conclusion from this survey shows t

conclusion from this survey shows that the contractors’
motives driving them to adopt QLASSIC system in their
practice are particularly significant for both beneficial
objectives. This study proves that both internal and
external motives have influenced the contractors’
objectives for seeking the benefits in terms of
organizational operational aspect and competitiveness
aspect. The relationship between internal motives and
operational benefits are respectively high in correlation
which could be concluded that those contractors who
focusing on internal motives aspect would be aiming to
enhance their organizational and operational
improvement. They focus mainly on true quality
improvement for their internal operation. Meanwhile, the
relationship between external motives and competitive
benefits are respectively high in correlation too. This
could be concluded that those contractors who focusing
on external motives aspects are aiming to enhance their
company image, reducing client complain, fulfilling the
client requirement and penetrate to a new quality culture
market. Though, according to this correlation testing
result where the relationship between internal motives
and operational benefits scores r = 0.713 and relationship
between external motives and competitive benefits
scores r = 0.528, we can conclude that the reason
contractors adopting QLASSIC system are tended to aim
and gain benefits from firm operational part more than
external benefits in terms of competitiveness.
However, the contractors’ motives in adopting the
QLASSIC system are revealed, and the results provide the
understanding on the relationship between motives and
benefits on adopting QLASSIC system in construction
practice, there are still limitations on this study. Others
factors that may contribute in influence the contractors'
motives on adopting the QLASSIC system could be adopted
into the future study; organization financial status, project
cost, regulation requirement and, etc. Further research that
investigates this relationship
“abdulaziz a. bubshait,1 member, asce, and
tawfiq h. al-atiq2, iso 9000 quality standards in
construction” There is risk involved in any construction
project. A contractor’s quality assurance system is
essential in preventing problems and the reoccurrence of
problems. This system ensures consistent quality for the
contractor’s clients. An evaluation of the quality systems
of 15 construction contractors in Saudi Arabia is
discussed here. The evaluation was performed against
the ISO 9000 standard. The contractors’ quality systems
vary in complexity, ranging from an informal inspection
and test system to a comprehensive system. The ISO
9000 clauses most often complied with are those dealing
with (1) inspection and test status; (2) inspection and
testing; (3) control of non conformance product; and (4)
handling, storage, and preservation. The clauses least
complied with concern (1) design control; (2) internal
auditing; (3) training; and (4) statistical techniques.
Documentation of a quality system is scarce for the
majority of the contractors. The quality systems of 15
construction contractors were evaluated. The quality
system complexity varies from an informal inspection
and test system to registered ISO 9002 quality system.
The most appealing reasons for registration are top
managements interest in improving project quality and
current or expected demand from customers. The ISO
9000 clauses most often complied with are (1) inspection
and test status; (2) inspection and testing; (3) control of
non conformance product; and (4) handling, storage, and
preservation. Misunderstandings were observed
regarding the quality system documentation, method of
implementation, and the difference between disposition
of non conformances and corrective actions. Setting up
priorities for improvement is another area that
contractors are not performing.
alan michael dodd, “quality function
deployment:of a method for improving contract
specifications in the us corps of engineers” studyied
that The purpose of this thesis is to evaluate the use of
Quality Function Deployment (QFD) as a management
tool to benefit US Army Corps of Engineers' project
managers. The United States Army Corps of Engineers is
one of the largest construction management
organizations in the world, annually performing over 3.5
billion dollars worth of work. The project manager has
primary responsibility within the Corps to ensure the
design both fulfills user's requirements and is prepared
correctly, and that quality control/assurance procedures
are correctly administered.QFD was developed by the
Japanese in 1972 to improve quality and lower costs in
industrial and business related fields, by assuring all of a
company's operational decisions are driven by customer
needs. It uses a set of matrices to relate customers wants
and needs with project specifications and requirements.
Through this process, shortcomings, redundancies, or
conflicts in specifications are identified and resolved.
Critical material requirements and construction processes
are identified, allowing the user to focus the project
delivery system on fulfilling customer requirements. The
scope of this research is limited to development of a
procedure for integrating QFD into the Corps of
Engineers' design/construction delivery process. The
procedure was applied to a Corps' construction project to
evaluate its feasibility for contributing to the delivery
process. QFD assists project managers to clearly identify
and prioritize customer requirements in development of
the conceptual and final design. It is best suited to
projects involving repetition of units or when higherthan-
average quality is demanded. Managers are able to
make better informed decisions made during the delivery

