Among the works created by Leonardo

Among the works created by Leonardo in the 16th century is the small portrait known as the Mona Lisa or "la Gioconda", the laughing one. In the present era it is arguably the most famous painting in the world. Its fame rests, in particular, on the elusive smile on the woman's face, its mysterious quality brought about perhaps by the fact that the artist has subtly shadowed the corners of the mouth and eyes so that the exact nature of the smile cannot be determined. The shadowy quality for which the work is renowned came to be called "sfumato" or Leonardo's smoke. Vasari, who is generally thought to have known the painting only by repute, said that "the smile was so pleasing that it seemed divine rather than human; and those who saw it were amazed to find that it was as alive as the original".[84][nb 21]

Other characteristics found in this work are the unadorned dress, in which the eyes and hands have no competition from other details, the dramatic landscape background in which the world seems to be in a state of flux, the subdued colouring and the extremely smooth nature of the painterly technique, employing oils, but laid on much like tempera and blended on the surface so that the brushstrokes are indistinguishable.[nb 22] Vasari expressed the opinion that the manner of painting would make even "the most confident master ... despair and lose heart."[87] The perfect state of preservation and the fact that there is no sign of repair or overpainting is rare in a panel painting of this date.[88]

In the painting Virgin and Child with St. Anne the composition again picks up the theme of figures in a landscape which Wasserman describes as "breathtakingly beautiful"[89] and harkens back to the St Jerome picture with the figure set at an oblique angle. What makes this painting unusual is that there are two obliquely set figures superimposed. Mary is seated on the knee of her mother, St Anne. She leans forward to restrain the Christ Child as he plays roughly with a lamb, the sign of his own impending sacrifice.[21] This painting, which was copied many times, influenced Michelangelo, Raphael, and Andrea del Sarto,[90] and through them Pontormo and Correggio. The trends in composition were adopted in particular by the Venetian painters Tintoretto and Veronese.

ผลลัพธ์ (ไทย) 1:

ในการทำงานที่สร้างขึ้น โดย Leonardo ในศตวรรษที่ 16 เป็นภาพขนาดเล็กที่เรียกว่าโมนาลิซาหรือ "la Gioconda" หนึ่งสังกัจจายน์ ในยุคปัจจุบัน จะเป็นการวาดภาพที่มีชื่อเสียงมากที่สุดในโลก ชื่อเสียงอยู่ โดยเฉพาะ บนยิ้มบนใบหน้าของผู้หญิง คุณภาพของลึกลับที่มาจากความจริงที่ว่า ศิลปินได้อย่างละเอียดแรเงามุมของปากและตาที่ไม่สามารถกำหนดลักษณะที่แน่นอนของยิ้มบางทีเข้าใจยาก คุณภาพแสงที่ทำงานมีชื่อเสียงมาจะเรียกว่า "sfumato" หรือควันของ Leonardo Vasari ที่เป็นความคิดโดยทั่วไปได้รู้จักการวาดภาพ โดยมีชื่อเสียง บอกว่า "ยิ้มพอใจที่ดูเหมือนพระเจ้า มากกว่า มนุษย์ และผู้ที่เห็นมันประหลาดเพื่อค้นหาว่า มันเป็นชีวิตที่เป็นต้นฉบับ" [84] [nb 21]ลักษณะอื่น ๆ ที่พบในงานนี้จะแต่งตัว unadorned ที่ตาและมือมีไม่มีการแข่งขันจากรายละเอียดอื่น ๆ เบื้องหลังภูมิประเทศที่น่าอัศจรรย์โลกดูเหมือนจะ อยู่ในสถานะของไหล สีอ่อน และลักษณะของเทคนิค painterly ใช้น้ำมัน แต่วางบนเหมือนสีฝุ่น และผสมบนพื้นผิวที่คล้ายฝีราบรื่นมาก [nb 22] Vasari แสดงว่าลักษณะของภาพวาดจะทำให้แม้แต่ "สุดมั่นหลัก...หมดหวัง และสูญเสียหัวใจ" [87 เก็บรักษาและความจริงที่ว่า ไม่มีไม่มีซ่อมหรือ overpainting รัฐ]สมบูรณ์จะหายากในจิตรกรรมแผงของวันนี้ [88]ในจิตรกรรมบริสุทธิ์และเด็กกับ St. Anne องค์ประกอบอีกรับรูปแบบของตัวเลขในแนวนอนซึ่งวาอธิบายเป็น "อันสวยงาม" [89] และ harkens กลับไปยังรูปภาพเซนต์เจอโรมพร้อมกับการตั้งค่าที่มุมเอียง สิ่งที่ทำให้ภาพวาดนี้ผิดปกติคือ ว่า มีตัวเลขสองชุดอ้อมซ้อน แมรี่จะนั่งบนหัวเข่าของแม่ เซนต์แอนน์ เธอได้ไปกลั้นพระบุตรประมาณเขาเล่นกับลูกแกะ เครื่องหมายของเขาเองเสียสละสิทธิ [21]การวาดภาพ ซึ่งถูกคัดลอกหลายครั้ง อิทธิพล Michelangelo ราฟาเอล และ Andrea del Sarto, [90] และโดย Pontormo และ Correggio แนวโน้มในองค์ประกอบถูกนำโดยเฉพาะอย่างยิ่ง โดยจิตรกรเวตินโตเรตโตและ Veronese

