Friction Ridge SkinThe aim of this

Friction Ridge Skin
The aim of this chapter is to provide a brief summary of the basic elements of
friction ridge skin morphogenesis and their relationship to friction ridge skin variability.
More extensive accounts for latent fingerprint examiners can be found in
Ashbaugh (1999b), Wertheim and Maceo (2002), and Bush (2002). These contributions,
with their associated references, constitute the essential material required to
gain an understanding of the biological basis for friction ridge pattern variability.
They complement and extend the work undertaken by earlier pioneers such as Wilder
and Wentworth (1932) and Cummins and Midlo (1961).
Two cornerstones to the use of fingerprints as a mean of personal identification
are the permanence (persistency or durability) and the uniqueness of friction ridge
skin. Both of these foundations have been extensively challenged and confirmed
through 100 years of fingerprint identification practice, but their scientific basis lies
within biological research.
Unless examiners have a good understanding of friction ridge skin morphogenesis
(the biological development of form), the basic tenet for individuality is often
resolved by using standard, shallow statements such as “nature never repeats itself.”
We cannot accept that the justification for individualization essentially revolves
around the tautological argument that every entity in nature is unique. The selectivity
of friction ridge skin should be fully understood from a biological perspective and
then applied in assessing latent fingermark comparisons.

ผลลัพธ์ (ไทย) 1:

ริดจ์แรงเสียดทานผิวจุดมุ่งหมายของบทนี้คือให้สรุปโดยย่อขององค์ประกอบพื้นฐานของmorphogenesis ผิวริดจ์แรงเสียดทานและความสัมพันธ์ของแรงเสียดทานริดจ์ผิวสำหรับความผันผวนบัญชีนายลายนิ้วมือแฝงอยู่อย่างละเอียดเพิ่มเติมสามารถพบได้ในAshbaugh (1999b), Wertheim และ Maceo (2002), และบุช (2002) ผลงานเหล่านี้อ้างอิงความเกี่ยวข้อง ประกอบเป็นวัสดุจำเป็นที่ต้องได้รับความเข้าใจพื้นฐานทางชีวภาพสำหรับแรงเสียดทานริดจ์รูปแบบความแปรผันพวกเขาเติมเต็ม และขยายการทำงานที่ดำเนินการ โดยผู้บุกเบิกก่อนหน้าเช่น Wilderและนเวนท์เวิร์ธ (1932) และ Cummins และ Midlo (1961)สองสิ่งสำคัญกับการใช้ลายนิ้วมือเป็นค่าเฉลี่ยของรหัสประจำตัวมีของแรงเสียดทานริดจ์ permanence (persistency หรือความทนทาน)ผิวหนัง ทั้งนี้มูลนิธิได้ท้าทาย และยืนยันอย่างกว้างขวาง100 ปีของปฏิบัติการรหัสลายนิ้วมือ แต่พื้นฐานทางวิทยาศาสตร์ของพวกเขาอยู่ในการวิจัยทางชีวภาพถ้านายมีความเข้าใจดีของแรงเสียดทานริดจ์ผิว morphogenesis(ชีวภาพพัฒนาฟอร์ม), ทฤษฎีพื้นฐานสำหรับบุคลิกลักษณะคือแก้ไขได้ โดยใช้คำสั่งมาตรฐาน น้ำตื้นเช่น "ธรรมชาติไม่ซ้ำตัวเอง"เราไม่ยอมรับว่า เหตุผลของการสร้างลักษณะเฉพาะตัวเป็นหลักหมุนรอบอาร์กิวเมนต์ tautological ว่าทุกหน่วยงานในลักษณะเฉพาะ วิธีการของแรงเสียดทาน ผิวริดจ์ควรอย่างเข้าใจจากมุมมองทางชีวภาพ และแล้ว นำไปใช้ในการประเมินเปรียบเทียบ fingermark แฝงอยู่

ผลลัพธ์ (ไทย) 2:

แรงเสียดทานริดจ์ผิว
จุดมุ่งหมายของบทนี้คือการให้สรุปโดยย่อขององค์ประกอบพื้นฐานของ
morphogenesis ผิวสันแรงเสียดทานและความสัมพันธ์กับแรงเสียดทานสันแปรปรวนผิว.
บัญชีที่กว้างขวางสำหรับการตรวจสอบลายนิ้วมือแฝงสามารถพบได้ใน
Ashbaugh (1999b) และ Wertheim Maceo (2002) และบุช (2002) ผลงานเหล่านี้
มีการอ้างอิงที่เกี่ยวข้องของพวกเขาเป็นวัสดุสำคัญที่จำเป็นที่จะ
ได้รับความเข้าใจพื้นฐานของความแปรปรวนทางชีวภาพสำหรับรูปแบบแนวแรงเสียดทาน.
พวกเขาเติมเต็มและขยายการทำงานที่ดำเนินการโดยผู้บุกเบิกก่อนหน้านี้เช่นป่า
และเวนท์ (1932) และคัมมินและ Midlo ( 1961).
สองเสากับการใช้ลายนิ้วมือในขณะที่ค่าเฉลี่ยของตัวบุคคล
ที่มีความคงทน (persistency หรือความทนทาน) และเป็นเอกลักษณ์ของแนวแรงเสียดทาน
ของผิว ทั้งสองของมูลนิธิเหล่านี้ได้รับการท้าทายอย่างกว้างขวางและได้รับการยืนยัน
ผ่าน 100 ปีของการปฏิบัติระบุลายนิ้วมือ แต่พื้นฐานทางวิทยาศาสตร์ของพวกเขาอยู่
ภายในการวิจัยทางชีววิทยา.
ยกเว้นกรณีที่ผู้ตรวจสอบมีความเข้าใจที่ดีของแรงเสียดทาน morphogenesis ผิวสัน
(การพัฒนาทางชีวภาพของรูปแบบ) ทฤษฎีพื้นฐานสำหรับ ความแตกต่างกันมักจะ
ได้รับการแก้ไขโดยใช้มาตรฐานงบตื้นเช่น "ธรรมชาติไม่เคยซ้ำตัวเอง."
เราไม่สามารถยอมรับว่าเหตุผลสำหรับรายบุคคลเป็นหลักหมุน
รอบอาร์กิวเมนต์ซ้ำว่ากิจการในลักษณะที่ทุกคนมีเอกลักษณ์ การเลือก
ของผิวสันแรงเสียดทานควรจะเข้าใจจากมุมมองทางชีวภาพและ
นำไปใช้แล้วในการประเมินเปรียบเทียบ fingermark แฝง

ผลลัพธ์ (ไทย) 3:

แรงเสียดทานผิว
สันเขาเป้าหมายของบทนี้ จะให้สรุปสั้น ๆขององค์ประกอบขั้นพื้นฐานของ
แรงเสียดทานผิวแนวการเปลี่ยนแปลงลักษณะและความสัมพันธ์กับแรงเสียดทานแนวผิวแปรปรวน .
บัญชีเพิ่มเติมสำหรับลายนิ้วมือแฝงของผู้ที่สามารถพบได้ใน
เอิชบอ ( 1999b ) , เวอร์ไทม์ และ maceo ( 2002 ) , และ บุช ( 2545 ) . ผลงานเหล่านี้
อ้างอิงที่เกี่ยวข้องของพวกเขาเป็นวัสดุจำเป็นต้อง
ได้ความเข้าใจพื้นฐานทางชีววิทยาสำหรับแรงเสียดทานแนวรูปแบบความผันแปร .
พวกเขาเติมเต็มและขยายงานที่ดำเนินการโดยผู้บุกเบิกก่อนหน้านี้ เช่น ไวล์เดอร์
เวนท์เวิร์ธ ( 1932 ) และคัมมินและและ มิดโล ( 1961 )
2 cornerstones การใช้ลายนิ้วมือเป็นค่าเฉลี่ยของ
ประจำตัวมีความถาวร ( การคงอยู่หรือความทนทาน ) และเอกลักษณ์ของแรงเสียดทานผิวคัน

ทั้งพื้นฐานเหล่านี้ได้รับอย่างกว้างขวางท้าทายและยืนยัน
ผ่าน 100 ปีของการปฏิบัติการระบุลายนิ้วมือ แต่พื้นฐานทางวิทยาศาสตร์ของพวกเขาอยู่

ถ้าผู้ตรวจสอบภายในการวิจัยทางชีวภาพ มีความเข้าใจที่ดีของแรงเสียดทานแนวผิวมอร์โฟเจเนซิส
( การพัฒนาทางชีวภาพของฟอร์ม )หลักการพื้นฐานสำหรับบุคคลมัก
แก้ไขโดยใช้มาตรฐานงบตื้นเช่น " ธรรมชาติไม่เคยทำซ้ำตัวเอง . "
เราไม่สามารถยอมรับว่า เหตุผลหลัก revolves รอบซ้ำกับปี
อาร์กิวเมนต์ที่ทุกหน่วยงานในลักษณะที่ไม่ซ้ำกัน เลือกสรร
ของแรงเสียดทานผิวคันควรจะเข้าใจจากมุมมองทางชีวภาพและ
แล้วรอยนิ้วมือแฝงที่ใช้ในการประเมินเปรียบเทียบ