The peripartum control of diabetes

The peripartum control of diabetes is very important for the well-being of the newborn as higher incidence of neonatal hypoglycemia is seen if maternal hyperglycemia happens during this period. Type of diabetes (type 1, type 2 or gestational diabetes) also has an effect on the glucose concentration during intrapartum period. During the latent phase of labor, the metabolic demands are stable but during active labor there is increased metabolic demand and decreased insulin requirement. After delivery once the placenta is extracted, insulin resistance rapidly comes down and in patients with pre-gestational diabetes there will be a sudden drop in insulin requirement and the insulin may not be required in women with gestational diabetes, but they just need close monitoring. During breast-feeding blood glucose levels fall because of high metabolic demand and women need to take extra calories to maintain the levels and more vigilance especially in type 1 and type 2 diabetic mothers is required. The protocols used for the management of peripartum management of diabetes mostly rely on glucose and insulin infusion to maintain maternal blood sugars between 70 and 110 mg/dl. The data is mostly from retrospective studies and few randomized control trials done mainly in type 1 diabetes patients. The review summarizes guidelines, which are used for peripartum management of blood glucose.

ผลลัพธ์ (ไทย) 1:

การควบคุมโรคเบาหวาน peripartum เป็นอย่างยิ่งในการเป็นอยู่ที่ดีของทารกสูงขึ้นอุบัติการณ์ของทารกแรกเกิด hypoglycemia จะเห็นถ้า hyperglycemia แม่เกิดขึ้นในช่วงเวลานี้ ชนิดของโรคเบาหวาน (ชนิดที่ 1 ชนิดที่ 2 หรือเบาหวานครรภ์) มีความเข้มข้นของน้ำตาลในช่วง intrapartum ผลการ ระยะแฝงอยู่ของแรงงาน ความต้องการเผาผลาญจะมีเสถียรภาพ แต่ในระหว่างการใช้แรงงาน มีความต้องการเผาผลาญเพิ่มขึ้นและความต้องการอินซูลินลดลง หลังจากจัดส่งเมื่อเข้าสู่รกสกัด ต้านทานอินซูลินอย่างรวดเร็วลงมา และในผู้ป่วยที่มีโรคเบาหวาน pre-gestational จะลดลงอย่างฉับพลันในความต้องการอินซูลิน และอินซูลินอาจไม่จำเป็นในสตรีมีครรภ์โรคเบาหวาน แต่พวกเขาเพียงต้องปิดการตรวจสอบ ในระหว่างช่วงเลือด ระดับน้ำตาลลดลงเนื่องจากความต้องการเผาผลาญสูง และผู้หญิงต้องใช้แคลอรี่พิเศษเพื่อรักษาระดับและระมัดระวังมากขึ้นโดยเฉพาะในชนิด 1 และชนิด 2 มารดาเป็นโรคเบาหวานที่จำเป็น โพรโทคอลที่ใช้สำหรับการบริหารจัดการ peripartum ของโรคเบาหวานส่วนใหญ่อาศัยคอนกรีตกลูโคสและอินซูลินเพื่อรักษาน้ำตาลเลือดแม่ระหว่าง 70 และ 110 mg/dl ข้อมูลเป็นส่วนใหญ่จากการศึกษาคาด และทดลองควบคุม randomized บางที่ทำส่วนใหญ่ในชนิดผู้ป่วยโรคเบาหวาน 1 ตรวจทานสรุปแนวทาง ซึ่งใช้สำหรับจัดการ peripartum น้ำตาลในเลือด

ผลลัพธ์ (ไทย) 2:

การควบคุม Peripartum ของโรคเบาหวานเป็นสิ่งสำคัญมากสำหรับความเป็นอยู่ของทารกแรกเกิดเป็นอุบัติการณ์ที่สูงขึ้นของภาวะน้ำตาลในเลือดของทารกแรกเกิดจะเห็นถ้าน้ำตาลในเลือดสูงของมารดาที่เกิดขึ้นในช่วงเวลานี้ ประเภทของโรคเบาหวาน (ชนิดที่ 1 ชนิดที่ 2 หรือโรคเบาหวานขณะตั้งครรภ์) นอกจากนี้ยังมีผลต่อความเข้มข้นของกลูโคสในช่วงระยะเวลาคลอด ในระหว่างขั้นตอนของการใช้แรงงานแฝงความต้องการการเผาผลาญมีความเสถียร แต่ในระหว่างแรงงานที่ใช้งานมีความต้องการเพิ่มขึ้นการเผาผลาญและลดลงความต้องการอินซูลิน หลังจากการส่งมอบครั้งเดียวรกสกัด, ความต้านทานต่ออินซูลินอย่างรวดเร็วลงมาและในผู้ป่วยที่มีโรคเบาหวานขณะตั้งครรภ์ก่อนจะมีการลดลงอย่างรวดเร็วในความต้องการของอินซูลินและอินซูลินอาจไม่จำเป็นต้องในสตรีที่มีเบาหวานขณะตั้งครรภ์ แต่พวกเขาก็ต้องตรวจสอบอย่างใกล้ชิด ในระหว่างการให้นมระดับน้ำตาลในเลือดลดลงเนื่องจากความต้องการการเผาผลาญสูงและผู้หญิงต้องใช้แคลอรี่พิเศษที่จะรักษาระดับและระมัดระวังมากขึ้นโดยเฉพาะอย่างยิ่งในรูปแบบที่ 1 และชนิดที่ 2 โรคเบาหวานมารดาจะต้อง โปรโตคอลที่ใช้สำหรับการจัดการของการจัดการ Peripartum ของโรคเบาหวานส่วนใหญ่พึ่งพาการฉีดกลูโคสและอินซูลินในการรักษาน้ำตาลในเลือดของมารดาระหว่าง 70 และ 110 มก. / ดล ข้อมูลส่วนใหญ่จากการศึกษาย้อนหลังและไม่กี่ทดลองควบคุมแบบสุ่มทำส่วนใหญ่ในชนิดที่ 1 โรคเบาหวานผู้ป่วย ทบทวนสรุปแนวทางซึ่งจะใช้สำหรับการจัดการ Peripartum ของระดับน้ำตาลในเลือด

ผลลัพธ์ (ไทย) 3:

การ peripartum การควบคุมโรคเบาหวานมีความสำคัญต่อความเป็นอยู่ของเด็กแรกเกิดเป็นอุบัติการณ์ของทารกแรกเกิดในที่สูงจะเห็นถ้ามารดา hyperglycemia เกิดขึ้นในระหว่างรอบระยะเวลานี้ ประเภทของโรคเบาหวาน ( ประเภท 1 , ประเภท 2 หรือเบาหวานขณะตั้งครรภ์ ) ก็มี ผลต่อปริมาณน้ำตาลกลูโคสในช่วงเวลา intrapartum . ในช่วงระยะแฝงของแรงงานความต้องการการเผาผลาญคงที่แต่ระหว่างแรงงานที่ใช้งานมีความต้องการที่เพิ่มขึ้นและลดลงของการเผาผลาญอินซูลิน . หลังคลอด เมื่อรกแกะสกัดอินซูลินต้านทานอย่างรวดเร็วลงมาและในผู้ป่วยเบาหวานขณะตั้งครรภ์ก่อนจะหล่นวูบในความต้องการอินซูลินและอินซูลินอาจไม่จําเป็นในหญิงตั้งครรภ์ที่เป็นเบาหวานขณะตั้งครรภ์ ,แต่พวกเขาก็ต้องปิดการตรวจสอบ ในระหว่างการเลี้ยงลูกด้วยนมแม่ ระดับกลูโคสในเลือดลดลง เพราะความต้องการการเผาผลาญสูง และผู้หญิงต้องใช้แคลอรีพิเศษรักษาระดับและเพิ่มความระมัดระวัง โดยเฉพาะในประเภท 1 และเบาหวานชนิดที่ 2 แม่จะต้องโปรโตคอลที่ใช้สำหรับการบริหารจัดการ peripartum ของโรคเบาหวานส่วนใหญ่พึ่งพากลูโคสและอินซูลินฉีดเพื่อรักษาแม่น้ําตาลในเลือดระหว่าง 70 และ 110 มิลลิกรัม / เดซิลิตร ข้อมูลส่วนใหญ่จากการศึกษาและการทดลองควบคุมแบบสุ่มย้อนหลังไม่กี่ทำส่วนใหญ่ในผู้ป่วยเบาหวานชนิดที่ 1 ทบทวน สรุปแนวทางที่ใช้สำหรับการจัดการ peripartum กลูโคสในเลือด