ผลลัพธ์ (ไทย) 1:

บทสรุปจากการสำรวจนี้แสดงให้เห็นว่าผู้รับเหมาขับรถให้นำมาใช้ระบบ QLASSIC ในไม่สนคำครหาของพวกเขาปฏิบัติสำคัญอย่างยิ่งทั้งเป็นประโยชน์วัตถุประสงค์ การศึกษานี้แสดงให้เห็นที่ทั้งภายใน และไม่สนคำครหาภายนอกได้รับอิทธิพลของผู้รับเหมาวัตถุประสงค์เพื่อหาผลประโยชน์ในแง่ของด้านการดำเนินงานขององค์กรและการแข่งขันกว้างยาว ความสัมพันธ์ระหว่างภายในไม่สนคำครหา และประโยชน์ในการดำเนินงานจะสูงตามลำดับในความสัมพันธ์ซึ่งสามารถสรุปที่ผู้รับเหมาที่จะมุ่งเน้นด้านไม่สนคำครหาภายในเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพขององค์กร และการดำเนินงานปรับปรุง พวกเขาเน้นส่วนใหญ่คุณภาพจริงการปรับปรุงสำหรับการทำงานภายในของ ในขณะเดียวกัน การความสัมพันธ์ ระหว่างภายนอกไม่สนคำครหา และแข่งขันประโยชน์มีสูงตามลำดับในความสัมพันธ์มากเกินไป นี้สามารถสรุปได้ที่ผู้รับเหมาเหล่านั้นที่เน้นในภายนอกไม่สนคำครหา ด้านจะมุ่งเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพของพวกเขาภาพลักษณ์ของบริษัท ลดลูกค้าบ่น ดำเนินการตามความต้องการลูกค้า และเจาะเพื่อวัฒนธรรมคุณภาพใหม่ตลาด ถึงแม้ว่า ตามทดสอบความสัมพันธ์นี้ผลที่ความสัมพันธ์ระหว่างภายในไม่สนคำครหาและประโยชน์ในการดำเนินงานคะแนน r = 0.713 และความสัมพันธ์ภายนอกไม่สนคำครหาและประโยชน์คะแนน r = 0.528 เราสามารถสรุปที่เหตุผลจะมีแนวโน้มที่ผู้รับเหมาที่ต้องการใช้ระบบ QLASSIC เพื่อ จุดมุ่งหมายและได้รับประโยชน์จากส่วนหนึ่งในการดำเนินงานของบริษัทมากกว่าประโยชน์ภายนอกในด้านการแข่งขันอย่างไรก็ตาม สำหรับผู้รับเหมาไม่สนคำครหาในใช้การมีการเปิดเผยระบบ QLASSIC และให้ผลลัพธ์เข้าใจในความสัมพันธ์ระหว่างไม่สนคำครหา และประโยชน์ในการใช้ระบบ QLASSIC ในการก่อสร้างฝึก ยังมีข้อจำกัดในการศึกษานี้ ผู้อื่นปัจจัยที่อาจสนับสนุนในอิทธิพลของผู้รับเหมาสามารถนำในการใช้ระบบ QLASSIC ไม่สนคำครหาในการศึกษาในอนาคต สถานะทางการเงินขององค์กร โครงการต้นทุน ความต้องการระเบียบและ ฯลฯ เพิ่มเติม งานวิจัยที่ตรวจสอบความสัมพันธ์นี้"อับดุล a. bubshait หนึ่ง 1, asce และtawfiq h. al-atiq2 มาตรฐานคุณภาพ iso 9000 ในก่อสร้าง"มีเป็นความเสี่ยงที่เกี่ยวข้องในการก่อสร้างใด ๆโครงการ มีระบบการประกันคุณภาพของผู้รับเหมาสำคัญในการป้องกันปัญหาและ reoccurrence ของปัญหา ระบบนี้ช่วยให้มั่นใจคุณภาพที่สอดคล้องกันสำหรับการลูกค้าของผู้รับเหมา การประเมินระบบคุณภาพของผู้รับเหมาก่อสร้าง 15 ในซาอุดีอาระเบียกล่าวถึงที่นี่ ทำการประเมินต่อมาตรฐาน ISO 9000 ระบบคุณภาพของผู้รับเหมาแตกต่างกันไปในความซับซ้อน ตั้งแต่การตรวจสอบอย่างไม่เป็นทางการและทดสอบระบบกับระบบครอบคลุม ISOส่วน 9000 มักมีเป็นผู้จัดการมี (1) ตรวจสอบและทดสอบสถานะ (2) ตรวจสอบ และทดสอบ (3) ควบคุมสอดคล้องผลิตภัณฑ์ และ (4)จัดการ จัดเก็บ และการเก็บรักษา ประโยคน้อยที่สุดมีการควบคุมการออกแบบ (1) ความกังวล (2) ภายในตรวจสอบ (3) ฝึกอบรม และเทคนิคทางสถิติ (4)เอกสารระบบคุณภาพเป็นสิ่งที่หายากสำหรับส่วนใหญ่ผู้รับเหมาที่ ระบบคุณภาพของ 15มีประเมินผู้รับเหมาก่อสร้าง มีคุณภาพความซับซ้อนของระบบตั้งแต่การตรวจสอบอย่างไม่เป็นทางการและทดสอบระบบลงทะเบียนระบบคุณภาพ ISO 9002เหตุผลน่าสนใจที่สุดสำหรับการลงทะเบียนอยู่ด้านบนสนใจการจัดการในการพัฒนาโครงการ และปัจจุบัน หรือคาดการณ์ความต้องการจากลูกค้า ISO9000 ประโยคมักมีมีการตรวจสอบ (1)และ ทดสอบ (2) ตรวจสอบและการทดสอบ (3) ควบคุมการผลิตภัณฑ์สอดคล้อง และการ จัดการ (4) จัดเก็บ และเก็บรักษา เกิดความเข้าใจผิดที่พบเกี่ยวกับเอกสารในระบบคุณภาพ วิธีการใช้งาน และความแตกต่างระหว่างการครอบครองคล้องและดำเนินการแก้ไข การตั้งค่าระดับความสำคัญของการปรับปรุงเป็นพื้นที่อื่นที่ผู้รับเหมาไม่ได้ทำการอลันไมเคิล dodd "ฟังก์ชันคุณภาพปรับใช้: วิธีการปรับปรุงสัญญาstudyied ข้อมูลจำเพาะในสหรัฐอเมริกาหน่วยวิศวกร"ว่า วัตถุประสงค์ของวิทยานิพนธ์นี้คือการ ประเมินการใช้คุณภาพฟังก์ชันใช้งาน (QFD) เป็นการจัดการเครื่องมือเพื่อประโยชน์ของเราหน่วยกองทัพของวิศวกรโครงการผู้จัดการ มีหน่วยกองทัพสหรัฐอเมริกาของวิศวกรบริหารงานก่อสร้างที่ใหญ่ที่สุดอย่างใดอย่างหนึ่งองค์กรในโลก ทำกว่า 3.5 ปีพันล้านดอลลาร์มูลค่าของงาน ผู้จัดการโครงการได้รับผิดชอบภายในหน่วยให้การออกแบบตอบสนองความต้องการของผู้ใช้ และเป็นเตรียมถูกต้อง และขั้นตอนการควบคุมคุณภาพ/ประกันได้อย่างถูกต้องรับการดูแล QFD ถูกพัฒนาขึ้นโดยการภาษาญี่ปุ่นในการปรับปรุงคุณภาพและลดค่าใช้จ่ายในธุรกิจและอุตสาหกรรมที่เกี่ยวข้องกับฟิลด์ โดยมั่นใจทุกตัดสินใจในการดำเนินงานของบริษัทขับเคลื่อน โดยลูกค้าความต้องการ ใช้ชุดของเมทริกซ์ที่เกี่ยวข้องต้องการลูกค้าและด้วยข้อกำหนดของโครงการและความต้องการผ่านขั้นตอนนี้ แสดง redundancies หรือความขัดแย้งในข้อมูลจำเพาะที่ระบุ และแก้ไขความต้องการวัสดุสำคัญและกระบวนการก่อสร้างระบุ อนุญาตให้ผู้ใช้มุ่งเน้นโครงการระบบการจัดส่งในการตอบสนองความต้องการของลูกค้า ที่ขอบเขตของงานวิจัยนี้จะจำกัดการพัฒนาของการขั้นตอนการรวม QFD เป็นหน่วยของขั้นตอนการจัดส่งวิศวกรออกแบบ/ก่อสร้าง ที่ขั้นตอนนำมาใช้ที่โครงการก่อสร้างของหน่วยการประเมินความเป็นไปได้ของการสนับสนุนในการจัดส่งกระบวนการ QFD ช่วยผู้จัดการโครงการต้องระบุชัดเจนและจัดลำดับความสำคัญความต้องการของลูกค้าในการพัฒนาออกแบบแนวคิด และสุดท้าย มันมีการโครงการที่เกี่ยวข้องกับการซ้ำของหน่วย หรือเมื่อ higherthan -เรียกร้องคุณภาพเฉลี่ย ผู้จัดการจะสามารถดีตัดสินใจทำในระหว่างการจัดส่ง

