The study of ritual and more of rel

The study of ritual and more of religion did not stop here. In the following decades other scholars added their own theoretical perspectives.

Marcel Mauss, a younger relative and follow scholar of Durkheim, looked at rituals in terms of exchange systems.

He documented elaborate ceremonies among some tribal groups, such as Native Americans, in which the leader of one group would host the community of a rival leader in a huge feast.

In Marcel’s theorization, this kind of action was a way of indebting the other group, since they were then bound to return the favor of the host.




In this way, the concept of “the gift,” and more broadly exchange, was theorized as a way in which society maintains a certain balance in the power of different groups controlled by opposing leaders.

Public displays of wealth, as in hosting a feast and providing gifts to guests, was a way of impressing others with one’s own wealth and ability to control the labor of one’s community.

Like Durkheim, Mauss thus saw public ritual as a means for maintaining the stability of society.

ผลลัพธ์ (ไทย) 1:

การศึกษาของพิธีกรรมของศาสนาก็ไม่ได้หยุดที่นี่ ในทศวรรษต่อไปนี้ นักวิชาการอื่น ๆ เพิ่มมุมมองทางทฤษฎีของตนเองMarcel Mauss ญาติที่น้องและทำตามนักวิชาการของ Durkheim ดูพิธีกรรมในแง่ของระบบอัตราแลกเปลี่ยน เขาบันทึกพิธีกรรมซับซ้อนในหมู่ชนเผ่าบางกลุ่ม เช่นพื้นเมืองอเมริกัน ผู้นำกลุ่มหนึ่งจะโฮสต์ชุมชนของผู้นำคู่แข่งในงานฉลองใหญ่ในของ Marcel theorization ชนิดของการดำเนินการนี้เป็นวิธีการ indebting กลุ่มอื่น ๆ เนื่องจากพวกเขาถูกมัดจากนั้นกลับโปรดปรานของโฮสต์ในวิธีนี้ แนวคิดของ "ของขวัญ" และอื่น ๆ ทั่วไปแลกเปลี่ยน ถูกมหาเศรษฐีเป็นวิธีที่สังคมรักษาความสมดุลในพลังของกลุ่มต่าง ๆ ที่ควบคุม โดยผู้นำฝ่ายตรงข้ามประชาชนแสดงให้ เช่นในการจัดงานฉลอง และให้ของขวัญแก่ผู้เข้าพัก วิธีการสร้างความประทับใจผู้อื่นด้วยความมั่งคั่งของตัวเองและสามารถควบคุมแรงงานของชุมชนเช่น Durkheim, Mauss จึงเห็นพิธีกรรมสาธารณะเป็นวิธีการรักษาความมั่นคงของสังคม

ผลลัพธ์ (ไทย) 2:

การศึกษาและอื่น ๆ พิธีกรรมของศาสนาไม่ได้หยุดอยู่ที่นี่ ในทศวรรษที่ผ่านมาดังต่อไปนี้นักวิชาการอื่น ๆ เพิ่มมุมมองทางทฤษฎีของตัวเอง.

Marcel Mauss, น้องญาติและติดตามนักวิชาการของ Durkheim มองพิธีกรรมในแง่ของระบบการแลกเปลี่ยน.

เขาเอกสารพิธีซับซ้อนระหว่างกลุ่มชนเผ่าบางอย่างเช่นชาวพื้นเมืองอเมริกันซึ่งใน ผู้นำของกลุ่มหนึ่งจะเป็นเจ้าภาพชุมชนของผู้นำที่เป็นคู่แข่งในงานฉลองใหญ่.

ใน theorization คลื่นของชนิดของการดำเนินการนี้เป็นวิธีการ indebting กลุ่มอื่น ๆ เนื่องจากพวกเขากำลังมุ่งหน้าไปแล้วจะกลับโปรดปรานของโฮสต์ได้.




ด้วยวิธีนี้ แนวคิดของ "ของขวัญ" และแลกเปลี่ยนวงกว้างมากขึ้นที่ถูกมหาเศรษฐีเป็นวิธีการในการที่สังคมยังคงรักษาความสมดุลบางอย่างในอำนาจของกลุ่มต่าง ๆ ที่ควบคุมโดยผู้นำของฝ่ายตรงข้ามได้.

แสดงสาธารณะที่มากมายเช่นในการเป็นเจ้าภาพงานเลี้ยงและการให้ของขวัญ แก่ผู้เข้าพักเป็นวิธีการสร้างความประทับใจให้คนอื่น ๆ ที่มีความมั่งคั่งของตัวเองและความสามารถในการควบคุมแรงงานแห่งหนึ่งของชุมชนได้.

ชอบ Durkheim, Mauss จึงเห็นพิธีกรรมประชาชนเป็นวิธีการรักษาความมั่นคงของสังคม

ผลลัพธ์ (ไทย) 3:

การศึกษาพิธีกรรมและศาสนาไม่ได้หยุดที่นี่ ในทศวรรษต่อไปนี้เป็นมุมมองของนักวิชาการอื่น ๆทฤษฎีมาเซล มูส , น้องญาติและติดตามบัณฑิตของเดิร์กไฮม์ , มองพิธีกรรมในแง่ของระบบแลกเปลี่ยนเขาจัดพิธีที่ซับซ้อนระหว่างชนเผ่าบางกลุ่ม เช่น คนอเมริกัน ซึ่งเป็นผู้นำของกลุ่มหนึ่ง จะเป็นเจ้าภาพในชุมชน ผู้นำของคู่แข่งในงานเลี้ยงขนาดใหญ่ใน theorization ของมาร์เซล ชนิดนี้ของการกระทำเป็นวิธีการ indebting กลุ่มอื่น เนื่องจากพวกเขามีแล้วต้องตอบแทนของโฮสต์ในวิธีนี้ แนวคิดของ " ของขวัญ " มากขึ้น ตรา เป็น เป็นวิธีที่สังคม theorized รักษาสมดุลบางอย่างในอำนาจของกลุ่มควบคุมโดยต่อต้านผู้นำแสดงสาธารณะของความมั่งคั่ง เป็นเจ้าภาพเลี้ยง และการให้ของขวัญแก่แขก เป็นวิธีการทำให้คนอื่น ๆที่มีหนึ่งของความมั่งคั่งและความสามารถในการควบคุมแรงงานของชุมชนชอบเดิร์กไฮม์ , mauss จึงเห็นพิธีกรรมสาธารณะเป็นเครื่องมือในการรักษาเสถียรภาพของสังคม