Phone Information Disclosure Furthe

Phone Information Disclosure Furthermore, critical information is user's phone
contents. We also give an attack scenario about it in the following section. In our sample code, we first use getContentResolverO to return a ContentResolver instance for user's application's package and also use getColunmIndex(String columnName) to return the zero­based index for the given colunm name or -1 if the column doesn't exist. Otherwise, we rely on getCountO which means how many items are in the data set represented by this Adapter and moveToNextO which can move the cursor to the next row. The code is presented in Figure 1 .

ผลลัพธ์ (ไทย) 1:

การเปิดเผยข้อมูลโทรศัพท์นอกจากนี้ข้อมูลที่สำคัญคือโทรศัพท์ของผู้ใช้เนื้อหา
เรายังให้สถานการณ์การโจมตีเกี่ยวกับเรื่องนี้ในส่วนต่อไป ในโค้ดตัวอย่างของเราครั้งแรกที่เราใช้ getcontentresolvero เพื่อกลับเช่น ContentResolver สำหรับแพคเกจโปรแกรมของผู้ใช้และยังใช้ getcolunmindex (สตริง ColumnName) เพื่อกลับดัชนี zerobased สำหรับชื่อ colunm ที่กำหนดหรือ -1 ถ้าคอลัมน์ไม่อยู่ มิฉะนั้นเราพึ่งพา getcounto ซึ่งหมายความว่าหลายรายการอยู่ในชุดข้อมูลที่เป็นตัวแทนของอะแดปเตอร์นี้และ movetonexto ซึ่งสามารถเลื่อนเคอร์เซอร์ไปที่แถวถัดไป รหัสจะนำเสนอในรูปที่ 1

ผลลัพธ์ (ไทย) 2:

โทรศัพท์ข้อมูลเปิดเผยนอก ข้อมูลสำคัญเป็นผู้โทรศัพท์
เนื้อหา นอกจากนี้เรายังให้สถานการณ์การโจมตีเกี่ยวกับมันในส่วนต่อไปนี้ ในโค้ดตัวอย่างของเรา เราต้องใช้ getContentResolverO เพื่อส่งคืนอินสแตนซ์ที่ ContentResolver สำหรับแพคเกจของโปรแกรมประยุกต์ของผู้ใช้ และยัง ใช้ getColunmIndex(String columnName) กลับดัชนี zero­based สำหรับชื่อ colunm กำหนดหรือ -1 ถ้าไม่มีคอลัมน์ มิฉะนั้น เราพึ่ง getCountO ซึ่งหมายถึง จำนวนรายการที่อยู่ในชุดข้อมูลที่แทน ด้วยการ์ดและ moveToNextO ซึ่งสามารถย้ายเคอร์เซอร์ไปยังแถวถัดไปนี้ รหัสที่แสดงในรูปที่ 1

ผลลัพธ์ (ไทย) 3:

การเปิดเผยข้อมูลโทรศัพท์ยิ่งไปกว่านั้นข้อมูลที่สำคัญของผู้ใช้โทรศัพท์
เนื้อหา นอกจากนั้นเรายังทำให้เหตุการณ์การโจมตีที่เกี่ยวกับเรื่องนี้ในส่วนต่อไปนี้ ในโค้ดตัวอย่างของเราเราใช้งานครั้งแรก getcontentresolvero เพื่อกลับไปที่ contentresolver ยกตัวอย่างเช่นสำหรับผู้ใช้ของแอปพลิเคชันของแพ็คเกจและนอกจากนั้นยังใช้ getcolunmindex (สตริง columnname )เพื่อกลับไปที่ศูนย์ใหญ่ซึ่งใช้สำหรับดัชนีที่ colunm หรือชื่อคอลัมน์ที่ 1 หากไม่มี. หรือมิเช่นนั้นแล้วเราจำเป็นต้องพึ่งพา getcounto ซึ่งหมายความว่าจำนวนรายการอยู่ในข้อมูลที่ตั้งค่าโดยผู้แทน movetonexto และอแด็ปเตอร์นี้ซึ่งสามารถเลื่อนเคอร์เซอร์ไปแถวถัดไป รหัสนี้จะนำเสนอในรูปที่ 1