องุ่น เป็นพืชยืนต้น มีลักษณะเป็นไม้พุ่มเลื้อย มีลักษณะเนื้อแข็งและมีลำ การแปล - องุ่น เป็นพืชยืนต้น มีลักษณะเป็นไม้พุ่มเลื้อย มีลักษณะเนื้อแข็งและมีลำ ไทย วิธีการพูด

องุ่น เป็นพืชยืนต้น มีลักษณะเป็นไม้




องุ่น เป็นพืชยืนต้น มีลักษณะเป็นไม้พุ่มเลื้อย มีลักษณะเนื้อแข็งและมีลำต้น กิ่งถาวรอายุเกิน 1 ฤดู ถ้าปล่อยให้เจริญเติบโตตามธรรมชาติจะเลื้อยเกาะกิ่งไม้ ใบกลมขอบหยักเว้าลึก 5 พู โคนใบเว้าเป็นรูปหัวใจ ดอกออกเป็นช่อแยกแขนง ดอกย่อยขนาดเล็กสีเขียวมีหมวก จะหลุดออกเมื่อดอกบานกลีบดอกเมื่อบานสีขาว โคนเชื่อมติดกัน ปลายแยก 5 กลีบ เป็นผลเดี่ยวที่ออกเป็นพวง (เป็นผลเดี่ยวที่เกิดจากดอกช่อแต่ดอกไม่หลอมรวมกัน) ผลย่อยรูปกลมรีและฉ่ำน้ำ มีผิวนวลเกาะและรสหวาน มีสีเขียว, ม่วงแดงและม่วงดำแล้วแต่พันธุ์ ในผลมีเมล็ดประมาณ 1 - 4 เมล็ด
เนื้อหา
ประวัติการปลูก[แก้]
จากหลักฐานทางประวัติศาสตร์ มีการบ่งบอกว่ามีการปลูกองุ่นกันมามากกว่า 5,000 ปี องุ่นสามารถเจริญเติบโตได้ดีทั้งในเขตหนาว เขตกึ่งร้อนกึ่งหนาว และเขตร้อน สำหรับประเทศไทยไม่ปรากฏหลักฐานแน่ชัดว่านำเข้ามาในสมัยใด แต่คาดว่าน่าจะนำเข้ามาตั้งแต่ในสมัยรัชกาลที่ 5 โดยพระองค์ท่านได้นำพันธุ์ไม้แปลกๆ จากต่างประเทศที่ได้เสด็จประพาสมาปลูกในประเทศไทย และเชื่อว่าในจำนวนพันธุ์ไม้แปลกๆ เหล่านั้นน่าจะมีพันธุ์องุ่นรวมอยู่ด้วย ในสมัยรัชกาลที่ 7 มีหลักฐานยืนยันว่าเริ่มมีการปลูกองุ่นกันบ้างแต่ผลองุ่นที่ได้มีรสเปรี้ยว การปลูกองุ่นจึงซบเซาไป ต่อมาในปี พ.ศ. 2493 ได้เริ่มมีการปลูกองุ่นอย่างจริงจัง โดย หลวงสมานวนกิจ ได้นำพันธุ์องุ่นมาจากมลรัฐแคลิฟอร์เนีย ประเทศสหรัฐอเมริกา และปี พ.ศ. 2497 ดร.พิศ ปัญญาลักษณ์ ได้นำพันธุ์องุ่นมาจากทวีปยุโรปซึ่งสามารถปลูกได้ผลเป็นที่น่าพอใจ นับแต่นั้นมาการปลูกองุ่นในประเทศไทยจึงแพร่หลายมากขึ้น
อนึ่ง ในกฎมณเทียรบาลสมัยกรุงศรีอยุธยา มีข้อความกล่าวถึง "ป้อมสวนองุ่น"[3] จึงเป็นไปได้ว่าน่าจะมีการนำพันธุ์องุ่นมาปลูกแล้วตั้งแต่สมัยอยุธยา
สรรพคุณทางยาและคุณค่าทางอาหาร[แก้]
าลกลูโคส, น้ำตาลซูโคส, วิตามินซี, เหล็กและแคลเซียม องุ่นยังสามารถนำไปทำเป็นเหล้าองุ่นซึ่งเป็นเหล้าบำรุงใช้เป็นยา การรับประทานองุ่นเป็นประจำมีส่วนช่วยในการบำรุงสมอง, บำรุงหัวใจ, แก้กระหาย, ขับปัสสาวะและบำรุงกำลัง คนที่ร่างกายผอมแห้ง แก่ก่อนวัยและไม่มีเรี่ยวแรง หากรับประทานองุ่นเป็นประจำจะสามารถช่วยเสริมทำให้ร่างกายแข็งแรงขึ้นได้ ส่วนเครือและรากมีฤทธิ์ในการขับลม, ขับปัสสาวะ, รักษาโรคไขข้ออักเสบ, ปวดเอ็นและปวดกระดูก อีกทั้งยังมีฤทธิ์ระงับประสาท, แก้ปวดและแก้อาเจียนอีกด้วย
0/5000
จาก: -
เป็น: -
ผลลัพธ์ (ไทย) 1: [สำเนา]
คัดลอก!
องุ่นเป็นพืชยืนต้นมีลักษณะเป็นไม้พุ่มเลื้อยมีลักษณะเนื้อแข็งและมีลำต้นกิ่งถาวรอายุเกิน 1 ฤดูถ้าปล่อยให้เจริญเติบโตตามธรรมชาติจะเลื้อยเกาะกิ่งไม้ใบกลมขอบหยักเว้าลึก 5 พูโคนใบเว้าเป็นรูปหัวใจดอกออกเป็นช่อแยกแขนงดอกย่อยขนาดเล็กสีเขียวมีหมวกจะหลุดออกเมื่อดอกบานกลีบดอกเมื่อบานสีขาวโคนเชื่อมติดกันปลายแยก 5 กลีบเป็นผลเดี่ยวที่ออกเป็นพวง (เป็นผลเดี่ยวที่เกิดจากดอกช่อแต่ดอกไม่หลอมรวมกัน) ผลย่อยรูปกลมรีและฉ่ำน้ำมีผิวนวลเกาะและรสหวานมีสีเขียว ม่วงแดงและม่วงดำแล้วแต่พันธุ์ในผลมีเมล็ดประมาณ 1-4 เมล็ดเนื้อหา[แก้] ประวัติการปลูกจากหลักฐานทางประวัติศาสตร์ มีการบ่งบอกว่ามีการปลูกองุ่นกันมามากกว่า 5,000 ปี องุ่นสามารถเจริญเติบโตได้ดีทั้งในเขตหนาว เขตกึ่งร้อนกึ่งหนาว และเขตร้อน สำหรับประเทศไทยไม่ปรากฏหลักฐานแน่ชัดว่านำเข้ามาในสมัยใด แต่คาดว่าน่าจะนำเข้ามาตั้งแต่ในสมัยรัชกาลที่ 5 โดยพระองค์ท่านได้นำพันธุ์ไม้แปลกๆ จากต่างประเทศที่ได้เสด็จประพาสมาปลูกในประเทศไทย และเชื่อว่าในจำนวนพันธุ์ไม้แปลกๆ เหล่านั้นน่าจะมีพันธุ์องุ่นรวมอยู่ด้วย ในสมัยรัชกาลที่ 7 มีหลักฐานยืนยันว่าเริ่มมีการปลูกองุ่นกันบ้างแต่ผลองุ่นที่ได้มีรสเปรี้ยว การปลูกองุ่นจึงซบเซาไป ต่อมาในปี พ.ศ. 2493 ได้เริ่มมีการปลูกองุ่นอย่างจริงจัง โดย หลวงสมานวนกิจ ได้นำพันธุ์องุ่นมาจากมลรัฐแคลิฟอร์เนีย ประเทศสหรัฐอเมริกา และปี พ.ศ. 2497 ดร.พิศ ปัญญาลักษณ์ ได้นำพันธุ์องุ่นมาจากทวีปยุโรปซึ่งสามารถปลูกได้ผลเป็นที่น่าพอใจ นับแต่นั้นมาการปลูกองุ่นในประเทศไทยจึงแพร่หลายมากขึ้นอนึ่งในกฎมณเทียรบาลสมัยกรุงศรีอยุธยามีข้อความกล่าวถึง "ป้อมสวนองุ่น" [3] จึงเป็นไปได้ว่าน่าจะมีการนำพันธุ์องุ่นมาปลูกแล้วตั้งแต่สมัยอยุธยา[แก้] สรรพคุณทางยาและคุณค่าทางอาหาราลกลูโคส น้ำตาลซูโคส วิตามินซี เหล็กและแคลเซียมองุ่นยังสามารถนำไปทำเป็นเหล้าองุ่นซึ่งเป็นเหล้าบำรุงใช้เป็นยาการรับประทานองุ่นเป็นประจำมีส่วนช่วยในการบำรุงสมอง บำรุงหัวใจ แก้กระหาย ขับปัสสาวะและบำรุงกำลังคนที่ร่างกายผอมแห้งแก่ก่อนวัยและไม่มีเรี่ยวแรงหากรับประทานองุ่นเป็นประจำจะสามารถช่วยเสริมทำให้ร่างกายแข็งแรงขึ้นได้ส่วนเครือและรากมีฤทธิ์ในการขับลม ขับปัสสาวะ รักษาโรคไขข้ออักเสบ ปวดเอ็นและปวดกระดูกอีกทั้งยังมีฤทธิ์ระงับประสาท แก้ปวดและแก้อาเจียนอีกด้วย
การแปล กรุณารอสักครู่..
ผลลัพธ์ (ไทย) 2:[สำเนา]
คัดลอก!



