิตส่วนตัวของพวกเขา การทำเหมืองถ่านหินในช่วงต้นโคโลราโดเป็นอันตรายมากและรัฐมีหนึ่งของอัตราการตายสูงที่สุดในประเทศ ในช่วงสามทศวรรษที่ผ่านมา 1884-1914 กว่า 1,700 คนเสียชีวิตในรัฐโคโลราโดของเหมืองถ่านหิน. [8] คนงานเหมืองถ่านหินยังไม่พอใจต้องจ่ายเพื่อความปลอดภัยในการทำงานเช่นไม้เหมืองแร่และพวกเขาได้รับเงินในบางครั้งใบที่มีค่าเฉพาะใน ร้านค้าของ บริษัท ที่มีต้นทุนของสินค้าที่กำหนดโดย บริษัท . ตีในปี 1913 ส่งผลให้ปี 1914 การสังหารหมู่ลุดโลว์ การนัดหยุดงานอีกถ่านหินในปี 1927 เป็นที่รู้จักกันดีที่สุดสำหรับการสังหารหมู่โคลัมไบแรกของโคโลราโด ในปี 1933 การออกกฎหมายของรัฐบาลกลางเป็นครั้งแรกที่ได้รับอนุญาตทุกคนงานเหมืองถ่านหินโคโลราโดที่จะเข้าร่วมสหภาพโดยไม่ต้องกลัวของการตอบโต้. เช่นเดียวกับการสกัดทรัพยากรทั้งหมดการทำเหมืองแร่เป็นบูมหรืออุตสาหกรรมหน้าอกและมากกว่าปีที่เมืองเล็ก ๆ จำนวนมากที่ถูกจัดตั้งขึ้นแล้วที่ถูกทิ้งร้างเมื่อแร่ วิ่งออกมาจากตลาดทรุดตัวลงหรือทรัพยากรอื่นกลายเป็นใช้ได้ มีครั้งหนึ่งเคยเป็นกว่าร้อยเหมืองถ่านหินในพื้นที่ทางตอนเหนือของเดนเวอร์และตะวันออกของโบลเดอ เหมืองเริ่มที่จะปิดเมื่อเส้นก๊าซธรรมชาติมาถึง ถ่านหินและโลหะมีค่าที่ขุดยังคงอยู่ในโคโลราโด แต่อุตสาหกรรมเหมืองแร่ที่มีการเปลี่ยนแปลงอย่างมากในช่วงทศวรรษที่ผ่านมา. ผู้ป่วยวัณโรคอยู่ในเตียงบนระเบียงของอาคารที่ชาวยิวบริโภคสมาคมสงเคราะห์ที่ (JCRS) โรงพยาบาลรายงานของการฟื้นตัวของการทำเหมืองแร่โมลิบดีนัมใน2007 ส่งผลให้เกิดการตอบสนองเด็ดขาด [9] กับลีดวิลต้อนรับการเปิดตัวของเหมืองที่ Climax ที่ [10] [11] แต่ฝ่ายค้านที่แข็งแกร่งในเตมากกว่าการดำเนินงานเสนอที่ภูเขา Emmons. [12] ความเห็นในเปอร์โตริโกเว็บไซต์ของครีกเงิน stockwork ฝากโมลิบดีนัม [13] คือแบ่งออกมากขึ้น มีที่ดินที่กำหนดไว้สำหรับการพัฒนาจะถูกซื้อโดย บริษัท เหมืองแร่. [14] วันนี้มีหลายเมืองเหมืองแร่ขนาดเล็กกระจายอยู่ทั่วโคโลราโดเช่นลีดวิล, จอร์จ Cripple Creek วิคเตอร์และเซ็นทรัลซิตี้ แม้ว่าจะมีหลายเหมืองไม่ทำงานเศษของการดำเนินงานที่สามารถมองเห็นได้ในรูปแบบของปล่องเหมืองที่สิ่งก่อสร้างและกองหินที่สกัดจากเนินเขา หลายเมืองเหมืองแร่ในอดีตหันไปเล่นการพนันที่จะดึงผู้เข้าชมมี Blackhawk Cripple Creek และทำหน้าที่เป็นตัวอย่างที่ดี ศตวรรษที่ 19 จบลงด้วยสถานการณ์ที่ยากลำบากกฎหมายและความสงบเรียบร้อยในสถานที่บางที่สุด Creede, โคโลราโด, มือปืนที่โรเบิร์ตฟอร์ดเช่น (นักฆ่าของเจสซี่เจมส์) และนักโทษชายเช่นสบู่สมิ ธ ครองราชย์ ใน"โลกของโรงพยาบาล" แก้ไขเริ่มต้นในยุค1860 เมื่อวัณโรค (TB) เป็นโรคร้ายแรงที่สำคัญแพทย์ในภาคตะวันออกของสหรัฐฯแนะนำว่าผู้ป่วยของพวกเขาย้ายไปแดดสภาพอากาศที่แห้งปอด เป็นผลให้จำนวนของคนที่เป็นวัณโรคเรียกว่า "lungers" ในรัฐเพิ่มขึ้นอย่างน่าตกใจและไม่มีบริการหรือสิ่งอำนวยความสะดวกเพื่อรองรับความต้องการของพวกเขา ไม่ทราบวิธีการจัดการประชากรจรจัดคนป่วยหลายคนถูกนำไปขังคุก เพราะจำนวนของคนที่มีวัณโรคและครอบครัวของพวกเขาที่มาเดนเวอร์สุขภาพของพวกเขาโดยยุค 1880 มันเป็นชื่อเล่นที่ "โลกของโรงพยาบาล" ซินเทียอ้วนนักวิชาการประวัติศาสตร์ซึ่งถูกกล่าวหาว่าโดย 1900 "หนึ่งในสามของประชากรของโคโลราโดเป็นที่อาศัยอยู่ในรัฐเพราะวัณโรค

