ego depletion theory may account fo

ego depletion theory may account for many self regulatory problems in the workplace such as burnout (Thau, Aquino, & Poortvliet, 2007), abusive supervision (Thau & Mitchell, 2010), the strain of emotional labor (Yam, Fehr, KengHighberger, Klotz, & Reynolds, 2016), awkwardness in interracial interactions (Richeson & Shelton, 2003), and unethical behavior

ผลลัพธ์ (ไทย) 1:

ทฤษฎีอัตตาสูญเสียอาจบัญชีสำหรับปัญหามากกำกับดูแลตนเองในการทำงานเช่นไหม้ (Thau ย & Poortvliet, 2007), ดูแลไม่เหมาะสม (Thau & มิทเชลล์ 2010), ความเครียดทางอารมณ์แรง (Yam, Fehr, KengHighberger, Klotz และเรย์ โนลด์ส 2016), awkwardness ดำโต้ (Richeson และเชลตัน 2003), และผิดจริยธรรม

ผลลัพธ์ (ไทย) 2:

ทฤษฎีการสูญเสียอาตมาอาจบัญชีสำหรับปัญหาการกำกับดูแลตัวเองจำนวนมากในสถานที่ทำงานเช่นเหนื่อยหน่าย (Thau กัวและ Poortvliet, 2007) การกำกับดูแลที่ไม่เหมาะสม (Thau และมิทเชลล์ 2010) สายพันธุ์ของการใช้แรงงานทางอารมณ์ (Yam, เฟร์ KengHighberger, Klotz และนาดส์ 2016) ความอึดอัดในการติดต่อเชื้อชาติ (Richeson และเชลตัน, 2003) และพฤติกรรมที่ผิดจรรยาบรรณ

ผลลัพธ์ (ไทย) 3:

ทฤษฎีการพร่องอัตตาอาจบัญชีสำหรับตนเองมากมายที่มีปัญหาในที่ทำงาน เช่น ในทาวประธานาธิบดีอาควิโนและ poortvliet , 2007 ) , นิเทศไม่เหมาะสม ( ทาว & Mitchell , 2010 ) , สายพันธุ์ของแรงงานทางอารมณ์ ( kenghighberger Yam , แฟร์ , , คล็อตส์และเรโนลด์ , 2016 ) , ความอึดอัดในปฏิสัมพันธ์ระหว่างเชื้อชาติ ( richeson & เชลตัน , 2003 ) และพฤติกรรมที่ผิดจริยธรรม