ผลลัพธ์ (ไทย) 2:

ข้อสรุปที่ได้จากการสำรวจนี้แสดงให้เห็นว่าผู้รับเหมาแรงจูงใจให้พวกเขาขับรถเพื่อนำมาใช้ในระบบ QLASSIC ของพวกเขาปฏิบัติโดยเฉพาะอย่างยิ่งมีความสำคัญสำหรับทั้งประโยชน์วัตถุประสงค์ การศึกษาครั้งนี้พิสูจน์ให้เห็นว่าทั้งภายในและแรงจูงใจภายนอกที่มีอิทธิพลต่อผู้รับเหมาวัตถุประสงค์สำหรับการแสวงหาผลประโยชน์ในแง่ของมุมมองการดำเนินงานขององค์กรและการแข่งขันด้าน ความสัมพันธ์ระหว่างแรงจูงใจภายในและผลประโยชน์ในการดำเนินงานเป็นลำดับที่สูงในความสัมพันธ์ซึ่งอาจจะสรุปได้ว่าผู้รับเหมาผู้ที่มุ่งเน้นไปในด้านแรงจูงใจภายในจะต้องมีเป้าหมายที่จะเพิ่มประสิทธิภาพในองค์กรและการดำเนินงานของพวกเขาในการปรับปรุง พวกเขาส่วนใหญ่มุ่งเน้นไปที่คุณภาพที่แท้จริงของการปรับปรุงการดำเนินงานภายในของพวกเขา ในขณะที่ความสัมพันธ์ระหว่างแรงจูงใจภายนอกและการแข่งขันผลประโยชน์เป็นลำดับที่สูงในความสัมพันธ์มากเกินไป นี้สามารถสรุปได้ว่าผู้รับเหมาผู้ที่มุ่งเน้นไปในด้านแรงจูงใจภายนอกมีวัตถุประสงค์เพื่อเสริมสร้างของพวกเขาภาพของบริษัท ลดลูกค้าบ่นตอบสนองความต้องการของลูกค้าและเจาะกับวัฒนธรรมใหม่ที่มีคุณภาพในตลาด แม้ว่าตามนี้การทดสอบความสัมพันธ์ผลที่ความสัมพันธ์ระหว่างแรงจูงใจภายในและการดำเนินงานคะแนนผลประโยชน์r = 0.713 และความสัมพันธ์ระหว่างแรงจูงใจภายนอกและผลประโยชน์การแข่งขันคะแนนr = 0.528, เราสามารถสรุปได้ว่าสาเหตุที่ผู้รับเหมาการนำระบบQLASSIC จะมีแนวโน้มที่จะมีจุดมุ่งหมายและกำไรผลประโยชน์จากการมีส่วนร่วมในการดำเนินงานของ บริษัท มากกว่าผลประโยชน์ภายนอกในแง่ของความสามารถในการแข่งขัน. แต่แรงจูงใจของผู้รับเหมาในการนำระบบ QLASSIC จะถูกเปิดเผยและผลที่ให้ความเข้าใจเกี่ยวกับความสัมพันธ์ระหว่างแรงจูงใจและผลประโยชน์ในการนำระบบQLASSIC ในการก่อสร้างทางปฏิบัติมียังคงมีข้อ จำกัด ในการศึกษาครั้งนี้ อื่น ๆปัจจัยที่อาจมีส่วนร่วมในการมีอิทธิพลต่อผู้รับเหมาแรงจูงใจในการนำระบบ QLASSIC อาจจะนำเข้าสู่การศึกษาในอนาคต