Cuncashca Peru is a remote communit

Cuncashca Peru is a remote community of 64 farming families near Barrick’s Pierina mine. Pierina was an open-pit gold mine that operated from 1996 to 2010. During this time Barrick voluntarily initiated a number of corporate social responsibility projects to extend the benefits of mining to the community including improving access to clean water, health care, housing and education.[28, pp.96-97]

The Cuncashca Business Development Project was developed with community involvement and used agriculture, animal husbandry, dairy production, and entrepreneurial training to support agri-business development. Project components included business and agricultural training, improving water infrastructure, and building a new dairy and processing plant.[29]

This project has led to a number of positive results for farmers and supported a shift from subsistence farming towards income generation. The average monthly household income increased from $46 in 2002 to $166 in 2008.[29] The dairy plant now produces 4,200 liters of milk per month, and cheese production increased 400% between 2005 and 2007.[30] Water usage also declined by 40% thanks to conservation techniques, and the rate of chronic malnutrition amongst children under three decreased from 46% to 38% between 2002 and 2008.[30]

ผลลัพธ์ (ไทย) 1:

Cuncashca เปรูเป็นชุมชนระยะไกลของครอบครัวใกล้เหมืองของ Barrick Pierina 64 Pierina คือ การเหมืองทองของหลุมเปิดดำเนินการจากปี 1996 ถึง 2010 ในช่วงเวลานี้ Barrick สมัครใจริเริ่มหลายโครงการสังคมขยายประโยชน์ของการทำเหมืองแร่เป็นชุมชนรวมทั้งการปรับปรุงการเข้าถึงการทำความสะอาดน้ำ สุขภาพ ที่อยู่อาศัย และการศึกษา [28, pp.96-97]Cuncashca ธุรกิจพัฒนาโครงการพัฒนากับชุมชน และใช้เกษตร เลี้ยงสัตว์ ผลิตจากนม และการฝึกอบรมผู้ประกอบการเพื่อสนับสนุนการพัฒนาธุรกิจเกษตร โครงการคอมโพเนนต์รวมธุรกิจเกษตรการฝึกอบรม การปรับปรุงน้ำโครงสร้าง พื้นฐาน นมใหม่เป็นอาคาร และโรงงานแปรรูป [29]โครงการนี้ได้นำไปสู่จำนวนของผลในเชิงบวกสำหรับเกษตรกร และสนับสนุนการเปลี่ยนแปลงจากการเกษตรไปสู่การสร้างรายได้ดำรงชีวิต รายได้ครอบครัวเฉลี่ยรายเดือนเพิ่มจาก $46 ใน 2002 เป็น $166 ใน 2008 [29] พืชนมผลิตนมเดือนละ 4,200 ลิตรขณะนี้ และการผลิตชีสเพิ่มขึ้น 400% ระหว่าง 2005 และ 2007 [30] การใช้น้ำยัง ลดลง 40% จากเทคนิคการอนุรักษ์ และอัตราการขาดสารอาหารเรื้อรังในหมู่เด็กใต้สามลดลงจาก 46% เป็น 38% ระหว่าง 2002 และ 2008 [30]

ผลลัพธ์ (ไทย) 2:

Cuncashca เปรูเป็นชุมชนที่ห่างไกลจาก 64 ครอบครัวเกษตรกรที่อยู่ใกล้กับเหมือง Pierina Barrick ของ Pierina เป็นเหมืองทองเปิดหลุมที่ดำเนินการจากปี 1996 ถึงปี 2010 ในช่วงเวลานี้ Barrick สมัครใจเริ่มต้นจำนวนขององค์กรโครงการความรับผิดชอบต่อสังคมที่จะขยายผลประโยชน์ของการทำเหมืองแร่ให้กับชุมชนรวมทั้งการปรับปรุงการเข้าถึงน้ำสะอาด, การดูแลสุขภาพ, ที่อยู่อาศัยและการศึกษา . [28 pp.96-97]

โครงการพัฒนาธุรกิจ Cuncashca รับการพัฒนาด้วยการมีส่วนร่วมของชุมชนและการใช้การเกษตรการเลี้ยงสัตว์การผลิตนมและการฝึกอบรมผู้ประกอบการเพื่อสนับสนุนการพัฒนาธุรกิจเกษตร ส่วนประกอบโครงการรวมธุรกิจและการฝึกอบรมการเกษตรการปรับปรุงโครงสร้างพื้นฐานน้ำและการสร้างนมและการประมวลผลโรงงานใหม่. [29]

โครงการนี้ได้นำไปสู่จำนวนของผลในเชิงบวกสำหรับเกษตรกรและสนับสนุนการเปลี่ยนแปลงจากการดำรงชีวิตการทำการเกษตรที่มีต่อการสร้างรายได้ เฉลี่ยรายได้ของครอบครัวต่อเดือนเพิ่มขึ้นจาก $ 46 ในปี 2002 เพื่อ $ 166 ในปี 2008 [29] โรงงานนมในขณะนี้ผลิต 4,200 ลิตรของนมต่อเดือนและการผลิตชีสเพิ่มขึ้น 400% ระหว่างปี 2005 และ 2007 [30] การใช้น้ำยังลดลง 40% ขอบคุณเทคนิคการอนุรักษ์และอัตราการขาดสารอาหารเรื้อรังในหมู่เด็กอายุต่ำกว่าสามลดลงจาก 46% เป็น 38% ระหว่างปี 2002 และ 2008 [30]

ผลลัพธ์ (ไทย) 3:

cuncashca เปรูเป็นชุมชนระยะไกล 64 ครอบครัวเกษตรกรใกล้ Barrick ของ pierina ของฉัน pierina เป็น - เปิดเหมืองทอง ที่ดำเนินการตั้งแต่ปี พ.ศ. 2553 ในช่วงเวลานี้ Barrick สมัครใจริเริ่มตัวเลขของโครงการความรับผิดชอบต่อสังคมขององค์กรธุรกิจที่จะขยายสิทธิประโยชน์ของเหมืองในชุมชน รวมถึงปรับปรุงการเข้าถึงน้ำที่สะอาด , การดูแลสุขภาพ , ที่อยู่อาศัยและการศึกษา [ 28 pp.96-97 ]การ cuncashca พัฒนาธุรกิจโครงการได้รับการพัฒนากับการมีส่วนร่วมของชุมชน และใช้ในการเกษตร การเลี้ยงสัตว์ การเลี้ยงโคนม และฝึกอบรมผู้ประกอบการเพื่อสนับสนุนการพัฒนาธุรกิจเกษตร . ส่วนประกอบของโครงการรวมธุรกิจการเกษตรและการฝึกอบรมการปรับปรุงโครงสร้างพื้นฐานน้ำ และอาคารและโรงงานแปรรูปนมใหม่ [ 29 ]โครงการนี้ได้นำไปสู่จำนวนของผลลัพธ์ที่เป็นบวก สำหรับเกษตรกร และสนับสนุนให้เปลี่ยนจากเกษตรยังชีพไปสู่การสร้างรายได้ . รายได้เฉลี่ยของครัวเรือนต่อเดือน เพิ่มขึ้นจาก $ 46 ในปี 2002 $ 166 ใน 2008 . [ 29 ] โรงงานผลิตนมแล้วนม 4200 ลิตรต่อเดือน และการผลิตเนยแข็งเพิ่มขึ้น 400% ระหว่างปี 2005 และ 2007 [ 30 ] การใช้น้ำยังลดลง 40 % ขอบคุณเทคนิคการอนุรักษ์ และอัตราของภาวะเรื้อรัง หมู่เด็กใต้สามลดลงจาก 46% 38% ระหว่าง 2002 และ 2008 . [ 30 ]