1. Define the problem = Start with

1. Define the problem = Start with a thorough information gathering process by speaking to all people involved. If your biggest customer complains that your product is starting to fail, for example, talk to the customer to learn exactly where the problem lies. Using the information you get, analyze your product to see what ways you can rectify the problem and improve your product

2. Explore the costs of failure = In connection with the problem, what exactly will failure mean? List down what this problem would really mean for your business, including financial costs, how this affects your relationship with customers as well as any partnerships. Using the example above, if your biggest customer pulls out their account, will your business survive? How will it affect your cash flow and revenues? Understanding the impact of a problem and knowing the worst case scenario can push you to act on it fast.

3. Explore the benefits of success = From viewing the negative, now see the flip side: what will happen if you successfully resolve the problem? Will your biggest customer keep their account with you? Will you be able to expand your product line if this issue is resolved? The author explains thato

4. Outline the solution = List the specific steps that need to be taken to solve the problem. This is the most important step in the problem solving process, and don’t be afraid if you think you need help to determine the best course of action.

ผลลัพธ์ (ไทย) 1:

1. กำหนดปัญหา =เริ่มต้นกับข้อมูลอย่างละเอียดที่รวบรวมกระบวนการ โดยการพูดทุกคนที่เกี่ยวข้อง ถ้าลูกค้าที่ใหญ่ที่สุดของคุณบ่นว่า ผลิตภัณฑ์ของคุณจะเริ่มล้ม เช่น พูดคุยกับลูกค้าเพื่อเรียนรู้ตรงที่ปัญหาอยู่ ใช้ข้อมูลที่คุณได้รับ วิเคราะห์ผลิตภัณฑ์ของคุณเพื่อดูว่าวิธีที่คุณสามารถแก้ปัญหา และปรับปรุงผลิตภัณฑ์ของคุณ2. สำรวจต้นทุนของความล้มเหลว =กับปัญหา ว่าจะล้มเหลวหมายถึงอะไร รายการลงปัญหานี้จะจริง ๆ หมายถึงอะไรสำหรับธุรกิจของคุณ รวมถึงต้นทุนทางการเงิน วิธีนี้มีผลต่อความสัมพันธ์กับลูกค้ารวมทั้งความร่วมมือใด ๆ ใช้ตัวอย่างข้างต้น ถ้าลูกค้าที่ใหญ่ที่สุดของคุณดึงออกบัญชี จะธุรกิจของคุณอยู่รอด จะว่ากระทบกระแสเงินสดและรายได้ของคุณหรือไม่ ทำความเข้าใจผลกระทบของปัญหา และรู้สถานการณ์กรณีเลวร้ายที่สุดสามารถผลักดันคุณให้รวดเร็วขึ้น3. สำรวจประโยชน์ของความสำเร็จ =ดูลบ ตอนนี้ดูด้านพลิก: จะเกิดอะไรขึ้นถ้าคุณแก้ปัญหาได้สำเร็จหรือไม่ จะลูกค้าที่ใหญ่ที่สุดของคุณเก็บบัญชีของพวกเขากับคุณ คุณจะได้ขยายสายผลิตภัณฑ์ของคุณถ้าปัญหานี้แก้ไขได้หรือไม่ ผู้เขียนอธิบาย thato4. กรอบการแก้ปัญหา =รายการเฉพาะขั้นตอนที่ต้องดำเนินการแก้ไขปัญหา ซึ่งเป็นสิ่งสำคัญที่สุดขั้นตอนในกระบวนการแก้ปัญหา และไม่ต้องตกใจถ้าคุณคิดว่า คุณต้องการให้ช่วยกำหนดสนามดีสุดของการดำเนินการ

ผลลัพธ์ (ไทย) 2:

1. กำหนดปัญหา = เริ่มต้นด้วยขั้นตอนการรวบรวมข้อมูลอย่างละเอียดโดยการพูดถึงคนทุกคนที่เกี่ยวข้อง หากลูกค้าที่ใหญ่ที่สุดของคุณบ่นว่าผลิตภัณฑ์ของคุณเริ่มที่จะล้มเหลวเช่นพูดคุยกับลูกค้าที่จะได้เรียนรู้ว่าปัญหาที่อยู่ โดยใช้ข้อมูลที่คุณจะได้รับการวิเคราะห์ผลิตภัณฑ์ของคุณเพื่อดูวิธีการสิ่งที่คุณสามารถแก้ไขปัญหาและปรับปรุงผลิตภัณฑ์ของคุณ2 สำรวจค่าใช้จ่ายของความล้มเหลวในการเชื่อมต่อ = กับปัญหาสิ่งที่ว่าความล้มเหลวจะหมายถึงอะไร? ลงรายการสิ่งที่เป็นปัญหานี้จริงๆจะหมายถึงสำหรับธุรกิจของคุณรวมทั้งค่าใช้จ่ายทางการเงินวิธีนี้มีผลต่อความสัมพันธ์ของคุณกับลูกค้ารวมทั้งความร่วมมือใด ๆ ใช้ตัวอย่างข้างต้นถ้าลูกค้าใหญ่ที่สุดของคุณดึงออกบัญชีของพวกเขาธุรกิจของคุณจะรอด? ว่ามันจะส่งผลกระทบต่อกระแสเงินสดของคุณและรายได้? ทำความเข้าใจเกี่ยวกับผลกระทบของปัญหาและรู้สถานการณ์กรณีที่เลวร้ายที่สุดที่สามารถผลักดันให้คุณดำเนินการกับมันได้อย่างรวดเร็ว. 3 สำรวจประโยชน์ของการประสบความสำเร็จจากการดู = ลบตอนนี้เห็นด้านพลิก: สิ่งที่จะเกิดขึ้นถ้าคุณประสบความสำเร็จในการแก้ไขปัญหาได้หรือไม่ ลูกค้าที่ใหญ่ที่สุดของคุณจะให้บัญชีของพวกเขากับคุณ? คุณจะสามารถที่จะขยายสายผลิตภัณฑ์ของคุณหากปัญหานี้ได้รับการแก้ไข? ผู้เขียนอธิบาย Thato 4 ร่างการแก้ปัญหา = รายชื่อขั้นตอนที่ระบุว่าจะต้องมีการดำเนินการในการแก้ปัญหา นี้เป็นขั้นตอนที่สำคัญที่สุดในการแก้ปัญหากระบวนการและไม่ต้องกลัวถ้าคุณคิดว่าคุณต้องการความช่วยเหลือในการกำหนดหลักสูตรที่ดีที่สุดของการดำเนินการ

ผลลัพธ์ (ไทย) 3:

1 . การกำหนดปัญหา = เริ่มต้นด้วยอย่างละเอียด ขั้นตอนการรวบรวมข้อมูล โดยการพูดกับทุกคนที่เกี่ยวข้อง ถ้าลูกค้าที่ใหญ่ที่สุดของคุณบ่นว่า ผลิตภัณฑ์ของคุณจะเริ่มล้มเหลว เช่น พูดคุยกับลูกค้าเพื่อเรียนรู้สิ่งที่มีปัญหาอยู่ การใช้ข้อมูลที่คุณได้รับข้อมูลผลิตภัณฑ์ของคุณเพื่อดูว่าวิธีที่คุณสามารถแก้ไขปัญหาและปรับปรุงผลิตภัณฑ์ของคุณ

2สํารวจต้นทุนของความล้มเหลวในการเชื่อมต่อ กับ ปัญหา อะไรจะล้มเหลว ? รายการที่ลงว่าปัญหานี้จะหมายถึงธุรกิจของคุณ รวมถึงต้นทุนทางการเงิน วิธีนี้มีผลต่อความสัมพันธ์ของคุณกับลูกค้าที่เป็นพันธมิตร โดยใช้ตัวอย่างข้างต้น ถ้าลูกค้าที่ใหญ่ที่สุดของคุณดึงออกจากบัญชีของธุรกิจของคุณจะอยู่รอด ?จะมีผลต่อการไหลเวียนของเงินสดและรายได้ ? เข้าใจผลกระทบของปัญหา และทราบสถานการณ์กรณีเลวร้ายที่สุดสามารถผลักดันให้คุณทำมันเร็ว

3 สำรวจประโยชน์ของความสำเร็จ = ดูเป็นลบ ตอนนี้เห็นพลิก : จะเกิดอะไรขึ้นถ้าคุณประสบความสำเร็จในการแก้ไขปัญหา จะเป็นลูกค้าที่ใหญ่ที่สุดของคุณให้บัญชีของพวกเขากับคุณคุณจะสามารถที่จะขยายสายผลิตภัณฑ์ของคุณ หากปัญหานี้ได้รับการแก้ไขหรือไม่ ผู้เขียนอธิบายท่าตอ

4 . ร่างโซลูชั่น = รายการเฉพาะขั้นตอนที่ต้องได้รับการแก้ไขปัญหา นี้เป็นขั้นตอนที่สำคัญที่สุดในกระบวนการแก้ปัญหา และไม่กลัว ถ้าคุณคิดว่าคุณต้องการความช่วยเหลือที่จะกำหนดหลักสูตรที่ดีที่สุดของการกระทำ