องค์กรสถานะทางการเงินโครงการค่าใช้จ่ายที่ต้องการควบคุมและอื่น ๆ นอกจากนี้การวิจัยที่สำรวจความสัมพันธ์นี้"อับดุลอาซิ bubshait 1 สมาชิก ASCE และกอัลเอช อัล atiq2, ISO 9000 มาตรฐานคุณภาพในการก่อสร้าง"มีความเสี่ยงที่เกี่ยวข้องในการก่อสร้างใด ๆ ที่เป็นโครงการ ระบบการประกันคุณภาพของผู้รับเหมาเป็นสิ่งสำคัญในการป้องกันปัญหาและการกลับเป็นซ้ำของปัญหา ระบบนี้ช่วยให้มั่นใจที่มีคุณภาพสม่ำเสมอสำหรับลูกค้าของผู้รับเหมา การประเมินผลของระบบคุณภาพ15 ผู้รับเหมาก่อสร้างในซาอุดิอาระเบียจะกล่าวถึงที่นี่ การประเมินผลที่ได้รับการดำเนินการกับมาตรฐาน ISO 9000 มาตรฐาน ผู้รับเหมาระบบที่มีคุณภาพแตกต่างกันไปในความซับซ้อนตั้งแต่การตรวจสอบทางการและระบบการทดสอบระบบที่ครอบคลุม มาตรฐาน ISO ข้อ 9000 ส่วนใหญ่มักจะปฏิบัติตามเป็นผู้ที่เกี่ยวข้องกับ(1) การตรวจสอบและทดสอบสถานะ; (2) การตรวจสอบและทดสอบ (3) การควบคุมของผลิตภัณฑ์ที่ไม่สอดคล้อง; และ (4) การจัดการการจัดเก็บและการเก็บรักษา เบ็ดเตล็ดน้อยตามความกังวล (1) การควบคุมการออกแบบ (2) ภายในการตรวจสอบ; (3) การฝึกอบรม และ (4) เทคนิคทางสถิติ. เอกสารระบบคุณภาพที่หายากสำหรับส่วนใหญ่ของผู้รับเหมา ระบบคุณภาพของ 15 ผู้รับเหมาการก่อสร้างได้รับการประเมิน คุณภาพความซับซ้อนของระบบที่แตกต่างจากการตรวจสอบทางการและระบบการทดสอบมาตรฐานISO 9002 ที่ลงทะเบียนระบบคุณภาพ. เหตุผลที่น่าสนใจมากที่สุดสำหรับการลงทะเบียนด้านบนบริหารความสนใจในการปรับปรุงคุณภาพของโครงการและความต้องการในปัจจุบันหรือที่คาดหวังจากลูกค้า มาตรฐาน ISO ข้อ 9000 ส่วนใหญ่มักจะปฏิบัติตามคือ (1) การตรวจสอบและสถานะการทดสอบ (2) การตรวจสอบและทดสอบ (3) การควบคุมของผลิตภัณฑ์ที่ไม่สอดคล้อง; และ (4) การจัดการการจัดเก็บและการเก็บรักษา ความเข้าใจผิดถูกตั้งข้อสังเกตเกี่ยวกับการจัดทำเอกสารระบบคุณภาพวิธีการของการดำเนินงานและความแตกต่างระหว่างจำหน่ายของที่ไม่สอดคล้องและดำเนินการแก้ไข