hydroperoxides(3). Most botanical a

hydroperoxides(3). Most botanical antioxidants fall in
one of these three classes: flavonoids, carotenoids and
polyphenols. Such bioactive compounds are reputed
to fight against a wide spectrum of aging signs, such
as wrinkling, skin drying, photoaging and skin
pigmentation. Free radicals are the first and most
common cause of skin aging, in particular photoaging
and the reduction of this free radical injury in the
epidermis is the most important strategy for a modern
skin care products(2). Thailand has many botanical and
medicinal plants containing antioxidants, such as
Curcuma longa L(4) and Hibiscus sabdariffa L or
Roselle(5). Thailand and China are in fact the largest
exporter of Roselle calyces in the world, extracts of
which find various uses worldwide. Use of such
antioxidant containing plants for the development of
high-value products (such as cosmetics) is vital for the
development of the country.
Hibiscus sabdariffa L or Roselle belongs to
the Malvaceae family. Its extracts contain flavonoid
constituents, including crysanthemin, delphinidin-
3-O-sambubioside, myricetin, hibiscitrin(6) and
gossypitrin(7). Moreover, Roselle calyces also contain
phenylpropanoid compounds, such as orthocoumaric
acid, paracoumaric acid, ferulic acid(6) and polyphenolic
constituents such as anthocyanin and protocatechuic
acid(8-13).
Tseng et al(10) reported that at the test
concentration of 0.01 and 0.1 mg/mL, the
protocatechuic acid isolated from Roselle calyx extracts
scavenged about 58% and 82% of DPPH radicals in the
solution, respectively. No toxicity was reported in rats
after ingesting the aqueous extract of Roselle calyces
in the dose range of 150-180 mg/kg per day, however, a
higher human dose should be taken with caution,
bearing in mind that it could affect the liver(14). Roselle
extracts were characterized by a very low toxicity with
the LD50 of above 5,000 mg/kg in rats(15). There was
only one report suggested that excessive doses for
relatively long period could have a deleterious effect
on the testes of rats(15). In Thailand, Roselle calyces
are normally used for making cold drinks and jam
and also used as traditional medicines, including
as an astringent, antihypercholesterolemic,
antidiabetic, diuretic, digestive, expectorant, stomachic,
antihypertensive and for treatment of gallstones(15-17).
In addition, Roselle extract is one of several such plant
extracts that have been used in cosmetics, such as skin
toner/astringents and anti-aging skin care products.
Although Roselle has GRAS status as a food
ingredient, there is no clinical or scientific evidence for

ผลลัพธ์ (ไทย) 1:

hydroperoxides(3) สารต้านอนุมูลอิสระพฤกษศาสตร์ส่วนใหญ่อยู่ใน
สามชั้นเรียนเหล่านี้อย่างใดอย่างหนึ่ง: flavonoids, carotenoids และ
โพลี มีชื่อเสียงเช่นสารประกอบกรรมการก
ในการต่อสู้กับริ้วรอยหลากหลายป้าย เช่น
เป็น wrinkling ผิวแห้ง ภาวะแก่แดด และผิว
ผิวคล้ำ อนุมูลอิสระเป็นครั้งแรก และมากที่สุด
สาเหตุของริ้วรอยผิวหนัง ในภาวะแก่แดดเฉพาะ
และลดการบาดเจ็บในอนุมูลอิสระนี้จะ
หนังกำพร้าเป็นกลยุทธ์สำคัญสำหรับความ
products(2) ดูแลผิว ประเทศไทยมีหลายศาสตร์ และ
พืชสมุนไพรที่ประกอบด้วยสารต้านอนุมูลอิสระ เช่น
ใช้ขมิ้นชันลองกา L(4) และกระเจี๊ยบเขียวมัลเบอร์รี่ L or
Roselle(5) ไทยและจีนในความเป็นจริงใหญ่ที่สุด
สารสกัดจากกระเจี๊ยบแดง calyces ในโลก ผู้ส่งออกของ
ซึ่งพบการใช้งานต่าง ๆ ทั่วโลก ใช้เช่น
ต้านอนุมูลอิสระที่ประกอบด้วยการพัฒนาพืช
ผลิตภัณฑ์สูงค่า (เช่นเครื่องสำอาง) มีความสำคัญสำหรับการ
พัฒนาประเทศ
กระเจี๊ยบแดงหรือกระเจี๊ยบเขียวมัลเบอร์รี่ L อยู่
ครอบครัววงศ์ฝ้าย สารสกัดประกอบด้วย flavonoid
constituents รวมทั้ง crysanthemin, delphinidin-
3-O-sambubioside, hibiscitrin(6) and
gossypitrin(7), myricetin นอก calyces กระเจี๊ยบแดงยังประกอบด้วย
phenylpropanoid สาร เช่น orthocoumaric
กรด กรด paracoumaric, ferulic acid(6) และ polyphenolic
constituents มีโฟเลทสูงและ protocatechuic
acid(8-13).
หยานี et al(10) รายงานว่า ในการทดสอบ
ความเข้มข้น 0.01 และ 0.1 mg/mL การ
protocatechuic กรดแยกต่างหากจากกระเจี๊ยบแดงสารสกัดจากคาลิกซ์
scavenged ประมาณ 58% และ 82% ของอนุมูล DPPH ในการ
โซลูชัน ตามลำดับ รายงานไม่มีความเป็นพิษในหนู
หลังจาก ingesting สารสกัดอควีของกระเจี๊ยบแดง calyces
ในช่วง 150-180 มิลลิกรัม/กิโลกรัมต่อวัน อย่างไรก็ตาม ยา
ยาสูงกว่ามนุษย์ควรดำเนินการ ด้วยความระมัดระวัง,
กรุณาระบุว่า มันสามารถส่งผลกระทบต่อที่ liver(14) กระเจี๊ยบแดง
บางส่วนมีลักษณะความเป็นพิษต่ำมากด้วย
LD50 ของเหนือ 5000 mg/kg rats(15) มี
รายงานเดียวแนะนำที่ปริมาณมากเกินไปสำหรับ
ค่อนข้างนานอาจมีผลร้าย
บนลิ้มของ rats(15) ในประเทศไทย กระเจี๊ยบแดง calyces
ปกติจะใช้สำหรับทำเครื่องดื่มเย็นและแยม
และยัง ใช้เป็นยาโบราณ รวม
เป็นยาสมานแผล antihypercholesterolemic,
antidiabetic ยาขับปัสสาวะ ทางเดิน อาหาร expectorant, stomachic,
ลดความดัน และ การรักษาของ gallstones(15-17)
, สารสกัดจากกระเจี๊ยบแดงเป็นหนึ่งในหลายพืชเช่น
สารสกัดที่ใช้ในเครื่องสำอาง เช่นผิว
ผง/astringents และชะลอผิวดูแลผลิตภัณฑ์
แม้ว่ากระเจี๊ยบแดงมีสถานะดิกราส์เป็นอาหาร
ส่วนผสม มีไม่มีหลักฐานทางคลินิก หรือทางวิทยาศาสตร์สำหรับ

ผลลัพธ์ (ไทย) 2:

hydroperoxides (3) สารต้านอนุมูลอิสระมากที่สุดพฤกษศาสตร์ตกอยู่ใน
หนึ่งของเหล่านี้สามชั้นเรียน: flavonoids, นอยด์และ
โพลีฟีน สารออกฤทธิ์ทางชีวภาพดังกล่าวมีชื่อเสียง
ในการต่อสู้กับคลื่นกว้างของสัญญาณริ้วรอยดังกล่าว
เป็นย่นแห้งผิวแสงแดดและผิว
คล้ำ อนุมูลอิสระเป็นครั้งแรกและส่วนใหญ่
สาเหตุของริ้วรอยผิวโดยเฉพาะอย่างยิ่งแสงแดด
และการลดลงของการบาดเจ็บรุนแรงนี้ฟรีใน
ผิวหนังชั้นนอกเป็นกลยุทธ์ที่สำคัญที่สุดสำหรับการที่ทันสมัย
​​ผลิตภัณฑ์ดูแลผิว (2) ประเทศไทยมีหลายพฤกษศาสตร์และ
พืชสมุนไพรที่มีสารต้านอนุมูลอิสระเช่น
ขมิ้นชัน L (4) และ Hibiscus sabdariffa ลิตรหรือ
กระเจี๊ยบแดง (5) ไทยและจีนในความเป็นจริงที่ใหญ่ที่สุด
ส่งออกของกระเจี๊ยบ calyces ในโลก, สารสกัดจาก
ที่พบการใช้งานต่างๆทั่วโลก เช่นการใช้
สารต้านอนุมูลอิสระที่มีพืชสำหรับการพัฒนา
ผลิตภัณฑ์ที่มีมูลค่าสูง (เช่นเครื่องสำอาง) มีความสำคัญสำหรับ
การพัฒนาของประเทศ
Hibiscus sabdariffa ลิตรหรือกระเจี๊ยบแดงเป็นของ
ครอบครัว Malvaceae สารสกัดที่มี flavonoid
องค์ประกอบรวมทั้ง crysanthemin, delphinidin-
3-O-sambubioside,, myricetin hibiscitrin (6) และ
gossypitrin (7) นอกจากนี้ calyces กระเจี๊ยบแดงยังมี
สาร phenylpropanoid เช่น orthocoumaric
กรดกรด paracoumaric กรด ferulic (6) และโพลีฟี
องค์ประกอบเช่น anthocyanin และ protocatechuic
กรด (8-13)
เซ่งส์และอัล (10) รายงานว่าการทดสอบที่
เข้มข้นของ 0.01 และ 0.1 mg / ml,
กรด protocatechuic ที่แยกได้จากสารสกัดจากกลีบเลี้ยงกระเจี๊ยบแดง
พายุประมาณ 58% และ 82% ของอนุมูล DPPH ใน
การแก้ปัญหาตามลำดับ ไม่มีความเป็นพิษที่มีการรายงานในหนู
หลังจากการบริโภคสารสกัดน้ำของ calyces กระเจี๊ยบแดง
ในช่วงที่ปริมาณของ 150-180 mg / kg ต่อวัน แต่
ปริมาณที่สูงกว่ามนุษย์จะต้องดำเนินการด้วยความระมัดระวัง
โดยคำนึงถึงว่ามันจะส่งผลกระทบต่อตับ ( 14) กระเจี๊ยบแดง
สารสกัดโดดเด่นด้วยความเป็นพิษต่ำมากกับ
LD50 ข้างต้น 5,000 mg / kg ในหนู (15) มี
เพียงคนเดียวที่รายงานชี้ให้เห็นว่าปริมาณมากเกินไปเพราะ
ระยะเวลาค่อนข้างยาวอาจมีผลอันตราย
ในอัณฑะของหนู (15) ในประเทศไทยกระเจี๊ยบ calyces
ปกติจะใช้สำหรับการทำเครื่องดื่มเย็นและการจราจรติดขัด
และยังใช้เป็นยาแผนโบราณรวมทั้ง
เป็นยาสมานแผล, antihypercholesterolemic,
เบาหวาน, ปัสสาวะ, การย่อยอาหารเสมหะ STOMACHIC,
ลดความดันโลหิตและการรักษาโรคนิ่ว (15-17)
นอกจากนี้สารสกัดกระเจี๊ยบแดงเป็นหนึ่งในหลายพืชเช่น
สารสกัดที่มีการใช้ในเครื่องสำอางเช่นผิว
หมึก / astringents และต่อต้านริ้วรอยผลิตภัณฑ์ดูแลผิว
แม้ว่ากระเจี๊ยบแดงมีสถานะ GRAS เป็นอาหาร
ส่วนผสมไม่มีหลักฐานทางคลินิกหรือทางวิทยาศาสตร์ เพื่อ

ผลลัพธ์ (ไทย) 3:

hydroperoxides ( 3 ) สารต้านอนุมูลอิสระ Botanical ส่วนใหญ่ตกอยู่ในหนึ่งของชั้นสามเหล่านี้ :

polyphenols และ flavonoids , แคโรทีนอยด์ . เช่น สารออกฤทธิ์ทางชีวภาพที่มีชื่อเสียง
เพื่อต่อสู้กับสเปกตรัมกว้างของสัญญาณความชรา เช่น
เป็นย่น ผิวหนังแห้ง ภาพถ่าย และสีผิว

