The Rosetta StoneThe Rosetta StoneT

The Rosetta Stone
The Rosetta Stone
The Rosetta Stone
What is the Rosetta Stone?

The Rosetta Stone is a stone with writing on it in two languages (Egyptian and Greek), using three scripts (hieroglyphic, demotic and Greek).

Why is it in three different scripts?

The Rosetta Stone is written in three scripts because when it was written, there were three scripts being used in Egypt.

The first was hieroglyphic which was the script used for important or religious documents.

Detail of hieroglyphic and demotic script on the Rosetta Stone
Detail of hieroglyphic and demotic script on the Rosetta Stone
The second was demotic which was the common script of Egypt.

The third was Greek which was the language of the rulers of Egypt at that time.

The Rosetta Stone was written in all three scripts so that the priests, government officials and rulers of Egypt could read what it said.

When was the Rosetta Stone made?

The Rosetta Stone was carved in 196 B.C..

When was the Rosetta Stone found?

The Rosetta Stone was found in 1799.

Who found the Rosetta Stone?

The Rosetta Stone was found by French soldiers who were rebuilding a fort in Egypt.

Where was the Rosetta Stone found?

The Rosetta Stone was found in a small village in the Delta called Rosetta (Rashid).

Why is it called the Rosetta Stone?

It is called the Rosetta Stone because it was discovered in a town called Rosetta (Rashid).

What does the Rosetta Stone say?

The Rosetta Stone is a text written by a group of priests in Egypt to honour the Egyptian pharaoh. It lists all of the things that the pharaoh has done that are good for the priests and the people of Egypt.

Who deciphered hieroglyphs? Many people worked on deciphering hieroglyphs over several hundred years. However, the structure of the script was very difficult to work out.

After many years of studying the Rosetta Stone and other examples of ancient Egyptian writing, Jean-François Champollion deciphered hieroglyphs in 1822.

How did Champollion decipher hieroglyphs?

Champollion could read both Greek and coptic.

He was able to figure out what the seven demotic signs in coptic were. By looking at how these signs were used in coptic he was able to work out what they stood for. Then he began tracing these demotic signs back to hieroglyphic signs.

By working out what some hieroglyphs stood for, he could make educated guesses about what the other hieroglyphs stood for.

ผลลัพธ์ (ไทย) 1:

Rosetta StoneRosetta StoneRosetta StoneRosetta Stone คืออะไรRosetta Stone เป็นหินที่ มีเขียนไว้ในภาษาที่สอง (อียิปต์และกรีก), ใช้สามสคริปต์ (hieroglyphic กไม่ และกรีก)จึงเป็นในสคริปต์ต่าง ๆ ที่สามศิลาถูกเขียนในสคริปต์สามเพราะเมื่อมันถูกเขียนขึ้น มี สามสคริปต์ถูกใช้ในอียิปต์ครั้งแรกถูก hieroglyphic ซึ่งเป็นสคริปต์ที่ใช้สำหรับเอกสารสำคัญ หรือศาสนารายละเอียดของสคริปต์ hieroglyphic และกไม่บนศิลารายละเอียดของสคริปต์ hieroglyphic และกไม่บนศิลาที่สองคือกไม่ซึ่งเป็นสคริปต์ทั่วไปของอียิปต์ที่สามคือ กรีกซึ่งเป็นภาษาของผู้ปกครองของอียิปต์ในเวลานั้นศิลาถูกเขียนในสคริปต์ทั้งหมดที่สามเพื่อให้พระสงฆ์ เจ้าหน้าที่รัฐ และผู้ปกครองของอียิปต์สามารถอ่านได้ว่าศิลาทำเมื่อแกะสลักจากศิลาในคศ. 196เมื่อได้พบศิลาพบศิลาใน 1,799ที่พบศิลาพบศิลา โดยทหารฝรั่งเศสที่ถูกบูรณะป้อมในอียิปต์ที่ศิลาค้นพบRosetta Stone พบในหมู่บ้านเล็ก ๆ ในเดลต้าที่เรียกว่า Rosetta (ราชิด)อยากทราบว่าศิลามันคือศิลาเนื่องจากมันถูกค้นพบในเมืองเรียกว่า Rosetta (ราชิด)ศิลาพูดอะไรศิลาเป็นข้อความที่เขียน โดยกลุ่มของพระสงฆ์ในอียิปต์เพื่อเป็นเกียรติแก่ฟาโรห์อียิปต์ จะแสดงรายการทั้งหมดของสิ่งที่ทำฟาโรห์ที่ดีสำหรับปุโรหิตและชาวอียิปต์ที่อลเลาะห์ hieroglyphs หลายคนทำงานไขรหัส hieroglyphs กว่าหลายร้อยปี อย่างไรก็ตาม โครงสร้างของสคริปต์เป็นเรื่องยากที่จะทำงานออกหลังจากหลายปีของการเรียนที่ Rosetta Stone และอื่น ๆ ตัวอย่างของการเขียนอียิปต์โบราณ ฌองฟรังซัว Champollion อลเลาะห์ hieroglyphs ใน 1822วิธี Champollion ไม่ถอดรหัส hieroglyphsChampollion สามารถอ่านภาษากรีกและคอปติกเขาก็สามารถที่จะคิดออกเจ็ดอะไรกไม่สัญญาณในไอยคุปต์ได้ โดยดูจากสัญญาณเหล่านี้ถูกใช้ในไอยคุปต์ที่เขาได้มีการทำงานจากสิ่งที่พวกเขายืน จากนั้น เขาเริ่มการติดตามสัญญาณเหล่านี้กไม่ไปสัญญาณ hieroglyphicโดยการทำงานออกอะไร hieroglyphs บางที่ยืน เขาจะทำให้เดาเกี่ยวกับสิ่งอื่น ๆ hieroglyphs ยืน

ผลลัพธ์ (ไทย) 2:

ศิลาโรเซตตา
ศิลาโรเซตตา
ศิลาโรเซตตา
คืออะไร Rosetta Stone? ศิลาโรเซตตาเป็นหินที่มีการเขียนเกี่ยวกับมันในสองภาษา (อียิปต์และกรีก) โดยใช้สามสคริปต์ (อียิปต์, โมติกและภาษากรีก). มันอยู่ในสามทำไม สคริปต์แตกต่างกันอย่างไรศิลาโรเซตตาถูกเขียนในสามสคริปต์เพราะเมื่อมันถูกเขียนขึ้นมีสามสคริปต์ถูกนำมาใช้ในอียิปต์. เป็นครั้งแรกที่อียิปต์ซึ่งเป็นสคริปต์ที่ใช้สำหรับเอกสารสำคัญหรือศาสนา. รายละเอียดของสคริปต์อียิปต์และโมติกบน Rosetta หินรายละเอียดของสคริปต์อียิปต์และโมติกบน Rosetta Stone ที่สองก็คือโมติกซึ่งเป็นสคริปต์ที่พบบ่อยของอียิปต์. ที่สามเป็นภาษากรีกซึ่งเป็นภาษาของผู้ปกครองอียิปต์ในเวลานั้น. the ศิลาโรเซตตาถูกเขียนขึ้นในทั้งสามสคริปต์เพื่อให้ ว่าพระสงฆ์ข้าราชการและผู้ปกครองของอียิปต์สามารถอ่านสิ่งที่มันกล่าวว่า. เมื่อเป็น Rosetta Stone ทำ? ศิลาโรเซตตาได้รับการแกะสลักใน 196 BC. เมื่อเป็น Rosetta Stone พบ? ศิลาโรเซตตาถูกพบใน 1,799 ใครพบ Rosetta Stone? ศิลาโรเซตตาถูกพบโดยทหารฝรั่งเศสที่ได้รับการสร้างป้อมปราการในอียิปต์. ไหนเป็น Rosetta Stone พบ? ศิลาโรเซตตาถูกพบอยู่ในหมู่บ้านเล็ก ๆ ในสามเหลี่ยมปากเรียกว่า Rosetta (Rashid). เพราะเหตุใดจึงเรียกว่า Rosetta หิน? มันถูกเรียกว่า Rosetta Stone เพราะมันถูกค้นพบในเมืองเรียกว่า Rosetta (Rashid). อะไร Rosetta Stone พูด? ศิลาโรเซตตาเป็นข้อความที่เขียนโดยกลุ่มของพระสงฆ์ในอียิปต์เพื่อเป็นเกียรติแก่ฟาโรห์อียิปต์ จะแสดงทุกสิ่งที่ฟาโรห์ได้ทำที่ดีสำหรับพระสงฆ์และคนอียิปต์. ใครถอดรหัสอักษร? มีหลายคนที่ทำงานเกี่ยวกับกราฟฟิคถอดรหัสในช่วงหลายร้อยปี แต่โครงสร้างของสคริปต์เป็นเรื่องยากมากที่จะทำงานออก. หลังจากหลายปีของการศึกษา Rosetta Stone และตัวอย่างอื่น ๆ ของการเขียนอียิปต์โบราณ Jean-François Champollion ถอดรหัสอักษรใน 1,822 อย่างไร Champollion ถอดรหัสอักษร? Champollion สามารถอ่านได้ทั้งภาษากรีก และคอปติก. เขาก็สามารถที่จะคิดออกว่าเจ็ดสัญญาณโมติกในอียิปต์โบราณได้ โดยมองว่าสัญญาณเหล่านี้ถูกนำมาใช้ในอียิปต์โบราณเขาก็สามารถที่จะทำงานออกสิ่งที่พวกเขายืนอยู่ แล้วเขาก็เริ่มติดตามสัญญาณโมติกเหล่านี้กลับไปสัญญาณอียิปต์. โดยการทำงานออกว่ากราฟฟิคบางยืนเขาสามารถทำให้คาดเดาการศึกษาเกี่ยวกับสิ่งกราฟฟิคอื่น ๆ ที่ยืนอยู่