Chronic kidney disease is identifie

Chronic kidney disease is identified by a blood test for creatinine. Higher levels of creatinine indicate a lower glomerular filtration rate and as a result a decreased capability of the kidneys to excrete waste products. Creatinine levels may be normal in the early stages of CKD, and the condition is discovered if urinalysis (testing of a urine sample) shows that the kidney is allowing the loss of protein or red blood cells into the urine. To fully investigate the underlying cause of kidney damage, various forms of medical imaging, blood tests and often renal biopsy (removing a small sample of kidney tissue) are employed to find out if there is a reversible cause for the kidney malfunction.[1] Recent professional guidelines classify the severity of chronic kidney disease in five stages, with stage 1 being the mildest and usually causing few symptoms and stage 5 being a severe illness with poor life expectancy if untreated. Stage 5 CKD is often called end stage renal disease (ESRD), end stage renal failure (ESRF), or end-stage kidney disease (ESKD) and is synonymous with the now outdated terms chronic kidney failure (CKF) or chronic renal failure (CRF).[1]

ผลลัพธ์ (ไทย) 1:

โรคไตเรื้อรังจะถูกระบุ ด้วยเลือด creatinine ระดับ creatinine สูงขึ้นบ่งชี้อัตราการกรอง glomerular ต่ำและ เป็นผลความสามารถในการลดลงของไตเพื่อขับถ่ายเสีย ระดับ creatinine อาจจะปกติในขั้นตอนแรก ๆ ของ CKD และเงื่อนไขค้นพบถ้า urinalysis (ทดสอบตัวอย่างปัสสาวะ) แสดงว่า ไตจะช่วยให้สูญเสียโปรตีนหรือเม็ดเลือดแดงในปัสสาวะ การตรวจสอบสาเหตุของความเสียหายไต แบบฟอร์มต่าง ๆ ของภาพทางการแพทย์ เต็ม ผลการตรวจเลือดและตรวจชิ้นเนื้อไตมัก (เอาตัวอย่างเล็ก ๆ ของเนื้อเยื่อไต) เป็นลูกจ้างเพื่อค้นหาว่า มีสาเหตุความผิดปกติของไตอย่างแนวทางอาชีพล่าสุด [1] จัดประเภทความรุนแรงของโรคไตเรื้อรังในระยะห้า กับ stage 1 อยู่ mildest และมักจะเกิดอาการน้อยและขั้น 5 ที่กำลังเจ็บป่วยรุนแรง มีอายุขัยไม่ดีถ้าไม่ถูกรักษา ขั้น 5 CKD มักจะเรียกว่าโรคไตระยะในตอนท้าย (ESRD), สิ้นสุดขั้นตอนล้มเหลว (ESRF), หรือระยะสุดท้ายโรคไตโรคไต (ESKD) และด้วยเงื่อนไขตอนนี้ล้าสมัยล้มเหลวโรคไตเรื้อรัง (CKF) หรือภาวะไตวายเรื้อรัง (CRF)[1]

ผลลัพธ์ (ไทย) 2:

โรคไตเรื้อรังจะถูกระบุโดยการทดสอบเลือดสำหรับ creatinine ระดับสูงของ creatinine ระบุอัตราการกรองต่ำไตและเป็นผลความสามารถในการลดลงของไตในการขับถ่ายของเสีย ระดับ creatinine อาจเป็นปกติในระยะแรกของโรคไตวายเรื้อรังและสภาพถูกค้นพบว่าปัสสาวะ (การทดสอบตัวอย่างปัสสาวะ) แสดงให้เห็นว่าไตจะช่วยให้การสูญเสียของโปรตีนหรือเซลล์เม็ดเลือดแดงในปัสสาวะ ในการรองรับการตรวจสอบสาเหตุของความเสียหายไตรูปแบบต่างๆของการถ่ายภาพทางการแพทย์การทดสอบเลือดและมักจะตรวจชิ้นเนื้อไต (การเอาตัวอย่างเล็ก ๆ ของเนื้อเยื่อไต) จะได้ [1] การจ้างงานเพื่อดูว่ามีเหตุย้อนกลับการทำงานผิดพลาดไต. แนวทางที่เป็นมืออาชีพที่ผ่านการจำแนกความรุนแรงของโรคไตเรื้อรังในห้าขั้นตอนมีขั้นตอนที่ 1 เป็นภาพได้ชัดเจนและมักจะก่อให้เกิดอาการไม่กี่ขั้นตอนและ 5 การเจ็บป่วยรุนแรงที่มีการคาดหวังในชีวิตที่ไม่ดีถ้าได้รับการรักษา ขั้นที่ 5 โรคไตวายเรื้อรังมักจะเรียกว่าโรคไตระยะสุดท้าย (ESRD) ระยะสุดท้ายไตวาย (ESRF) หรือโรคไตระยะสุดท้าย (ESKD) และมีความหมายเหมือนกันกับคำที่ล้าสมัยในขณะนี้ความล้มเหลวไตเรื้อรัง (CKF) หรือโรคไตวายเรื้อรัง ( CRF). [1]

ผลลัพธ์ (ไทย) 3:

โรคไตเรื้อรังจะถูกระบุ ด้วยการทดสอบเลือดสำหรับครี . ระดับที่สูงขึ้นของครีระบุลดลง และผลของอัตราการกรองลดลงความสามารถของไตในการขับถ่ายของเสีย หรือระดับอาจจะปกติในช่วงแรกของ CKD ,และเงื่อนไขคือ ถ้าตรวจปัสสาวะ ( พบการทดสอบตัวอย่างปัสสาวะ ) พบว่าไตจะช่วยให้การสูญเสียโปรตีน หรือเซลล์เม็ดเลือดแดงในปัสสาวะ เพื่อศึกษาครบ สาเหตุของความเสียหายของไต , รูปแบบต่างๆของการถ่ายภาพทางการแพทย์การทดสอบเลือดและชิ้นเนื้อไตบ่อยๆ ( เอาตัวอย่างเนื้อเยื่อไต ) จะพบว่ามีเหตุผลให้ไตทำงานผิดปกติ [ 1 ] ล่าสุดมืออาชีพแนวทางจำแนกความรุนแรงของโรคไตเรื้อรังในห้าขั้นตอน กับ ระยะที่ 1 การ mildest และมักจะก่อให้เกิดอาการน้อยและขั้นที่ 5 เป็น ความเจ็บป่วยรุนแรงจนอายุขัย ถ้าดิบขั้นที่ 5 ยอด เรียกว่าไตวายเรื้อรังระยะสุดท้าย ( ESRD ) ไตวายระยะสุดท้าย ( esrf ) หรือโรคไตระยะสุดท้าย ( ESKD ) และเป็นตรงกันกับตอนนี้ล้าสมัยเรื่องไตวายเรื้อรังหรือไตวายเรื้อรัง ( ckf ) [ 1 ] ( CRF )