องุ่นเป็นพืชยืนต้นมีลักษณะเป็นไม้พุ่มเลื้อยมีลักษณะเนื้อแข็งและมีลำต้นกิ่งถาวรอายุเกิน 1 ฤดู ใบกลมขอบหยักเว้าลึก 5 พูโคนใบเว้าเป็นรูปหัวใจดอกออกเป็นช่อแยกแขนงดอกย่อยขนาดเล็กสีเขียวมีหมวก โคนเชื่อมติดกันปลายแยก 5 กลีบเป็นผลเดี่ยวที่ออกเป็นพวง ผลย่อยรูปกลมรีและฉ่ำน้ำมีผิวนวลเกาะและรสหวานมีสีเขียว, ม่วงแดงและม่วงดำแล้วแต่พันธุ์ในผลมีเมล็ดประมาณ 1-4 5,000 ปี เขตกึ่งร้อนกึ่งหนาวและเขตร้อน 5 โดยพระองค์ท่านได้นำพันธุ์ไม้แปลก ๆ และเชื่อว่าในจำนวนพันธุ์ไม้แปลก ๆ ในสมัยรัชกาลที่ 7 การปลูกองุ่นจึงซบเซาไปต่อมาในปี พ.ศ. 2493 โดยหลวงสมานวนกิจ ประเทศสหรัฐอเมริกาและปี พ.ศ. 2497 ดร. พิศปัญญาลักษณ์ ในกฎม ณ เทียรบาลสมัยกรุงศรีอยุธยามีข้อความกล่าวถึง "ป้อมสวนองุ่น" [3] น้ำตาลซูโคส, วิตามินซี, เหล็กและแคลเซียม บำรุงหัวใจ, แก้กระหาย, ขับปัสสาวะและบำรุงกำลังคนที่ร่างกายผอมแห้งแก่ก่อนวัยและไม่มีเรี่ยวแรง ส่วนเครือและรากมีฤทธิ์ในการขับลม, ขับปัสสาวะ, รักษาโรคไขข้ออักเสบ, ปวดเอ็นและปวดกระดูกอีกทั้งยังมีฤทธิ์ระงับประสาท, แก้ปวดและแก้อาเจียนอีกด้วย






การแปล กรุณารอสักครู่..
ผลลัพธ์ (ไทย) 3:[สำเนา]
คัดลอก!



