งานวิจัยนี้จัดทำขึ้นเพื่อนำเถ้าชานอ

งานวิจัยนี้จัดทำขึ้นเพื่อนำเถ้าชานอ้อยซึ่งเป็นวัสดุพลอยได้จากโรงงานอุตสาหกรรมผลิตน้ำตาลที่มีอยู่ในท้องถิ่นมาใช้เป็นวัสดุปอซโซลานเพื่อทดแทนปูนซีเมนต์บางส่วน โดยทำการปรับปรุงคุณภาพของเถ้าชานอ้อยด้วยการเผาแคลไซน์ที่อุณหภูมิ 500–900 องศาเซลเซียสและทำการบดให้มีความละเอียดสูงขึ้น แล้วนำมาแทนที่ปูนซีเมนต์ปอร์ตแลนด์ในปริมาณร้อยละ 20 โดยน้ำหนัก เพื่อศึกษากำลังอัด ความหนาแน่น การดูดซึมน้ำ และค่าความพรุนของซีเมนต์มอร์ต้าร์ที่ระยะเวลาการบ่ม 7 และ 28 วัน นอกจากนี้ยังได้วิเคราะห์ลักษณะเฟสของปูนเพสต์ด้วยเทคนิค XRD
จากผลการทดลองพบว่ากำลังอัดและความหนาแน่นของมอร์ต้าร์ที่ผสมเถ้าชานอ้อยที่ผ่านการเผาแคลไซน์ที่อุณหภูมิต่างๆ จะมีค่ากำลังอัดที่ต่ำกว่ามอร์ต้าร์ควบคุม ที่ระยะเวลาการบ่ม 7 วัน และจะมีค่าใกล้เคียงกับคอนกรีตควบคุมที่ระยะเวลาการบ่มที่ 28 วัน ส่วนการดูดซึมน้ำและความพรุนจะมีความสัมพันธ์ไปในทิศทางเดียวกันและมีค่าต่ำกว่ามอร์ต้าร์ควบคุม

ผลลัพธ์ (สโลวีเนีย) 1:

งานวิจัยนี้จัดทำขึ้นเพื่อนำเถ้าชานอ้อยซึ่งเป็นวัสดุพลอยได้จากโรงงานอุตสาหกรรมผลิตน้ำตาลที่มีอยู่ในท้องถิ่นมาใช้เป็นวัสดุปอซโซลานเพื่อทดแทนปูนซีเมนต์บางส่วน 500–900 องศาเซลเซียสและทำการบดให้มีความละเอียดสูงขึ้น แล้วนำมาแทนที่ปูนซีเมนต์ปอร์ตแลนด์ในปริมาณร้อยละ 20 โดยน้ำหนัก เพื่อศึกษากำลังอัด ความหนาแน่น การดูดซึมน้ำ 7 และ 28 วัน นอกจากนี้ยังได้วิเคราะห์ลักษณะเฟสของปูนเพสต์ด้วยเทคนิค XRD
จากผลการทดลองพบว่ากำลังอัดและความหนาแน่นของมอร์ต้าร์ที่ผสมเถ้าชานอ้อยที่ผ่านการเผาแคลไซน์ที่อุณหภูมิต่างๆ จะมีค่ากำลังอัดที่ต่ำกว่ามอร์ต้าร์ควบคุม ที่ระยะเวลาการบ่ม 7 วัน 28 วัน ส่วนการดูดซึมน้ำและความพรุนจะมีความสัมพันธ์ไปในทิศทางเดียวกันและมีค่าต่ำกว่ามอร์ต้าร์ควบคุม

ผลลัพธ์ (สโลวีเนีย) 2:

500-900 20 โดย น้ำหนัก เพื่อ ศึกษา กำลัง อัด ความ หนาแน่น การ ดูด ซึม น้ำ 7. และ 28 วัน
ที่ ระยะ เวลา การ บ่ม 7 วัน 28 วัน