Individualism-collectivismA second

Individualism-collectivism
A second basic cultural dimension is individualism-collectivism. Collectivistic cultures emphasize community, collaboration, shared interests, harmony, tradition, the public good, and maintaining face. Individualistic cultures emphasize personal rights and responsibilities, privacy, voicing one’s own opinion, freedom, innovation, and self-expression.
In individualist societies, the ties between individuals are loose; everyone is expected to look after himself or herself and his or her immediate family. Conversely, in collectivist societies people are integrated into strong, cohesive in groups, which throughout people’s lifetime protect them in exchange for unquestioning loyalty (Hofstede, 1991, p.51)
The degree of individualism or collectivism in a culture determines how people love together (alone, in families, or in tribes), their values, and their reasons for communicating (Anderson,1985). Individualism is inextricably entwined with accessibility aspects of immediacy and the use of space is based on individualism (altman,1975). Property ownership distances people, limits sensory stimulation, and regulates access to privacy.
Individualism is very characteristic of the United States (bellah, madsen, Sullivan, Swidler, &Tipton,1985; Kim, 1994) the best and worst in U.S. culture can be attributed to individualism. Advocates of individualism have argued that it is the basis of freedom, creativity, and economic incentive. Nearly two centuries ago, Tocqueville(1835/1945) reported that the majority of Americans believe “that a man [or woman] by following his [her] own interest, rightly understood, will be led to do what is just and good”. Conversely, Bateson(1972) maintained that individual consciousness may pull humans out of their ecological niche and disrupt the systemic nature of life on Earth. Individualism has been blamed for alienation, loneliness, and materialism. The extreme individualism in the United States makes it difficult for its citizens to interact with those from less individualistic cultures.

ผลลัพธ์ (ไทย) 1:

ปัจเจก collectivism
collectivism ปัจเจกนิยมเป็นวัฒนธรรมพื้นฐานสองมิติ Collectivistic วัฒนธรรมเน้นชุมชน ร่วมกัน สถานที่ใช้ร่วมกัน สามัคคี ประเพณี สาธารณะดี และรักษาการหน้า วัฒนธรรม individualistic เน้นสิทธิส่วนบุคคล และความรับผิดชอบ ความเป็นส่วน ตัว เสียงจิตตัง เสรีภาพ นวัตกรรม และ self-expression
มีหลวม ใน individualist สังคม ความสัมพันธ์ระหว่างบุคคล ทุกคนจะต้องดูแลตัวเอง หรือตัวเอง และครอบครัวของเขา หรือเธอ ในทางกลับกัน ในสังคม collectivist คนรวมเข้ากับแข็งแรง เหนียวในกลุ่ม ซึ่งตลอดชีวิตของประชาชนปกป้องพวกเขาแลกเปลี่ยนสมาชิก unquestioning (อย่างไร Hofstede, 1991, p.51)
ระดับของปัจเจกหรือ collectivism ในวัฒนธรรมกำหนดว่าคนรักกัน (คนเดียว ครอบครัว หรือ ในชนเผ่า), ค่า และเหตุผลการสื่อสาร (แอนเดอร์สัน 1985) ปัจเจกคือ inextricably entwined กับความด้านของ immediacy และใช้พื้นที่ตามปัจเจก (altman, 1975) คุณสมบัติความเป็นเจ้าของความยาวที่มากกว่าคน จำกัดกระตุ้นทางประสาทสัมผัส และกำหนดเข้าถึงความเป็นส่วนตัว
ปัจเจกมีมากลักษณะของสหรัฐอเมริกา (bellah แมดเซน แวน Swidler, &Tipton, 1985 คิม 1994) ส่วนการร้ายในสหรัฐอเมริกาวัฒนธรรมสามารถเกิดจากปัจเจกได้ สนับสนุนของปัจเจกได้โต้เถียงว่า เป็นพื้นฐานของเสรีภาพ ความคิดสร้างสรรค์ และจูงใจทางเศรษฐกิจ เกือบสองศตวรรษที่ผ่านมา Tocqueville(1835/1945) รายงานว่า ชาวอเมริกันส่วนใหญ่เชื่อว่า "ที่เป็นชาย [หรือผู้หญิง] ตามเขา [] เองสนใจ เรื่องเข้าใจ จะนำไปทำเพียง และดีคืออะไร" ในทางกลับกัน Bateson(1972) รักษาว่า สำนึกแต่ละอาจดึงมนุษย์ออกมาจากโพรงของระบบนิเวศ และรบกวนระบบธรรมชาติของสิ่งมีชีวิตบนโลก มีการตำหนิปัจเจกนิยมสุด ความเหงา และนิยมวิภาษ ปัจเจกนิยมมากในสหรัฐอเมริกาทำให้ยากสำหรับประชาชนของการโต้ตอบกับจากวัฒนธรรมน้อย individualistic