องุ่นเป็นพืชยืนต้นมีลักษณะเป็นไม้พุ่มเลื้อยมีลักษณะเนื้อแข็งและมีลำต้นกิ่งถาวรอายุเกิน 1 ฤดูถ้าปล่อยให้เจริญเติบโตตามธรรมชาติจะเลื้อยเกาะกิ่งไม้ใบกลมขอบหยักเว้าลึก 5 พูโคนใบเว้าเป็นรูปหัวใจดอกย่อยขนาดเล็กสีเขียวมีหมวกจะหลุดออกเมื่อดอกบานกลีบดอกเมื่อบานสีขาวโคนเชื่อมติดกันปลายแยก 5 กลีบเป็นผลเดี่ยวที่ออกเป็นพวง ( เป็นผลเดี่ยวที่เกิดจากดอกช่อแต่ดอกไม่หลอมรวมกัน ) ผลย่อยรูปกลมรีและฉ่ำน้ำมีสีเขียว ,ม่วงแดงและม่วงดำแล้วแต่พันธุ์ในผลมีเมล็ดประมาณ 1 - 4 เมล็ด

[ ]
เนื้อหาประวัติการปลูกแก้จากหลักฐานทางประวัติศาสตร์มีการบ่งบอกว่ามีการปลูกองุ่นกันมามากกว่า 5000 . องุ่นสามารถเจริญเติบโตได้ดีทั้งในเขตหนาวเขตกึ่งร้อนกึ่งหนาวและเขตร้อนสำหรับประเทศไทยไม่ปรากฏหลักฐานแน่ชัดว่านำเข้ามาในสมัยใดแต่คาดว่าน่าจะนำเข้ามาตั้งแต่ในสมัยรัชกาลที่ 5จากต่างประเทศที่ได้เสด็จประพาสมาปลูกในประเทศไทยและเชื่อว่าในจำนวนพันธุ์ไม้แปลกๆเหล่านั้นน่าจะมีพันธุ์องุ่นรวมอยู่ด้วยในสมัยรัชกาลที่ 7
การแปล กรุณารอสักครู่..
 
ภาษาอื่น ๆ
การสนับสนุนเครื่องมือแปลภาษา: กรีก, กันนาดา, กาลิเชียน, คลิงออน, คอร์สิกา, คาซัค, คาตาลัน, คินยารวันดา, คีร์กิซ, คุชราต, จอร์เจีย, จีน, จีนดั้งเดิม, ชวา, ชิเชวา, ซามัว, ซีบัวโน, ซุนดา, ซูลู, ญี่ปุ่น, ดัตช์, ตรวจหาภาษา, ตุรกี, ทมิฬ, ทาจิก, ทาทาร์, นอร์เวย์, บอสเนีย, บัลแกเรีย, บาสก์, ปัญจาป, ฝรั่งเศส, พาชตู, ฟริเชียน, ฟินแลนด์, ฟิลิปปินส์, ภาษาอินโดนีเซี, มองโกเลีย, มัลทีส, มาซีโดเนีย, มาราฐี, มาลากาซี, มาลายาลัม, มาเลย์, ม้ง, ยิดดิช, ยูเครน, รัสเซีย, ละติน, ลักเซมเบิร์ก, ลัตเวีย, ลาว, ลิทัวเนีย, สวาฮิลี, สวีเดน, สิงหล, สินธี, สเปน, สโลวัก, สโลวีเนีย, อังกฤษ, อัมฮาริก, อาร์เซอร์ไบจัน, อาร์เมเนีย, อาหรับ, อิกโบ, อิตาลี, อุยกูร์, อุสเบกิสถาน, อูรดู, ฮังการี, ฮัวซา, ฮาวาย, ฮินดี, ฮีบรู, เกลิกสกอต, เกาหลี, เขมร, เคิร์ด, เช็ก, เซอร์เบียน, เซโซโท, เดนมาร์ก, เตลูกู, เติร์กเมน, เนปาล, เบงกอล, เบลารุส, เปอร์เซีย, เมารี, เมียนมา (พม่า), เยอรมัน, เวลส์, เวียดนาม, เอสเปอแรนโต, เอสโทเนีย, เฮติครีโอล, แอฟริกา, แอลเบเนีย, โคซา, โครเอเชีย, โชนา, โซมาลี, โปรตุเกส, โปแลนด์, โยรูบา, โรมาเนีย, โอเดีย (โอริยา), ไทย, ไอซ์แลนด์, ไอร์แลนด์, การแปลภาษา.

Copyright ©2025 I Love Translation. All reserved.

E-mail: