Our results (Table 3) show that dir

Our results (Table 3) show that direct timber consumption coefficients vary greatly across industrial sectors. The largest
(14,388.36m3/100 MRMB) belongs to the papermaking and paper products industry and the second largest to the furniture
manufacturing industry (11,051.03m3/100 MRMB), followed by the wood processing and wood, bamboo, rattan, and grass products industry (7343.29m3/100 MRMB) and the construction industry (1497.49m3/100 MRMB). The ratio of the largest to the smallest is 561

ผลลัพธ์ (ไทย) 1:

ผลลัพธ์ที่ได้ (ตาราง 3) แสดงว่า สัมประสิทธิ์การใช้ไม้โดยตรงแตกต่างกันมากในภาคอุตสาหกรรม ใหญ่ที่สุด(14, 388.36m3/100 MRMB) ของอุตสาหกรรมผลิตภัณฑ์ papermaking และกระดาษและใหญ่เป็นอันดับสองเฟอร์นิเจอร์อุตสาหกรรม (11, 051.03m3/100 MRMB), ตาม ด้วยการแปรรูปไม้ และไม้ ไม้ไผ่ หวาย และอุตสาหกรรมผลิตภัณฑ์หญ้า (7343.29m3/100 MRMB) และอุตสาหกรรมก่อสร้าง (1497.49m3/100 MRMB) อัตราส่วนที่น้อยที่สุดคือ 561

ผลลัพธ์ (ไทย) 2:

ผลของเรา (ตารางที่ 3) แสดงให้เห็นว่าไม้โดยตรงสัมประสิทธิ์การบริโภคแตกต่างกันมากในภาคอุตสาหกรรม ที่ใหญ่ที่สุด
(14,388.36m3 / 100 MRMB) เป็นอุตสาหกรรมการผลิตกระดาษและผลิตภัณฑ์กระดาษและใหญ่เป็นอันดับสองให้กับเฟอร์นิเจอร์
อุตสาหกรรมการผลิต (11,051.03m3 / 100 MRMB) ตามด้วยการประมวลผลไม้และไม้หวายไม้ไผ่และผลิตภัณฑ์หญ้าอุตสาหกรรม (7343.29m3 / 100 MRMB) และอุตสาหกรรมการก่อสร้าง (1497.49m3 / 100 MRMB) อัตราส่วนของที่ใหญ่ที่สุดที่เล็กที่สุดคือ 561

ผลลัพธ์ (ไทย) 3:

ผลของเรา ( ตารางที่ 3 ) พบว่าค่าสัมประสิทธิ์แตกต่างกันอย่างมาก การบริโภคโดยตรงไม้ข้ามภาคอุตสาหกรรม ที่ใหญ่ที่สุด( 14388.36m3/100 mrmb ) เป็นของอุตสาหกรรมผลิตกระดาษและผลิตภัณฑ์กระดาษและตัวที่สองที่ใหญ่ที่สุดกับเฟอร์นิเจอร์อุตสาหกรรมการผลิต ( 11051.03m3/100 mrmb ) รองลงมา คือ ไม้และแปรรูปไม้ ไม้ไผ่ หวาย และอุตสาหกรรมผลิตภัณฑ์หญ้า ( 7343.29m3/100 mrmb ) และอุตสาหกรรมการก่อสร้าง ( 1497.49m3/100 mrmb ) อัตราส่วนของใหญ่ไปเล็กที่สุดคือ 561