ผลลัพธ์ (ไทย) 2:

ปัจเจก-ส่วนรวม
มิติทางวัฒนธรรมที่สองพื้นฐานคือปัจเจก-ส่วนรวม วัฒนธรรม collectivistic ชุมชนเน้นการทำงานร่วมกันผลประโยชน์ร่วมกันสามัคคีประเพณีที่ดีของประชาชนและการบำรุงรักษาผิวหน้า วัฒนธรรมที่แต่ละเน้นสิทธิส่วนบุคคลและความรับผิดชอบของความเป็นส่วนตัวประกาศความคิดของตัวเองหนึ่งของเสรีภาพนวัตกรรมและการแสดงออก
ในสังคมปัจเจก, ความสัมพันธ์ระหว่างบุคคลที่มีหลวมทุกคนคาดว่าจะดูแลตัวเองและครอบครัวของเขาหรือเธอทันที . ตรงกันข้ามในสังคมฝ่ายซ้ายคนจะรวมอยู่ในความแข็งแรงเหนียวในกลุ่มซึ่งตลอดชีวิตของผู้คนปกป้องพวกเขาเพื่อแลกกับความจงรักภักดีกังขา (Hofstede, 1991, หน้า 51)
ระดับของปัจเจกหรือคติในวัฒนธรรมเป็นตัวกำหนดว่าคนรักกัน ( คนเดียวในครอบครัวหรือในชนเผ่า) ค่านิยมของพวกเขาและเหตุผลของพวกเขาสำหรับการสื่อสาร (Anderson, 1985) ปัจเจกถูกโอบแล้วความสัมพันธุ์กับด้านการเข้าถึงของความฉับไวและการใช้พื้นที่จะขึ้นอยู่กับการแสวงหาผลประโยชน์ (Altman, 1975) เป็นเจ้าของทรัพย์สินระยะทางที่คน จำกัด การกระตุ้นประสาทสัมผัสและการควบคุมการเข้าถึงความเป็นส่วนตัวของ
ปัจเจกเป็นลักษณะของสหรัฐอเมริกา (Bellah เซนซัลลิแวน, Swidler และ Tipton, 1985; คิม, 1994) ที่ดีที่สุดและเลวร้ายที่สุดในวัฒนธรรมของสหรัฐอเมริกาสามารถนำมาประกอบ กับปัจเจก สนับสนุนของปัจเจกได้แย้งว่ามันเป็นพื้นฐานของเสรีภาพในความคิดสร้างสรรค์และแรงจูงใจทางเศรษฐกิจ เกือบสองศตวรรษที่ผ่านมา Tocqueville (1835/1945) รายงานว่าชาวอเมริกันส่วนใหญ่เชื่อว่า "ที่คน [หรือหญิง] โดยต่อไปนี้ของเขา [เธอ] ความสนใจของตัวเองที่เข้าใจอย่างถูกต้องจะนำไปสู่การทำในสิ่งที่เป็นเพียงและดี" ตรงกันข้ามเบตสัน (1972) ยืนยันว่าจิตสำนึกของแต่ละบุคคลอาจจะดึงคนออกมาจากช่องทางนิเวศวิทยาของพวกเขาและทำลายระบบธรรมชาติของสิ่งมีชีวิตบนโลก ปัจเจกได้รับการตำหนิสำหรับการจำหน่ายเหงาและวัตถุนิยม ปัจเจกนิยมมากในประเทศสหรัฐอเมริกาทำให้มันยากสำหรับประชาชนในการมีปฏิสัมพันธ์กับผู้ที่มาจากวัฒนธรรมที่แต่ละตัวน้อย