ผลลัพธ์ (ไทย) 3:

ในบรรดาผลงานที่สร้างโดย Leonardo ในศตวรรษที่ 16 เป็นภาพเล็ก ๆที่เรียกว่า โมนา ลิซ่า หรือ " ลา จิโอกอนดา” หัวเราะคนเดียว ในยุคปัจจุบันมันเป็น arguably ภาพวาดที่มีชื่อเสียงที่สุดในโลก ชื่อเสียงของมันอยู่ โดยเฉพาะ กับรอยยิ้มบนใบหน้าของผู้หญิงที่เข้าใจยาก คุณภาพลึกลับของมันทำให้บางทีความจริงที่ศิลปินได้รายละเอียดเงา มุมปาก และตา ดังนั้นลักษณะที่แน่นอนของรอยยิ้มที่ไม่สามารถกำหนด คุณภาพของเงาที่ผลงานโด่งดังมา จะเรียกว่า " การเขียนแบบสีม่านหมอก " หรือ Leonardo ของควัน วาซารี ผู้โดยทั่วไปคิดว่ารู้จักภาพวาดโดยเฉพาะชื่อเสียง กล่าวว่า " ยิ้มก็น่ายินดีที่ดูเหมือนพระเจ้ามากกว่ามนุษย์ และคนที่เห็นก็ประหลาดใจที่พบว่ามันยังมีชีวิตอยู่เช่นเดิม " [ 84 ] [ 21 ] หมายเหตุลักษณะอื่น ๆที่พบในงานนี้เป็นชุด unadorned ซึ่งในสายตาและมือไม่มีการแข่งขันจากรายละเอียด อื่น ๆ , พื้นหลังแนวนอนอย่างมากในโลกที่ดูเหมือนจะอยู่ในสถานะของของเหลว ที่ปราบ และสีธรรมชาติแสนเรียบของเทคนิคเกี่ยวกับจิตรกรหรือภาพวาดที่ใช้น้ำมัน แต่วางไว้บนเหมือนสีฝุ่น และ ผสมบนพื้นผิวเพื่อให้รอยพู่กันไม่ต่างอะไร [ 22 ] หมายเหตุ วาซารี แสดงความเห็นว่า ลักษณะของภาพวาดที่จะทำให้ " อาจารย์มั่นใจที่สุด . . . . . . . สิ้นหวัง และเสียใจ " [ 87 ] สมบูรณ์สภาพการเก็บรักษาและข้อเท็จจริงที่ว่า ไม่มีร่องรอยของการซ่อมหรือ overpainting เป็นของหายากในแผงภาพวาดนี้วันที่ [ 88 ]ในรูปพระนางพรหมจารีและพระกุมารกับนักบุญอันนาองค์ประกอบอีกครั้งหยิบชุดของตัวเลขในแนวนอน ซึ่งวา ซอร์แมนอธิบายว่า " สวยงามโลดโผน " [ 89 ] และ harkens กลับไปเซนต์เจอโรมภาพกับรูปตั้งเฉียงมุม สิ่งที่ทำให้ภาพนี้ผิดปกติ คือ มีการบิดเบือนตัวเลขสองชุดเท่ากัน . แมรี่นั่งบนเข่าของแม่ของเธอ , เซนต์แอนน์ เธอโน้มตัวไปข้างหน้าเพื่อยับยั้งเด็กคริสต์เขาเล่นๆ กับลูกแกะ สัญลักษณ์ของการเสียสละของเขาเอง [ 21 ] ภาพนี้ซึ่งถูกคัดลอกหลายครั้ง อิทธิพลมิเกลันเจโล ราฟาเอลและรัฐโอคลาโฮมา [ 90 ] และผ่านพวกเขาจาโกโป ปอนตอร์โม และ Correggio . แนวโน้มขององค์ประกอบที่ใช้ในการโดยเฉพาะโดย Venetian จิตรกรและทินโทเรตโต เวโรเนเซ .