การตั้งค่าลำดับความสำคัญในการปรับปรุงเป็นพื้นที่ที่ผู้รับเหมาจะทำงานได้ไม่. อลันไมเคิลด็อด "ฟังก์ชั่นที่มีคุณภาพการใช้งาน: วิธีการในการปรับปรุงสัญญาข้อกำหนดในคณะเราของวิศวกร" studyied ว่าวัตถุประสงค์ของงานวิจัยนี้คือการประเมินการใช้งานของฟังก์ชั่นการใช้งานที่มีคุณภาพ (QFD) ในขณะที่การจัดการเครื่องมือเพื่อประโยชน์ของกองทัพสหรัฐฯคณะวิศวกรโครงการ'ผู้จัดการ สหรัฐอเมริกากองทัพวิศวกรเป็นหนึ่งในการจัดการการก่อสร้างที่ใหญ่ที่สุดองค์กรในโลกเป็นประจำทุกปีการดำเนินการ3.5 พันล้านดอลลาร์มูลค่าของการทำงาน ผู้จัดการโครงการมีความรับผิดชอบหลักภายในคณะเพื่อให้แน่ใจว่าการออกแบบทั้งตอบสนองความต้องการของผู้ใช้และมีการจัดทำอย่างถูกต้องและการควบคุมคุณภาพที่/ ขั้นตอนการประกันถูกต้องadministered.QFD รับการพัฒนาโดยญี่ปุ่นในปี1972 ในการปรับปรุงคุณภาพและค่าใช้จ่ายที่ต่ำกว่าในอุตสาหกรรมและสาขาที่เกี่ยวข้องทางธุรกิจโดยมั่นใจทั้งหมดในการตัดสินใจในการดำเนินงานของ บริษัท จะถูกขับเคลื่อนโดยลูกค้าความต้องการ จะใช้ชุดของการฝึกอบรมการสร้างความสัมพันธ์ลูกค้าต้องการและความต้องการที่มีข้อกำหนดของโครงการและความต้องการ. ผ่านขั้นตอนนี้ข้อบกพร่องซ้ำซ้อนหรือความขัดแย้งในรายละเอียดที่มีการระบุและการแก้ไข. ต้องการวัสดุที่สำคัญและกระบวนการก่อสร้างจะมีการระบุให้ผู้ใช้สามารถมุ่งเน้นโครงการระบบการจัดส่งในการตอบสนองความต้องการของลูกค้า ขอบเขตของการวิจัยนี้จะถูก จำกัด ในการพัฒนาขั้นตอนสำหรับการบูรณาการQFD เข้าไปในคณะการออกแบบวิศวกร/ กระบวนการส่งมอบการก่อสร้าง ขั้นตอนถูกนำไปใช้ในโครงการก่อสร้างคณะเพื่อประเมินความเป็นไปได้ในการที่เอื้อต่อการส่งมอบกระบวนการ QFD ช่วยผู้จัดการโครงการให้ชัดเจนระบุและจัดลำดับความสำคัญความต้องการของลูกค้าในการพัฒนาของการออกแบบความคิดและครั้งสุดท้าย มันเหมาะที่สุดที่จะโครงการที่เกี่ยวข้องกับการซ้ำซ้อนของหน่วยหรือเมื่อ higherthan- คุณภาพเฉลี่ยเป็นที่ต้องการ ผู้จัดการสามารถที่จะตัดสินใจได้ดีขึ้นในช่วงการจัดส่ง