ผลลัพธ์ (ไทย) 3:

ปัจเจกนิยม collectivism
สองขั้นพื้นฐานมิติทางวัฒนธรรมเป็นปัจเจก collectivism . วัฒนธรรม collectivistic เน้นชุมชน ความร่วมมือ ความสนใจร่วมกัน สามัคคี ประเพณี สังคม และการรักษาใบหน้า วัฒนธรรมปัจเจกเน้นสิทธิส่วนบุคคลและความรับผิดชอบ , ความเป็นส่วนตัว , voicing ความคิดเห็นของตนเอง , เสรีภาพ , นวัตกรรม , และการแสดงออก .
ใน individualist สังคม ความสัมพันธ์ระหว่างบุคคลจะหลวม ทุกคนคาดว่าจะดูแลตัวเอง และครอบครัวของเขา หรือเธอทันที ในทางกลับกัน ใน collectivist สังคมคนรวมอยู่ในกลุ่มที่แข็งแกร่ง , เหนียว ซึ่งตลอดชีวิตของคนปกป้องพวกเขาในการแลกเปลี่ยนสำหรับไม่มีปัญหาความภักดี ( ฮอฟสติด 1991 p.51 )
ระดับปัจเจก หรือ collectivism ในวัฒนธรรมที่กำหนดว่าคนรักกัน ( คนเดียวในครอบครัว หรือในตระกูล ) , ค่าของพวกเขา และเหตุผลของการติดต่อสื่อสาร ( Anderson , 1985 ) ปัจเจกนิยมเป็นพัลวันพัวพันกับการเข้าถึงด้านของความเร่งด่วนและใช้พื้นที่ตามปัจเจก ( อัลท์แมน , 1975 ) ความเป็นเจ้าของทรัพย์สินระยะทางคนขีดจำกัดการกระตุ้นประสาทรับความรู้สึกและควบคุมการเข้าถึงความเป็นส่วนตัว .
ปัจเจกนิยมมากลักษณะของสหรัฐอเมริกา ( เบลลา แมดเซ่น ซัลลิแวน swidler , &ทิปตัน , 1985 ; คิม , 1994 ) ที่ดีที่สุดและเลวร้ายที่สุดในสหรัฐฯ อาจจะเกิดจากวัฒนธรรมปัจเจกนิยม ทนายความของปัจเจกชนได้ถกเถียงกันอยู่ว่ามันเป็นพื้นฐานของเสรีภาพความคิดสร้างสรรค์และแรงจูงใจทางเศรษฐกิจ เกือบสองศตวรรษก่อนต็อกเกอวิลล์ ( 835 / 2488 ) รายงานว่า ชาวอเมริกันส่วนใหญ่เชื่อว่า " ผู้ชาย ( หรือผู้หญิง ] [ เธอ ] เองตามความสนใจ ให้เข้าใจ จะทำให้ต้องทำสิ่งที่ถูกและดี " ในทางกลับกัน เบตสัน ( 1972 ) ยืนยันว่า สติ บุคคลอาจจะดึงคนออกจากโพรงของพวกเขา และทำลายระบบนิเวศธรรมชาติระบบของชีวิตบนโลกซึ่งได้รับการตำหนิสำหรับความแปลกแยก ความเหงา และวัตถุนิยม ที่นิยมมากในสหรัฐอเมริกาทำให้ยากสำหรับประชาชนที่จะโต้ตอบกับแต่ละตัวน้อย
จากวัฒนธรรม