อนุมูลอิสระเป็นแรก และสาเหตุส่วนใหญ่
ของอายุผิว โดยเฉพาะภาพถ่าย
และการลดลงของการบาดเจ็บอนุมูลอิสระใน
หนังกำพร้าเป็นกลยุทธ์ที่สำคัญที่สุดสำหรับผู้หญิงทันสมัย
ผลิตภัณฑ์ดูแลผิว ( 2 ) ประเทศไทยมีพืชสมุนไพรที่มีสารต้านอนุมูลอิสระ

ผม เช่น ขมิ้นชัน ( 4 ) และสีสันของ L หรือ
กระเจี๊ยบ ( 5 ) ไทยและจีนได้ในความเป็นจริงที่ใหญ่ที่สุด
ส่งออกกระเจี๊ยบ calyces ในโลก , สารสกัดจาก
ซึ่งพบการใช้งานต่างๆ ทั่วโลก ใช้เช่น
สารต้านอนุมูลอิสระที่มีพืชสำหรับการพัฒนาผลิตภัณฑ์ที่มีมูลค่าสูง เช่น เครื่องสําอาง

) เป็นสิ่งสำคัญสำหรับการพัฒนาของประเทศ
ชบาของ L หรือกระเจี๊ยบเป็นของ
ตระกูล Malvaceae . สารฟลาโวนอยด์ซึ่งมีองค์ประกอบได้แก่ crysanthemin
, , 3-o-sambubioside ไมริซีทินเดลฟินิดีน -
, ,
gossypitrin hibiscitrin ( 6 ) และ ( 7 )นอกจากนี้ยังประกอบด้วยกระเจี๊ยบแดง calyces
phenylpropanoid สารประกอบ เช่น orthocoumaric
กรด paracoumaric กรด ferulic acid ( 6 ) และสารประกอบฟีนอล เช่น protocatechuic

แอนโธไซยานินและกรด ( 8-13 ) .
เช็ง et al ( 10 ) รายงานว่า ในการทดสอบ
ความเข้มข้น 0.01 และ 0.1 มก. / มล.
กรด protocatechuic แยกจากสารสกัดกระเจี๊ยบกลีบเลี้ยง
คือประมาณ 58 เปอร์เซ็นต์ และ 82% ของ dpph อนุมูลอิสระใน
แก้ปัญหาตามลำดับ ไม่มีพิษมีรายงานในหนู
หลังจากได้รับสารสกัดน้ำของกระเจี๊ยบ calyces
ในช่วงไม่เกิน 150-180 มิลลิกรัมต่อกิโลกรัมต่อวัน อย่างไรก็ตาม ปริมาณสูงกว่ามนุษย์
ควรจะดำเนินการด้วยความระมัดระวัง
แบริ่งในใจว่า มันอาจมีผลต่อตับ ( 14 ) สารสกัดกระเจี๊ยบแดง
มีลักษณะโดยความเป็นพิษต่ำมากกับ
การ ld50 ขึ้นไป 5 , 000 มก. / กก. ในหนูขาว ( 15 ) มีเพียงหนึ่งรายงานชี้ให้เห็นว่า

doses มากเกินไปสำหรับค่อนข้างนาน คงได้ผล
ในอัณฑะของหนู ( 15 ) ในไทย , กระเจี๊ยบ calyces
โดยปกติจะใช้สำหรับทำเครื่องดื่มเย็นและแยม
และยังใช้เป็นยาแบบดั้งเดิมรวมทั้ง
เป็นฝาด antihypercholesterolemic
, , กว่า , ปัสสาวะ , ทางเดินอาหารเสมหะ , ปวดท้อง , ความดันโลหิตสูงและการรักษานิ่ว
( 15-17 ) .
นอกจากนี้กระเจี๊ยบแดงเป็นสารสกัดจากพืช
ต่างๆที่มีการใช้ในเครื่องสำอาง เช่น ผิวหนัง
หมึก / astringents และต่อต้านริ้วรอยผลิตภัณฑ์ดูแลผิว .
ถึงแม้ว่ากระเจี๊ยบมีสถานะ GRAS เป็นอาหาร
ส่วนผสม , ไม่มี คลินิก หรือหลักฐานทางวิทยาศาสตร์สำหรับ