ผลลัพธ์ (ไทย) 3:

สรุปจากการสำรวจนี้แสดงให้เห็นว่าผู้รับเหมา '
แรงจูงใจ ทำให้เขารับ qlassic ระบบในการปฏิบัติโดยเฉพาะอย่างยิ่งทางด้าน

มีทั้งประโยชน์ . การศึกษาพิสูจน์ว่า ทั้งภายในและภายนอกที่มีอิทธิพลต่อแรงจูงใจ

มีผู้รับเหมาสำหรับการแสวงหาประโยชน์ในแง่ของการดำเนินงานและด้านการแข่งขัน

องค์การด้านความสัมพันธ์ระหว่างแรงจูงใจภายในและประโยชน์การดำเนินงานตามลำดับสูง

) ซึ่งสามารถสรุปได้ว่า ผู้รับเหมาผู้
เน้นด้านแรงจูงใจภายในจะได้รับการเล็งที่จะเพิ่มประสิทธิภาพขององค์กรและการดำเนินงาน

ปรับปรุง พวกเขาจะเน้นหลักในการปรับปรุงคุณภาพ
จริงเพื่อการดำเนินงานภายในของพวกเขา โดย
ความสัมพันธ์ระหว่างแรงจูงใจภายนอกและประโยชน์การแข่งขัน
ตามลำดับสูงในความสัมพันธ์ด้วย นี้
สรุปได้ว่า ผู้รับเหมาที่เน้นในด้านแรงจูงใจภายนอก
มีเป้าหมายเพื่อเสริมสร้างภาพลักษณ์ของบริษัท
ลดลูกค้าบ่น ตอบสนองความต้องการของลูกค้า และเพื่อคุณภาพ
เจาะตลาดวัฒนธรรมใหม่

แม้ว่าตามนี้สหสัมพันธ์การทดสอบ
ผลที่ความสัมพันธ์ระหว่างแรงจูงใจภายในด้านผลประโยชน์คะแนน

= 0.713 และความสัมพันธ์ระหว่างแรงจูงใจภายนอก และแข่งขันประโยชน์
คะแนน R = 0.528 เราสามารถสรุปได้ว่า เหตุผล
ผู้รับเหมาระบบการนํา qlassic ก็มีแนวโน้มได้รับประโยชน์จาก บริษัท และเป้าหมาย

ส่วนปฏิบัติมากกว่าผลประโยชน์ภายนอก ในแง่ของการแข่งขัน .
อย่างไรก็ตามผู้รับเหมา ' แรงจูงใจในการใช้ระบบ qlassic
เปิดเผย และผลลัพธ์ให้
ความเข้าใจเกี่ยวกับความสัมพันธ์ระหว่างแรงจูงใจและประโยชน์ในการใช้ระบบ qlassic

ฝึกในการก่อสร้างยังคงมีข้อ จำกัด ในการศึกษานี้ คนอื่น ๆที่อาจมีส่วนร่วมใน
ปัจจัยที่มีอิทธิพลต่อแรงจูงใจในการใช้ผู้รับเหมา '

qlassic ระบบอาจจะประกาศใช้ในการศึกษาอนาคต สถานะทางการเงินขององค์กร ต้นทุนโครงการ
, การควบคุมความต้องการ และ ฯลฯ เพิ่มเติม การวิจัยที่ศึกษาความสัมพันธ์นี้

" ประเทศ . bubshait , 1 สมาชิก , ASCE และ
tawfiq h al-atiq2 มาตรฐานคุณภาพ ISO 9000 ใน
ก่อสร้าง " มีความเสี่ยงที่เกี่ยวข้องในโครงการก่อสร้าง
ใด ๆ ระบบการประกันคุณภาพของผู้รับเหมาอยู่
จำเป็นในการป้องกันปัญหา และการเกิดซ้ำของปัญหา
. ระบบนี้ช่วยให้มั่นใจคุณภาพที่สอดคล้องกันสำหรับลูกค้า
ของผู้รับเหมา การประเมินระบบคุณภาพ
15 การก่อสร้างผู้รับเหมาในซาอุดีอาระเบีย
คุยกันที่นี่ การประเมินการปฏิบัติกับ
ISO 9000 มาตรฐาน ผู้รับเหมาที่มีคุณภาพระบบ
แตกต่างกันไปในความซับซ้อนตั้งแต่
ตรวจสอบอย่างไม่เป็นทางการและระบบทดสอบระบบที่ครอบคลุม ISO 9000 ส่วนส่วนใหญ่มักจะปฏิบัติตาม

เป็นผู้ติดต่อกับ ( 1 ) ตรวจสอบและทดสอบสถานะ ; ( 2 ) การตรวจสอบและการทดสอบ
; ( 3 ) ควบคุมผลิตภัณฑ์ที่ไม่ ; และ ( 4 )
การจัดการการจัดเก็บและการเก็บรักษา อนุพากย์น้อย
ปฏิบัติตามความห่วงใย ( 1 ) ควบคุมการออกแบบ ( 2 ) การตรวจสอบภายใน
; ( 3 ) การฝึกอบรม และ ( 4 ) สถิติ
.เอกสารของระบบคุณภาพมีไม่เพียงพอสำหรับ
ส่วนใหญ่ของผู้รับเหมา คุณภาพระบบ 15
ผู้รับเหมาก่อสร้าง และประเมิน
คุณภาพระบบซับซ้อนที่แตกต่างจากแบบตรวจสอบ
และทดสอบระบบลงทะเบียน ระบบคุณภาพ ISO 9002 .
ที่น่าสนใจมากที่สุดสำหรับเหตุผลที่ลงทะเบียนสนใจ
ผู้บริหารในการปรับปรุงคุณภาพของโครงการและ
ในปัจจุบัน และคาดว่าความต้องการจากลูกค้า ISO 9000 ส่วนส่วนใหญ่มักจะปฏิบัติตาม