ผลลัพธ์ (ไทย) 3:

ทำเหมืองในโคโลราโดโคโลราโดแร่เข็มขัดแก้ไข



ผู้เข้าร่วมของหอกทองพุ่งจากในปี 1858 เรียกห้าสิบไนเนอร์และหลายของเข้ามาใหม่ตั้งรกรากอยู่ในเดนเวอร์พื้นที่ ทองในการจ่ายปริมาณถูกค้นพบในเขตศูนย์กลางเมือง ใน 1879 , เงินถูกค้นพบใน leadville ที่เกิดในโคโลราโดบูมเงิน

หลายต้นเหมืองแร่ในกิจการของสหกรณ์อย่างไรก็ตาม เป็นเรื่องง่ายที่จะเข้าถึงเงินฝากพื้นผิวเล่นยิ่งขึ้นเปิดเหมืองแร่เหมืองหินแข็ง การประกอบอุตสาหกรรมดังกล่าวต้องใช้ทุนมากขึ้น และแนวคิดทางเศรษฐกิจของสิทธิแร่ส่งผลให้เกิดความขัดแย้งเป็นระยะระหว่างเจ้าของเหมืองและเหมืองที่มากขึ้นขายแรงงานของพวกเขาทำงานในเหมือง

เป็นเหมืองถูกขุดลึกก็ยิ่งอันตรายและงานลำบากมากขึ้น การสร้างเงื่อนไขความขัดแย้ง ใน 1880 โคโลราโดราชการพิตคิ้น , สาธารณรัฐ , ประกาศกฎอัยการศึกเพื่อระงับความรุนแรงที่นัดหยุดงานเหมือง leadville . ในอังกฤษหลายโคโลราโดเหมืองเริ่มฟอร์มสหภาพแรงงานเพื่อปกป้องตัวเอง ผู้ประกอบการเหมืองมักจะก่อตั้งสมาคมเจ้าของเหมืองในการตอบสนอง , การตั้งค่าเงื่อนไขความขัดแย้ง