The other dimension examined in thi

The other dimension examined in this study was patients’ awareness, knowledge and skills education of which is necessary to begin the self-control process [22]. Training increases awareness and collaborative learning significantly and the video communication enhances it, because at the next session the patients' feedbacks would be confirmed. Our
findings concerning the increased awareness of diabetic patients are comparable with other studies [23-27]. The result obtained in this study, have showed statistically significant differences in the area of attitude scores of the test group after the educational intervention, which is consistent with previous studies [23-28]. The results showed that the patients’ mean
field performance in the test group has improved after the intervention. Mean pair t-test showed that the self-care behaviour scores in the test group is different, but not in the control group. Results of the earlier studies concerning the diabetic patients' physical activity [29] taking medications on time [30] and appropriate diet [31-33] were consistent with this study [34-36]. Statistical analysis showed a significant difference between HbA1c levels before and after intervention in the test group, but not in the control group. These results are consistent with other studies, too [17, 18, 35-37]. Reduction in haemoglobin A1C in the test group was comparable with other studies [35, 36]. Reduction of haemoglobin A1C is mainly the result of behaviour change in the test group and the average of blood glucose levels in patients during the 6-8 weeks education was closer to normal and in the long-term complications risk reduced [36]. Exercise has a major role in glucose metabolism. Blood glucose self monitoring provides the patients with possibility of continuous awareness of the problem and reducing or fixing it at an acceptable level for example through reduction of daily carbohydrates consumption.

ผลลัพธ์ (ไทย) 1:

มิติอื่น ๆ ในการศึกษานี้ได้คำนึงถึงผู้ป่วย การศึกษาความรู้และทักษะที่จำเป็นต้องเริ่มกระบวนการอำนาจ [22] ฝึกอบรมเพิ่มความรู้และการเรียนรู้ร่วมกันอย่างมีนัยสำคัญ และการสื่อสารวิดีโอช่วยได้ เนื่องจากในรอบถัดไป จะยืนยันผลตอบสนองของผู้ป่วย ของเราผลการวิจัยเกี่ยวกับการรับรู้ของผู้ป่วยโรคเบาหวานเพิ่มขึ้นจะเปรียบเทียบกับการศึกษาอื่น [23-27] ผลที่ได้รับในการศึกษานี้ ได้พบความแตกต่างอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ตั้งคะแนนทัศนคติของกลุ่มการทดสอบหลังจากศึกษาแทรกแซง ซึ่งสอดคล้องกับการศึกษาก่อนหน้านี้ [23-28] ผลพบว่าผู้ป่วยในหมายถึงมีการปรับปรุงประสิทธิภาพการทำงานฟิลด์ในกลุ่มการทดสอบหลังการแทรกแซง คู่หมายถึงการแสดงให้เห็นว่า คะแนนพฤติกรรมสุขภาพในกลุ่มทดสอบทดสอบ t จะแตกต่าง กัน แต่ไม่ใช่ ในกลุ่มควบคุม ผลการศึกษาก่อนหน้านี้ที่เกี่ยวข้องกับผู้ป่วยเป็นโรคเบาหวานกิจกรรมทางกายภาพ [29] การยาเวลา [30] และอาหารที่เหมาะสม [31-33] ได้สอดคล้องกับการศึกษานี้ [34-36] วิเคราะห์ทางสถิติพบว่าความแตกต่างอย่างมีนัยสำคัญระหว่างระดับ HbA1c ก่อน และ หลังการแทรกแซง ในกลุ่มทดสอบ แต่ไม่ได้อยู่ ในกลุ่มควบคุม ผลลัพธ์เหล่านี้จะสอดคล้องกับการศึกษาอื่น ๆ เกินไป [17, 18, 35-37] ลด haemoglobin A1C ในกลุ่มการทดสอบถูกเปรียบเทียบกับการศึกษาอื่น ๆ [35, 36] ลดของ haemoglobin A1C เป็นส่วนใหญ่ผลของการเปลี่ยนแปลงพฤติกรรมในกลุ่มทดสอบและค่าเฉลี่ยของระดับน้ำตาลในเลือดในผู้ป่วยระหว่าง 6-8 สัปดาห์การศึกษาถูกต้องปกติ และในภาวะแทรกซ้อนระยะยาว ความเสี่ยงลดลง [36] ออกกำลังกายมีบทบาทสำคัญในการเผาผลาญน้ำตาลกลูโคส น้ำตาลในเลือดด้วยตนเองตรวจสอบให้ผู้ป่วย มีความเป็นไปได้ของการรับรู้อย่างต่อเนื่องของปัญหา และลด หรือแก้ไขที่ระดับการยอมรับเช่นผ่านการลดปริมาณคาร์โบไฮเดรตทุกวัน

ผลลัพธ์ (ไทย) 2:

มิติอื่น ๆ การตรวจสอบในการศึกษาครั้งนี้คือการรับรู้ของผู้ป่วยมีความรู้และทักษะในการศึกษาที่มีความจำเป็นต้องเริ่มต้นกระบวนการการควบคุมตนเอง [22] การฝึกอบรมเพิ่มความตระหนักและการเรียนรู้การทำงานร่วมกันอย่างมีนัยสำคัญและการสื่อสารผ่านวิดีโอช่วยเพิ่มความมันเพราะในครั้งต่อไปการตอบรับของผู้ป่วยจะได้รับการยืนยัน เรา
ค้นพบเกี่ยวกับการรับรู้ที่เพิ่มขึ้นของผู้ป่วยโรคเบาหวานที่มีการเทียบเคียงกับการศึกษาอื่น ๆ [23-27] ผลที่ได้รับในการศึกษาครั้งนี้ได้แสดงให้เห็นความแตกต่างอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติในพื้นที่ของคะแนนทัศนคติของกลุ่มการทดสอบหลังจากการแทรกแซงการศึกษาซึ่งมีความสอดคล้องกับการศึกษาก่อนหน้า [23-28] ผลการศึกษาพบว่าผู้ป่วย 'หมายถึง
ประสิทธิภาพการทำงานของเขตข้อมูลในกลุ่มการทดสอบได้ดีขึ้นหลังจากการแทรกแซง คู่ค่าเฉลี่ย t-test พบว่าคะแนนพฤติกรรมการดูแลตนเองในกลุ่มการทดสอบที่แตกต่างกัน แต่ไม่ได้อยู่ในกลุ่มควบคุม ผลการศึกษาก่อนหน้านี้ที่เกี่ยวข้องกับผู้ป่วยโรคเบาหวาน 'การออกกำลังกาย [29] การใช้ยาในเวลา [30] และการรับประทานอาหารที่เหมาะสม [31-33] มีความสอดคล้องกับการศึกษาครั้งนี้ [34-36] การวิเคราะห์ทางสถิติแสดงให้เห็นความแตกต่างอย่างมีนัยสำคัญระหว่างระดับ HbA1c ก่อนและหลังการแทรกแซงในกลุ่มทดสอบ แต่ไม่ได้อยู่ในกลุ่มควบคุม ผลลัพธ์เหล่านี้มีความสอดคล้องกับการศึกษาอื่น ๆ ด้วย [17, 18, ​​35-37] การลด A1C ฮีโมโกลในกลุ่มการทดสอบก็เปรียบได้กับการศึกษาอื่น ๆ [35, 36] การลดลงของ A1C ฮีโมโกลส่วนใหญ่เป็นผลมาจากการเปลี่ยนแปลงพฤติกรรมในกลุ่มการทดสอบและค่าเฉลี่ยของระดับน้ำตาลในเลือดในผู้ป่วยในช่วง 6-8 สัปดาห์การศึกษาได้รับการใกล้ชิดกับปกติและภาวะแทรกซ้อนในระยะยาวมีความเสี่ยงลดลง [36] การออกกำลังกายมีบทบาทสำคัญในการเผาผลาญกลูโคส น้ำตาลในเลือดการตรวจสอบตัวเองให้ผู้ป่วยที่มีความเป็นไปของการรับรู้อย่างต่อเนื่องของปัญหาและการลดหรือแก้ไขมันในระดับที่ยอมรับเช่นผ่านการลดลงของการบริโภคคาร์โบไฮเดรตในชีวิตประจำวัน

ผลลัพธ์ (ไทย) 3:

อีกมิติในการศึกษา คือ การตรวจสอบ ของผู้ป่วย ความรู้ การศึกษา ทักษะที่จำเป็นเพื่อเริ่มต้นกระบวนการการควบคุมตนเอง [ 22 ] อบรมเพิ่มความรู้และการเรียนรู้ร่วมกันอย่างมีนัยสำคัญและวิดีโอการสื่อสารเพิ่ม เพราะที่เซสชั่นถัดไปของคนไข้กว่าจะได้รับการยืนยัน ของเรา
ข้อมูลเกี่ยวกับการเพิ่มความตระหนักของผู้ป่วยเบาหวานเปรียบเทียบกับการศึกษาอื่น ๆ [ 1 ] ผลที่ได้ในการศึกษานี้ พบว่ามีความแตกต่างอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติในพื้นที่ของคะแนนเจตคติของกลุ่มทดลองหลังการทดลอง การศึกษา ซึ่งสอดคล้องกับการศึกษาก่อนหน้านี้ [ 23-28 ] ผลการศึกษาพบว่าผู้ป่วยหมายถึง
งานเขตในกลุ่มทดสอบมีขึ้นหลังจากการแทรกแซง หมายถึง pair t-test พบว่า คะแนนพฤติกรรมการดูแลตนเองในกลุ่มทดสอบที่แตกต่างกัน แต่ไม่ได้อยู่ในกลุ่มควบคุม ผลการศึกษาก่อนหน้านี้เกี่ยวกับผู้ป่วยเบาหวาน [ 29 ] กิจกรรมทางกายภาพ ทานยาตรงเวลา [ 30 ] และ [ อาหารเหมาะสม 31-33 ] สอดคล้องกับการศึกษา [ 34-36 ]การวิเคราะห์ทางสถิติพบความแตกต่างอย่างมีนัยสำคัญระหว่างระดับผลก่อนและหลังการทดลองในกลุ่มทดลอง แต่ไม่ได้อยู่ในกลุ่มควบคุม ผลการวิจัยนี้สอดคล้องกับการศึกษาอื่นๆ ด้วย [ 17 , 18 , 35-37 ] ฮีโมโกลบิน A1C ลดลงในกลุ่มทดสอบเทียบเคียงกับการศึกษาอื่น ๆ [ 35 , 36 )ลดปริมาณของฮีโมโกลบิน A1C เป็นส่วนใหญ่ผลของพฤติกรรมการเปลี่ยนแปลงในกลุ่มทดสอบและค่าเฉลี่ยของระดับกลูโคสในเลือดของผู้ป่วย ในช่วง 6-8 สัปดาห์การศึกษาใกล้ปกติและภาวะแทรกซ้อนในระยะยาวความเสี่ยงลดลง [ 36 ] การออกกำลังกายมีบทบาทสำคัญในการเผาผลาญกลูโคสเลือดกลูโคสตรวจสอบตนเองให้ผู้ป่วยที่มีความเป็นไปได้ของการต่อเนื่องของปัญหาและการลดหรือแก้ไขมันในระดับที่ยอมรับตัวอย่างเช่นโดยลดการบริโภคคาร์โบไฮเดรตทุกวัน