คือ ( 1 ) การตรวจสอบและทดสอบสถานะ ; ( 2 ) การตรวจสอบและทดสอบ ( 3 ) การควบคุม
ผลิตภัณฑ์ไม่สอดคล้อง และ ( 4 ) การจัดการการจัดเก็บและ
การถนอมอาหาร ความเข้าใจผิดที่พบ
เกี่ยวกับระบบเอกสารคุณภาพ วิธีการ
การใช้งานและความแตกต่างระหว่างนิสัย
ของ conformances โนนและการดำเนินการแก้ไข การตั้งค่าลำดับความสำคัญในการปรับปรุงพื้นที่อื่น

ที่ผู้รับเหมาจะไม่แสดง .
อลัน ไมเคิล ดอดด์ , " การใช้งานฟังก์ชัน
คุณภาพ : วิธีการในการปรับปรุงสัญญา
ข้อกําหนดในคณะเราวิศวกร " studyied
ว่า วิทยานิพนธ์ฉบับนี้ มีวัตถุประสงค์เพื่อประเมินการใช้
ปกาเกอะญอ ( QFD ) เป็น การจัดการ
เครื่องมือเพื่อประโยชน์กับเรา กองทัพของผู้จัดการโครงการ
วิศวกร ' สหรัฐอเมริกากองทัพวิศวกร เป็นหนึ่งในองค์กรที่ใหญ่ที่สุด

สร้างการจัดการในโลก ทุกปีการแสดงมากกว่า 3.5
พันล้านดอลลาร์มูลค่าของงาน ผู้จัดการโครงการมี
ความรับผิดชอบหลักภายในคณะเพื่อให้มั่นใจว่าตอบสนองความต้องการของผู้ใช้ การออกแบบทั้ง

และเตรียมตัวได้อย่างถูกต้องและควบคุม / ประกันคุณภาพขั้นตอนอย่างถูกต้อง administered.qfd

ถูกพัฒนาโดยญี่ปุ่นในปี 1972 เพื่อปรับปรุงคุณภาพ และลดต้นทุนใน
อุตสาหกรรมและธุรกิจที่เกี่ยวข้อง โดยมั่นใจทุกการตัดสินใจการดำเนินงานเป็น
บริษัทขับเคลื่อนโดยความต้องการของลูกค้า

จะใช้ชุดของเมทริกซ์กับลูกค้าต้องการและความต้องการกับข้อกําหนดโครงการ

และความต้องการผ่านกระบวนการนี้ จุดอ่อนซ้อนหรือ
ความขัดแย้งในคุณสมบัติที่ระบุและแก้ไข ความต้องการวัสดุและกระบวนการก่อสร้างที่สำคัญ

จะระบุให้ผู้ใช้กับระบบโฟกัสโครงการส่ง
ในการบรรลุความต้องการของลูกค้า
ขอบเขตของงานวิจัยนี้จะ จำกัด การพัฒนากระบวนการบูรณาการการแปลงเป็น

คณะวิศวกรออกแบบ / ก่อสร้างส่งมอบกระบวนการ
ขั้นตอนที่ใช้กับรุ่น

ประเมินความเป็นไปได้โครงการก่อสร้างสำหรับให้เกิดกระบวนการจัดส่ง

QFD ช่วยผู้จัดการโครงการเพื่อระบุอย่างชัดเจน
และจัดลำดับความสำคัญความต้องการของลูกค้าในการพัฒนา
แนวคิดการออกแบบและสุดท้าย . มันเป็นที่ดีที่สุดเหมาะกับโครงการที่เกี่ยวข้องกับการซ้ำของหน่วย
-
เมื่อสูงกว่าหรือคุณภาพโดยเฉลี่ยคือเรียกร้อง ผู้จัดการสามารถ
ให้ทราบดีกว่าการตัดสินใจในระหว่างการคลอด